หลังจากเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมาทาง MINI ได้เปิดตัว Mini Cooper ใหม่ที่มาในรูปแบบไฟฟ้า 100% และเมื่อต้นปีก็ตามออกมาติด ๆ ในเวอร์ชันเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งทั้งหมดมาในรูปแบบแฮทช์แบ็ก 3 ประตู
ล่าสุดทางมินิ เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยการเผยโฉมในเวอร์ชัน 5 ประตู แต่ในช่วงแรกนี้จะมีเฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปเท่านั้น แต่มีให้เลือก 2 ระดับความแรง ได้แก่รุ่น Cooper C ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเทอร์โบ 1.5 ลิตร 154 แรงม้า และรุ่น Cooper S กับเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ 201 แรงม้า
ในด้านงานออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ของ Mini Cooper ใหม่เวอร์ชัน 5 ประตู จะมีความเหมือนกับในเวอร์ชัน 3 ประตู ไม่ว่าจะะเป็นชุดไฟหน้า LED ทรงกลมทั้งด้านหน้า ในขณะที่ไฟท้ายยังคงมาในทรงสามเหลี่ยมอันคุ้นเคย กระจังหน้าลายตะแกรงที่แบ่งออกเเป็น 2 ส่วน โดยจะมีความเรียวเล็กลงกว่ารุ่น 3 ประตูเล็กน้อย
มาพร้อมล้ออัลลอยที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 16 ไปจนถึง 18 นิ้ว ส่วนในเฉดสีตัวถัง และสีหลังคานั้นมีให้เลือกหลากหลายตามความชอบ
นอกจากนั้น Mini Cooper เวอร์ชัน 5 ประตูใหม่นี้ยังมีการตกแต่งให้เลือกทั้งหมด 4 เกรด เพิ่มเติมด้วยรุ่น JCW เช่นเดียวกับรุ่น 3 ประตู เพิ่มการอัพเกรดแบบสปอร์ต เช่น ดิฟฟิวเซอร์และขอบสีดำ
ขณะที่ในส่วนที่แตกต่างของรุ่น 5 ประตู และ 3 ประตูนั้น จะอยู่ที่ตั้งแต่เสา B เป็นต้นไป เพื่อรองรับประตูคู่หลังที่เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งผลทำให้มีระะยะฐานล้อเพื่อยาวขึ้นอีก 2.8 นิ้ว รวมทั้งขยายตัวถังให้ยาวขึ้นเกือบ 7 นิ้ว
ซึ่งตอนนี้ทาง MINI ยังไม่ได้กล่าวถึงขนาดพื้นที่การวางขาสำหรับผู้โดยสารเบาะหลัง แต่เพียงแค่บอกว่าจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระจะมีความจุอยู่ที่ 923 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวหลัง จะเพิ่มขึ้นกว่ารุ่น 3 ประตูที่พับเบาะหลังแล้วอีก 123 ลิตร
ส่งผลทำให้มิติตัวรถของ Mini Cooper 5 Door ใหม่ จะมีความยาวอยู่ที่ 4,036 มม. กว้าง 1,744 มม. สูง 1,464 มม. รวมทั้งยังคงลักษณะขอว Overhang ที่สั้นเหมือนเดิม
ภายในห้องโดยสารจะมีการตกแต่งให้เลือกถึง 4 แบบ โดยในรีุ่นเริ่มต้น Essential มาพร้อมกับเบาะผ้าสีดำ มาพร้อมผ้าพิมพ์ลาย ส่วนในรุ่น Classic จะเปลี่ยนจากพวงมาลัย 2 ก้านในเกรดเริ่มต้นเป็นพวงมาลัย 3 ก้าน
ขยับขึ้นมาเป็นในรุ่น Favored ในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะมาในแบบลายสีทูโทน ส่วนเกรดแต่ง JCW รุ่นสปอร์ตนั้นจะตกแต่งก้วยวัสดุหนังใช้หนังสีดำ ตัดเย็บผสมผสานกับผ้าหลายสี พร้อมเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง
ด้านชุดอุปกรณ์ของทุกรุ่นนั้นจะได้รับหน้าจอ OLED ทรงกลมขนาด 9.4 นิ้ว ที่วางอยู่ตรงกลางแผงแดชบอร์ด มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Operating System 9 ที่มาพร้อมกับผู้ช่วยอัจฉริยะ โดยมี 7 โหมดเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารให้เลือก
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะได้รัยระบบช่วยนำรถเข้าช่องจอดอัจฉริยะ Parking Assistant Plus ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์อัลตร้าโซนิกส์จำนวน 12 ตัว
ขณะที่ในพละกำลังขับเคลื่อนของ Mini Cooper รุ่น 5 ประตู จะมีเฉพาะเครื่องยนต์สันดาปเท่านั้น โดยขุมพลังในรุ่นเริ่มต้น Cooper C ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเทอร์โบ 1.5 ลิตร 154 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 8.0 วินาที
ส่วนในรุ่น Cooper S จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-มตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 6.8 วินาที
Mini Cooper 5 Door ใหม่ จะมีเฉดสีตัวถังให้เลือกมากถึง 11 สี มากับสีหลังคา 3 สีที่ตัดกัน ด้านราคาจำหน่าย และกำหนดเปิดวางขายนั้นทาง MINI ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมุบอกมาในตอนนี้
