ในช่วงเทศกาลหยุดยาวที่ผ่านมา หลายท่านอาจจะพักผ่อนนอนอยู่บ้าน แต่ก็มีหลายท่านที่ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเดินทางท่องท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทางไกล หรือไกล ซึ่งก็เชื่อว่าหลาย ๆ ท่าน คงต้องเดินทางไปพร้อมกับรถคู่ใจ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นตัวรถยนต์ของใครหลายคนก้คงถูกใช้งานมาอย่างหนักมิใช่น้อย ยิ่งถ้าใครเดินทางระยะไกลรวมถึงกับขับรถเข้าเส้นทาง ที่เป็นหลุมบ่อ รวมถึงถนนที่ขรุขระ หรือแอ่งน้ำต่าง ๆ การเช็คสภาพรถยนต์หลังจากใช้เดินทางไกล จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นเพื่อให้รถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เราควรที่จะต้องทำการตรวจเช็ครถเบื้องต้นว่ารถมีการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดความเสียหายอะไรบ้าง เช่นนั้นทางทีมงาน Autostation.com จึงจะพาเพื่อนไปตรวจเช็คสภาพรถหลังจากการใช้งาน ต้องเช็คอะไรบ้าง มาดูกัน!
ตรวจสภาพยาง
สิ่งแรกที่ควรตรวจก็คือสภาพของยางรถยนต์ ซึ่งหลังผ่านการเดินไกลในวันหยุดยาว สิ่งโดยใช้งานมากที่สุดก็คือตัวยาง เราควรต้องตรวจสอบเป็นอันดับแรก ดูว่าดอกยางสึกหรอมากน้อยแค่ไหน โดยให้สังเกตจากสะพานยาง ความแข็งของแก้มยาง รวมทั้งดูรอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่อาจจากการที่ตัวยาง ไปขูดโดนของแข็งขณะขับขี่ พร้อมดูว่ามีเศษหินหรือเศษกรวดติดร่องดอกยางหรือไม่ ถ้ามีให้นำออกทันที รวมทั้งควรที่จะตรวจเช็คปริมาณลมยางที่เหลืออยู่ก่อนพิจารณาว่าควรเติมลมยางเพิ่มหรือไม่
ระบบเบรก
หลังจากดูสภาพยางแล้ว สิ่งต่อมาก็คือระบบเบรก ในระหว่างที่คุณเดินทาง จะมีการใช้งานเบรกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเวลารถติด รถเคลื่อนตัวช้า หรือแม้แต่ลงเนิน ซึ่งผู้ใช้รถควรตรวจสอบสภาพผ้าเบรกว่าเหลือความหนาเท่าไหร่ จานเบรกมีการสึกหรอหรือไม่ และสภาพน้ำมันเบรกในปัจจุบัน
ของเหลวต่าง ๆ
หลังการเดินทางไกลเราควรเช็คระบบของเหลวต่าง ๆ อาทิ น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเบรก, น้ำหล่อเย็น, น้ำฉีดกระจกปัดน้ำฝน เป็นต้น ว่ามีอาการพร่อง หรือรั่วซึมหรือไม่ ถ้าลดลงก็ควรแก้ไขเติมในระดับพอดีไม่เกินขีด Max ขณะที่ในส่วนของน้ำมันเครื่องควรเช็คสภาพของสีน้ำมัน คราบเขม่า เพื่อพิจารณาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันควบคู่ด้วย
แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากของเหลวเกิดการลดลงอย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่เติมของเหลวแล้วกลับลดลงรวดเร็ว ควรนัดศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ และแก้ไขโดยทันที
สภาพสีตัวถัง และสีรอบคัน
การเดินทางไกล ซึ่งจะต้องเจอทั้งฝุ่นที่อยู่บนอากาศ หรือแม้แต่ฝุ่นจากท้องถนน ซึ่งผู้ใช้รถควรจะล้างรถ และเช็คสภาพของสีตัวถังทั้งรอยบุบ หรือรอยขีดข่วนด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายของเนื้อสีข้างใน และอาจส่งผลต่อความเสียหายของตัวถังในระยะยาวได้
ไส้กรองแอร์
ในระหว่างเดินทาง หากภายในห้องโดยสารยังรู้สึกถึงกลิ่นอับผ่านช่องแอร์ แม้จะทำความสะอาดภายในหมดจดแล้ว ควรตรวจสอบสภาพไส้กรองแอร์ว่าสกปรกมากน้อยแค่ไหน เพราะถึงแม้จะเดินทางต่างจังหวัด ก็ยังเจอทั้งฝุ่น และมลภาวะในระหว่างทางที่สูงไม่แพ้กัน หากพบว่าสกปรกมากควรเปลี่ยนไส้กรองทันที
ไส้กรองอากาศ
นอกจากไส้กรองแอร์ แล้วควรตรวจสภาพไส้กรองอากาศ ซึ่งในระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัด จะไม่ได้เจอแค่เพียงเศษฝุ่น แต่อาจจะมีทั้งเศษใบไม้ เศษกรวด หรือแม้แต่แมลงที่ดูดเข้ามาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งจะส่งผลให้ต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศเร็วกว่าที่คิด ทางที่ดีก่อนเดินทางควรซื้อไส้กรองแอร์ และไส้กรองอากาศสำรองไว้ในบ้านแต่เนิ่น ๆ
เช็คระบบไฟ
เช็คไฟรอบคัน ดูว่าติดครบทุกดวงหรือไม่จะเป็น ไฟเลี้ยว/ ไฟหน้า/ ไฟท้าย / ไฟตัดหมอก /ไฟฉุกเฉิน หากมีไฟส่วนไหนไม่ติด ควรนำรถเข้าศุรย์บริการเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟ และนอกเหนือจากไฟแล้วยังต้องสังเกตสัญญาณไฟจากหน้าปัดรถยนต์ด้วย หากมีสัญลักษณ์แจ้งเตือนที่แตกต่างจากที่เคยใช้ และเคยเห็น ควรตรวจสอบ โดยเปิดเทียบกับคู่มือ และแก้ไขให้ตรงจุดตามคำแนะนำ
การตรวจเช็คสภาพรถหลังหลังจากใช้งานขับทางไกลในช่วงเทศกาลหยุดยาว นับว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะในระหว่างการเดินทางจะเป็นช่วงที่ใช้งานรถที่หนักมาก รวมทั้งยังเจอสภาพถนนที่แตกต่างการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพชิ้นส่วนของรถโดยตรง
ดังนั้นการเช็คสภาพเบื้อนต้น อาจจะช่วยให้เจออาการผิดปกติ ซึ่งก็จะทำให้สามารถวางแผนการซ่อมแซมได้แต่เนิ่น ๆ และช่วยลดค่าใช้จ่ายที่บานปลายได้อีกด้วย