โตโยต้าประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฮบริด เปิดตัว All-New Toyota CAMRY รถยนต์ Hybrid Medium Size Sedan รุ่นใหม่ล่าสุดในตลาดเมืองไทย โดยในรุ่นนี้นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9 ของซีดานเรือธงสุดฮิตจากแดนอาทิตย์อุทัย
All-New CAMRY ใหม่ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “SEDAN TO THE CORE” ที่มาพร้อมความหรูหราที่สมบูรณ์แบบ ผสานกับฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายครบครัน และมั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานโตโยต้า นอกจากนั้นในทุกรุ่นย่อยของแคมรี่ใหม่ ยังมาพร้อมกับขุมพลัง HEV Hybrid เจเนอเรชันใหม่ที่ให้กำลัง 227 แรงม้า มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
- All-New Toyota CAMRY รุ่น HEV SMART ราคา 1,475,000 บาท ราคาพิเศษช่วงแนะนำ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคา 1,455,000 บาท
- All-New Toyota CAMRY รุ่น HEV PREMIUM ราคา 1,659,000 บาท ราคาพิเศษช่วงแนะนำ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคา 1,639,000 บาท
- All-New Toyota CAMRY รุ่น HEV PREMIUM LUXURY ราคา 1,809,000 บาท ราคาพิเศษช่วงแนะนำ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคา 1,789,000 บาท
สำหรับสี Platinum White Pearl, Precious Metal และ Cement Gray เพิ่ม 10,000 บาท
- พร้อมขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ มูลค่า 47,000 บาท ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด
- และขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่จอง ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2567 เลือกรับข้อเสนอ
-
- ทางเลือกที่ 1: ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.59% (ดอกเบี้ยคำนวณที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป นาน 48 เดือน) หรือ
- ทางเลือกที่ 2: ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ภายนอกใช้ธีมการออกแบบ Energetic Beauty ด้วยกระจังหน้าแบบ Hammerhead มาพร้อมไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับไฟฟ้า และพับเก็บไฟฟ้าอัตโนมัติ พร้อมระบบความจำ และระบบ Reverse link อีกทั้งในส่วนกระจกบังลมหน้าแบบจะมาในแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass ด้านชุดล้ออัลลอยจะมีขนาดตั้งแต่ 17 – 18 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย)
ด้านมิติตัวรถจะมีความยาว 4,920 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,445 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,825 มม. โดยมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร
ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด Energetic Beauty ที่สะท้อนความเป็นผู้นำ ถ่ายทอดผ่านความหรูหราอย่างเรียบง่าย แต่ทันสมัยประณีตทั้งภายในและภายนอก มาพร้อมชุดอุปกรณ์ และฟังก์ชันต่างๆ เน้นความสะดวกสบาย ทันสมัยและใช้งานง่าย
พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบอย่างประณีต เรียบง่ายแต่ทันสมัย เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์ โทนสีภายในให้เลือก 2 โทนสี คือ สีดำ Black Interior และสีน้ำตาล Yellow Brown Interior และพิเศษเฉพาะรุ่น HEV PREMIUM LUXURY จะมากับสีเงิน Precious Metal และสีขาว Platinum White Pearl
ด้านเบาะนั่งด้านผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบความจำ 2 ตำแหน่ง และปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า และระบบเลื่อนถอยหลังอัตโนมัติ ขณะเข้า-ออกจากตัวรถ ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และ 8 ทิศทางในรุ่นท๊อป พร้อม Seat Ventilator และปุ่มปรับบริเวณข้างพนักพิง อีกทั้งยังมากัะระบบเลื่อนถอยหลังอัตโนมัติ ขณะเข้า-ออกจากตัวรถ อีกทั้งเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับพนักพิงไฟฟ้า
นอกจากนั้นที่วางแขนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง ยังมาพร้อมที่วางแก้วแบบพับเก็บได้ และแผงควบคุมระบบสัมผัสแบบดิจิตอล (สำหรับในรุ่น HEV PREMIUM LUXURY)
แผงแดชบอร์ดในรุ่นเริ่มต้นจะได้รับหน้าจอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว ส่วนในรุ่น HEV PREMIUM และ HEV PREMIUM LUXURY จะมีขนาด 12.3 นิ้ว
นอกจากนี้ในทุกรุ่นจะได้รับหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อม T-Connect และพิเศษในรุ่นท็อปจะได้รับจอ HUD ที่สะท้อนข้อมุลไปยังกระจกบังลมหน้าอีกด้วย
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับระบบ Smart Entry และ Push Start, ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า, ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ, ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า
ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง (ในรุ่นท็อปจะเป็นชุดเครื่องเสียง JBL ที่มากับลำโพง 9 ตำแหน่ง), ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB Type-C 5 ตำแหน่ง, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ม่านบังแดดประตูหลัง Rear Side Sunshade, ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า Electric Rear Sunshade และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger
นอกจากนั้นยังให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง กว้างขวาง สบายตา ด้วย หลังคา Panoramic Roof แบบเปิดได้ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
ในด้านสมรรถนะทุกรุ่นย่อย จะมากับขุมพลัง HEV Hybrid เจเนอเรชันใหม่ ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ที่ให้กำลัง 186 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิด 221 นิวตันเมตร ผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรที่ให้กลำลัง 100 kW (134 แรงม้า) แรงบิด 208 นิวตันเมตร ให้กำลังรวมทั้งระบบ 227 แรงม้า ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ E-CVT โหมดการขับขี่ EV / ECO / NORMAL / SPORT
มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 251.6 โวลต์ พร้อมอัตราการใช้น้ำมัน 25 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO STICKER โดยทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) มาพร้อมประโยชน์มากมายจาก TNGA เช่น จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ลดอาการโคลงตัว โครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง รองรับแรงบิด เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน
ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบอิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง มาพร้อมระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ
ในด้านระบบความปลอดภัยของของ Toyota CAMRY ใหม่จะได้รับการติตดั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุด Toyota Safety Sense เจเนอเรชันใหม่ในทุกรุ่นย่อย อาทิกล้องมองรอบคัน, กล้องมองภาพขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู Safe Exit Assist, ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู Safe Exit Assist, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control และลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง และ ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS เป็นต้น
สำหรับ All-New Toyota CAMRY ใหม่จะมีสีภายนอกให้เลือก 4 สีได้แก่ สีเงิน Precious Metal, สีเทา Cement Gray Metallic, สีขาว Platinum White Pearl, สีดำ Attitude Black Mica