หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง มินิ ประเทศไทย ได้เปิดรับพรีออเดอร์ MINI Cooper SE (มินิ คูเปอร์ เอสอี) ล่าสุดทาง MINI เปิดตัว MINI Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย
สำหรับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ นับเป็น MINI Cooper เจเนอเรชันที่ 5 ที่พร้อมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ด้านรูปลักษณ์มาในดีไซน์มินิมอลสุดล้ำ พร้อมสมรรถนะการขับขี่แบบ “Electrified Go-Kart” ที่ยังคงสนุก เร้าใจด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 218 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 54.2 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลถึง 402 กม. เคาะราคาจำหน่ายที่ 1.699 ล้านบาท
ในด้านงานดีไซน์ของมินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ยังคงมาในรูปทรงที่กะทัดรัด ช่วงหน้ารถที่สั้น และคล่องตัว กระจังหน้าดีไซน์ใหม่มาในรูปทรงแปดเหลี่ยมในสีใหม่ Vibrant Silver เสริมเส้นสายการดีไซน์ที่คมชัดยิ่งขึ้น
ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าทรงกลม และไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมลูกเล่นปรับรูปแบบได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมด Classic โหมด Favoured และโหมด JCW รวมถึงการเพิ่มลูกเล่นอนิเมชันตอนปลดล็อค และล็อครถซึ่งมีรูปแบบเฉพาะตัว
งานออกแบบด้านข้างมากับมือจับประตูได้รับการดีไซน์ใหม่ให้ราบเรียบไปกับตัวรถ ตัวถังปราศจากซุ้มล้อและไฟเลี้ยวด้านข้างตัวรถ
ภายในห้องโดยสารมาในสไตล์มินิมอล ที่ยังคงความคลาสสิก และเรียบง่ายของมินิ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมินิรุ่นคลาสสิกจากปี 1959
แผงคอนโซลหน้ามาในรูปแบบทรงโค้ง หุ้มด้วยผ้าสองสี ที่ได้รับการถักทอจากโพลีเอสเตอร์ ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล มาพร้อมจอกลางแบบใหม่ โดยเป็นหน้าจอ OLED ความละเอียดสูงทรงกลมเต็มรูปแบบ ที่ติตดั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางคอนโซล ทำหน้าที่เป็นทั้งแผงหน้าปัด และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ อีกทั้งยังได้รับหน้าจอแสดงผล Head-up Display ในส่วนของพวงมาลัยมาในแบบทรงสามก้าน โดยก้านที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเป็นสายผ้าถักสไตล์ใหม่ไม่ซ้ำใคร
นอกจากนี้ มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ยังมาพร้อมกับผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ ที่รองรับการสั่งการด้วยเสียงอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของมินิ โดยสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการพูดว่า “Hey MINI” หรือการกดปุ่ม push-to-talk ที่พวงมาลัย รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9
ขณะที่แผงควบคุมถูกออกแบบดีไซน์ใหม่มาในรูปแบบ Toggle Bar ที่รวบรวมทุกฟังก์ชันสำคัญสำหรับการขับขี่เอาไว้ในจุดเดียว ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงเบรกมือ, เกียร์รถ, สวิตซ์สตาร์ทหรือดับครื่องยนต์ พร้อมสวิตซ์เลือกรูปแบบ Experience Mode รวมถึงตัวปรับความดังของเสียงลำโพงได้จากปลายนิ้ว
อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่การใช้สอยบริเวณระหว่างที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้าให้มีช่องวางแก้ว และช่องเก็บของที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารยังสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายผ่านจุดชาร์จไร้สายบริเวณด้านหน้าคอนโซล
นอกจากนี้ All-new MINI Cooper SE ยังมาพร้อมกับชุดแต่ง Favoured Trim โดยจะได้รับ ล้อ Slide spoke สีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ลาย กระจังหน้ารูปทรงแปดเหลี่ยม ตกแต่งด้วยสี Vibrant Silver
แผงคอนโซลรถหุ้มด้วยผ้าถักลวดลาย Houndstooth สองสี นอกจากนี้ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลยังได้รับการห่อหุ้มด้วยพื้นผิวผ้าทอและลวดลายสายคาด ส่วนตัวเบาะนั่งแบบสปอร์ต Vescin หุ้มด้วยเฉดสี Nightshade Blue
All-new MINI Cooper SE จะมากับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 160 kW (218 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 54.2 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทาง 402 กม. (WLTP) พร้อมรองรับการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุดที่ 95 kW ให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ในเวลาเพียง 30 นาที
นอกจากนี้ มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ยังมาพร้อมกับโหมดการใช้งาน MINI Experience ที่มีให้เลือกใช้ถึง 7 รูปแบบ แต่ละโหมดมาพร้อมดีไซน์เสียง Jingle ที่แตกต่างกัน ได้แก่ Core Mode, Go-Kart Mode, Green Mode, Balance Mode, Timeless Mode, Vivid Mode และ Personal Mode
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ มาพร้อมกับฟังก์ชันด้านการช่วยเหลือการจอดรถอัตโนมัติ Parking Assistant และกล้องแสดงภาพด้านท้ายรถ ทั้งยังมีออปชันเสริม Driving Assistant Plus อาทิเช่น Adaptive Cruise Control อีกทั้งยังมาพร้อม MINI Digital Key Plus ที่จะทำให้เจ้าของรถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของตัวเองให้เป็นกุญแจรถ ปลดล็อค/ล็อครถได้โดยไม่ต้องพกกุญแจ และไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกมา โดยแสงไฟต้อนรับด้านหน้าและด้านหลังรถมินิจะเปิดทำงานทันทีเมื่อเจ้าของรถเข้ามาใกล้ในระยะ 3 เมตร และประตูจะปลดล็อคให้ในระยะ 1.5 เมตร
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ โดยมี 6 สีให้เลือก ได้แก่ Blazing Blue, Nanuq White, Melting Silver ที่มาพร้อมกับหลังคาสีดำ Jetblack และ British Racing Green, Sunny Side Yellow, Chili Red II ที่ให้ลูกค้าเลือกหลังคาดำ Jetblack หรือสีขาว Glazed White
สำหรับราคาจำหน่ายของ All-new MINI Cooper SE เปิดราคาจำหน่ายที่ 1,699,000 บาท พร้อมแพ็คเกจ MSI Standard