Abarth แบรนด์ผู้ผลิตรถสมรรถนะสูงคู่บุญของทาง Fiat และ Alfa Romeo ได้เข้าเข้าสู่โลกของยานยยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัว Abarth 500e Scorpionissima รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบมินิแฮทช์แบ็ค โดยได้เพิ่มความร้อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้น รวมถึงกับสวมชุดแต่งรอบคันที่เสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ต มาพร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ พร้อมใส่เสียงสังเคราะห์ ที่ทำให้รถส่งเสียงคำรามราวกับขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์
สำหรับ 500e Scorpionissima รถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่ของทางสำนักแต่ง Abarth นี้ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก Fiat New 500 หรือชื่อ 500e โดยทาง Abarth ได้รับการอัปเกรดมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีกำลังถึง 155 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร
ซึ่งการปรับจูนนี้ส่งผลทำให้ 500e Scorpionissima มีพละกำลังที่มากว่ารุ่นมาตรฐาน ที่ออกมาจากโรงงานถึง 37 แรงม้า อีกมั้งยังมีแรงบิดเพิ่มขึ้น 15 นิวตันเมตร ซึ่งด้วยกำลังที่เพิ่มขึ้นทำให้มินิแฮทช์แบ็คไฟฟ้าคันนี้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7 วินาที ซุึ่งเร็วกว่า Fiat New 500 ถึง 2 วินาที
นอกจากนั้นยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกเล่นถึง 3 โหมดด้วยกันเริ่มจาก โหมด Turismo ที่ตัวรถจะลดกำลังเครื่องยนต์เหลือเพียง 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร เพื่อสำหรับผู้ขับที่ต้องการเน้นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน
ขณะที่ในโหมด Scorpion Street ช่วยให้เข้าถึงประสิทธิภาพได้เต็มที่ พร้อมกับจะช่วยเก็บคืนพลังงานจากการเบรกเข้าสู่แบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด และปิดท้ายด้วยโหมด Scorpion Track ที่เป็นโหมดที่รีดพละกำลังของตัวรถออกมาได้อย่างส่ะใจ
และพิเศษสำหรับ Abarth 500e Scorpionissima ทาง Abarth ยังได้ติดตั้งเสียงสังเคราะห์ โดยเมื่อผู้ขับใช้ความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. จะมีเสียงที่เรียกว่า Strumming Guitar หรือเสียงดีดกีตาร์ ดังออกมา โดยจะมาแทนที่เสียงเดิมของ New 500 ที่เป็นเสียงแบบ Nino Rota แล้วหลังจากนั้นก็จะมีเสียงสังเคราะห์ Sound Generator ที่เป็นเสียงคำรามจากเครื่องยนต์สันดาปเข้ามาเมื่อผู้ขับขี่กดคันเร่ง
ในด้านชุดแบตเตอรี่ Abarth 500e ยังคงมากับแบตเตอรี่ขนาด 42 kWh เหมือนกับ New 500 แต่ทาง Abarth ไม่ได้เผยตัวเลขระยะทางออกมา แต่คาดว่าน่าจะน้อยกงว่า 321 กม. (199 ไมล์) ของ Fiat 500e
ด้านการชาร์จประจุไฟนั้นจะมาพร้อมกับ ระบบชาร์จเร็วแบบใหม่ขนาด 85 kW ซึ่งสามารถเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 40 กม. (25 ไมล์) ด้วยการชาร์จไฟไม่ถึง 5 นาที ในขณะที่การชาร์จ 0-80% จะใช้เวลาเพียง 35 นาที
สำหรับในด้านรูปลักษณ์การดีไซน์ภายนอกนั้นยังคงยดรายละเอียดแบบเดิมของ Fiat 500e มา มีเพียงปรับรูปลักษณ์ให้ดูสปอร์ตและดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยชุดกันชนหน้า-หลังและกระจังหน้าแบบใหม่ รวมถึงติดตั้งล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว
พร้อมกับติดลายกราฟฟิกชื่อ Abarth ไว้ที่ประตูด้านข้างรถถึงสัญลักษณ์รูปแมงป่องที่คาดกลางลำตัวด้วยสายฟ้าไว้ที่เหนือซุ้มล้อด้านท้ายทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนด้านท้ายใส่ความสปอร์ตด้วยดิวฟิวเซอร์หลังที่ตกแต่งด้วยโครเมียม นอกจากนี้ยังมากับหลังคากระจก Panoramic Glass Roof ขณะที่สีตัวถังของ Abarth 500e Scorpionissima จะมีให้เลือก 2 สีคือสีเขียว Acid Green และสีน้ำเงิน Poison Blue
ด้านภายในห้องโดยสารจะมาในโทนสีดำ พร้อมด้วยเบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Alcantara พร้อมปักตราสัญลักษณ์แมงป่องสีเขียวไว้บริเวณพนักพิงศรีษะ
แผงแดชบอร์ดติดตั้งติดตั้งแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว ที่มาพร้อมกับกราฟิกใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Abarth วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่มาพร้อมโลโก้แมงป่องตรงกลาง ขณะที่ตรงกลางติดตั้งหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว
Abarth 500e Scorpionissima มีให้เลือกทั้งแบบแฮทช์แบค 3 ประตู และแบบ Cabrio 2 ประตู โดยจะถูกผลิตออกมาเพียง 1,949 คัน เพื่อเป็นเกียรติแก่ปีก่อตั้งบริษัท ส่วนสนนราคาค่าตัวทาง Abarth ยังไม่มีการประกาศออกมา เพียงแต่เผยว่าจะเปิดรับจองรถรุ่นพิเศษทางออนไลน์เฉพาะสำหรับสมาชิก Abarth Community เท่านั้น