หลังจากที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางแล้วว่า All-New Mitsubishi Triton (ออล-นิว ไทรทัน) เจเนอเรชั่นใหม่ จะเปิดครั้งแรกของโลกที่ในเมืองไทยวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 นี้
ทางมิตซูบิชิก็เริ่มโหมโรง ด้วยการปล่อยภาพ และคลิปทีเซอร์สั้น ออกสู่โลกออนไลน์บนเวปไซตฺ์ของทางบริษัท ที่เผยให้เห็นทั้งในสรีระรุปลักษณ์ภายนอก รวมทั้งรายละเอียดบางส่วนของภายในห้องโดยสาร
ล่าสุดทาง Mitsubishi ได้แย้มภาพทีเซอร์ ออกมาใหม่อีกครั้งบนเพจ Facebook ของทางบริษัท โดยเป็นภาพแบบเงาดำของขุมพลังเครื่องยนต์ All-New Mitsubishi Triton พร้อมกับเขียนแคปชั่นสั้นๆ ว่า ขุมพลังใหม่พบกัน 26 ก.ค. นี้
โดยรายละเอียดของขุมพลังที่แท้จริงของ ออล-นิว ไทรทัน ใหม่นี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่จากข้อมูลทางมิตซูบิชิเผยว่า รถกระบะออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน นี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังแรงเต็มขั้น แต่ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น มาพร้อมด้วยแชสซีส์ใหม่ยกชุดที่จัดเต็มความแข็งแกร่งทนทาน ยกระดับสู่อีกขั้นของการขับขี่ที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ควบคุมง่ายคล่องตัวสะดวกสบายและปลอดภัยกว่าด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำของมิตซูบิชิมอเตอร์ส เหมาะกับทั้งการขับขี่ในเมืองและบนเส้นทางออฟโรด
ซึ่งขุมพลังใหม่ดังกล่าวนี้จากข้อมูลของทาง carsales ที่เป็นสื่อจากออสเตรเลีย เผยว่าจะสร้างขึ้นบนโครงแชสซีแบบ Ladder-frame แบบใหม่ ที่ถูกพัฒนาโดย Mitsubishi และ Nissan โดยคาดว่าจะมากับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบสี่สูบ ขนาด 2.4 ลิตร ที่ได้รับการปรับจูนเซทใหม่ ที่ช่วยให้รีดกำลังแรงม้าออกมาได้มากถึง 204 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดที่มากถึง 500 นิวตันเมตร พร้อมรองรับความสามารถในการลากจูงได้ถึง 3,500 กก. เทียบเท่ากับคู่แข่งหลักในตลาด
หรืออาจจะหันใช้ขุมพลังที่ร่วมพัฒนากับ Nissan อย่างเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ ขนาด 2.4 ลิตร ที่มาพร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน MIVEC ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ก็เป็นไปได้
ขณะที่รายละเอียดจากภาพทีเซอร์แบบเงาดำที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ จะเผยให้เห็นถึงตัวถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ด้านหน้ามากับชุดไฟหน้าแบบแยกส่วนมาพร้อมชุดไฟ DRL ที่วางเรียงต่อกันสามดวงที่ด้านบน ส่วนไฟส่องสว่างจะเป็นไฟ LED ที่วางเป็นกลุ่ม สามดวงเช่นกัน ขณะที่กระจังหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่มาพร้อมโลโก้ Mitsubishi ตรงกลาง และชื่อแบรนด์ M I T S U B I S H I ที่ด้านบน
ซุ้มล้อมาในทรงเหลี่ยมดูบึกบึน เสริมมาคลุครถสายลุยด้วยราวหลังคา และโรลบาร์กระบะท้าย ส่วนชุดไฟท้าย LED ออกแบบให้เป็นรูปตัว L วางซ้อนต่อกัน
ภายในห้องโดยสารคาดจะตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย และพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขึ้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานตามไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ และการบรรทุกเชิงพาณิช
โดยในส่วนแผงแดชบอรฺ์ดติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส ที่วางแบบลอยตัว มาปุ่มแบบหมุนสำหรับเลือกโหมดขับเคลื่อน รวมถึงปุ่มควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารที่ออกแบบให้เหมือนกับแป้นเปียโน
ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียงข้อมูล และการคาดการณ์ ส่วนรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดนั้นคงต้องรอถึงวันเปิดตัวอย่างเป้นทางการที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางทีมงาน Autostation.com จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้งหนึ่งเมื่อรถกระบะตัวใหม่นี้ถูกเปิดผ้าคลุมโชว์โฉมออกมา
