AVATR แบรนด์รถหรูระดับไฮเอนท์ที่เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Changan และ CATL ได้เปิดตัวประกาศาคาจำหน่าย All-NEW AVATR 06 ซีดานรุ่นใหม่ ที่มีขุมพลังขับเคลื่อนในเลือกทั้งแบบ EV และ EREV โดยในรุ่นไฟฟ้า 100%
ราคาจำหน่าย All-NEW AVATR 06 ในตลาดเมืองจีน
- AVATR 06 รุ่น Pro REEV Edition ราคา 209,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 9.58 แสนบาท
- AVATR 06 รุ่น Max REEV Edition ราคา 239,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.09 ล้านบาท
- AVATR 06 รุ่น Pro EV Edition ราคา 219,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.004 ล้านบาท
- AVATR 06 รุ่น Max EV Edition ราคา 249,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.14 ล้านบาท
- AVATR 06 รุ่น Ultra EV Edition AWD ราคา 279,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.27 ล้านบาท
สำหรับ AVATR 06 จะมาในตัวถังซีดาคูเป้ โดยจะเป็นรถโมเดลที่ 4 ของทางแบรนด์ AVATR ที่ต่อมาจาก AVATR 11, AVATR 12 และ AVATR 07
โดย AVATR 06 นั้นจะมีให้เลือกทั้งแบบ EREV และ EV ที่เป็นไฟฟ้า 100% ในด้านงานออกแบบดีไซน์เมื่อมองเผินๆ จะคล้ายกับ AVATR 12 Gran Coupe แต่จะมีขนาดที่เล็กกว่า โดย AVATR 06 จะมีความยาว 4,855 มม. กว้าง 1,960 มม. และสูง 1,450 (1467) มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,940 มม. ซึ่งจะยาวกว่า AVATR 07 เล็กน้อยที่ 30 มม. รวมทั้งยาวกว่า Tesla Model 3 ว่าที่คู่แข่งในตลาดถึง 135 มม. ส่วนน้ำหนักตัวรถจะอยู่ที่ 2,120 – 2,320 กก.
AVATR 06 ใช้แนวคิดการออกแบบ AVATR 2.0 ที่เหมือนกับรุ่นพี่ ๆ ในค่าย แต่เพิ่มความโดดเด่นในรายละเอียด เช่น ชุดไฟ DRL ที่ออกแบบเป็นรูปทรงคล้ายตัวเลข 7 หรือทรงบูมเมอแรง จะได้รับการออกแบบใหม่ โดยย้ายแถบไฟแนวนอนมาไว้ภายใน ที่ต่างจาก AVATR 07 และ AVATR 12 ที่จะอยู่ด้านนอก มาพร้อมตัวกันชนหน้าที่ดีไซน์ให้ดูสะอาดตาขึ้น และช่องระบายอากาศที่เป็นแบบแอคทีฟ นอกจากนั้นยังมาพร้อม
นอกจากนั้นยังติดตั้งแถบหน้าจอที่สามารถสื่อสารกับผู้คนภายนอกได้ อยู่ด้านล่างกระจกบังลมหน้าเหนอฝากระโปรงหน้า ทั้งกล่าวทักทาย และบอกเป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ
ส่วนเส้นสายด้านข้างมาในแบบเรียบหรู แนวหลังคาลาดเอียงในสไตล์รถคูเป้ มือเปิดประตูซ่อนที่ราบไปกับตัวรถ และตัวรถจะไม่มีขอบหน้าต่าง อีกทั้งในส่วนของกระจกมาข้างจะมาในกล้อง พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR ไว้ที่บนหลังคาด้านหน้า
ขณะที่ด้านหลังดีไซน์แบบไม่มีกระจกบังลมหลัง มากับชุดไฟท้าย LED ที่เป็นเส้นเรียเล็กแบบแยก โดยมีไฟเบรกดวงที่สามติดตั้งไว้ที่ขอบหลังคา มาพร้อมด้วยสปอยเลอร์ทรง Ducktail แบบเรียบง่ายที่ติดตั้งไว้ที่ประตูท้าย
ภายในห้องโดยสารของจะมากับความไฮเทคหรูหรา ภายในจะตกแต่งหุ้มด้วยวัสดุแบบบุนุ่มรอบห้องโดยสาร มีเฉดสีภายในให้เลือก 3 โทนสีได้แก่ สีม่วง/ขาว Misty purple / White, สีดำ Tinted Charcoal และสีแดง Kalypso Red
โดยมีพื้นที่เหนือศีรษะด้านหน้า 990 มม. พื้นที่หัวเข่าด้านหน้า 118 มม. พื้นที่เหนือศีรษะด้านหลัง 956 มม. พื้นที่หัวเข่าด้านหลัง 120 มม.
ในส่วนแผงแชดบอร์ดจะมีหน้าจอมาให้ถึง 5 จอด้วยกัน เริ่มจากหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 15.6 นิ้วที่วางแบบแขวนอยู่บนแผงคอนโซลหน้า มาพร้อมหน้าจอไวด์สกรีนแบบพาโนรามาที่มาความยาวมากถึง 35.4 นิ้ว พร้อมกับขับเคลื่อนด้วยระบบ Harmony OS ของ Huawei
เบาะนั่งด้านหน้าเป็นแบบ Zero-Gravity มาพร้อมฟังก์ชันการนวด 16 จุด, ระบบเสียง Meridian พร้อมลำโพง 25 ตำแหน่ง ที่ให้เสียงรอบทิศทาง 7.1.4 ห้องโดยสารยังติดตั้งประตูไฟฟ้าอัจฉริยะพร้อมระบบตรวจจับสิ่งกีดขวาง และกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่งดิจิทัลเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
นอกจานั้นยังมีพื้นที่เก็บของด้านท้ายที่มีความจุมากถึง 416 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลวจะขยายพื้นที่ได้มากถึง 1,266 ลิตร รวมทั้งเมื่อเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นจะมี Front trunk ที่มีความจุมากถึง 70 ลิตร
ในด้านระบบความปลอดภัย จะมากับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ที่ประกอบด้วย LiDAR, รดาร์คลื่นอัลตราโซนิค 12 ตัว และ กล้องความคมชัดสูง 10-11 ตัว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) มาพร้อมระบบ ADS 27 รายการ ซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มอัตโนมัติ ADS 3.0 ของ Huawei
AVATR 06 ยังคงถุกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม CHN โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบ EV และ EREV
รุ่น EV จะมีให้เลือกทั้งรุ่น RWD ที่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลัง 252 kW (338 แรงม้า) แรงบิด 365 นิวตันเมตร เวลาเร่งความเร็ว 0 – 100 กม./ ชม. ในเวลา 6.1 วินาที ความเร็วสูงุสด 210 กม./ ชม. จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 72.88 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 650 กม.
รุ่น AWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลัง 188 kW (252 แรงม้า) มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 252 kW (338 แรงม้า) เวลาเร่งความเร็ว 0 – 100 กม./ ชม. ในเวลา 3.9 วินาที ความเร็วสูงุสด 210 กม./ ชม. จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 72.88 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 600 กม.
โดยทั้ง 2 รุ่นจะมากับสถาปัตยกรรม 800V รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟ 30 – 80% ในเวลาเพียง 10 นาที
ขณะที่ในรูปแบบ EREV จะมากับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 115 kW (154 แรงม้า) ที่ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลังให้กำลัง 231 kW (310 แรงม้า) แรงบิด 367 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ ชม. ในเวลา 6.6 วินาที ความเร็งสูงสุดจะอยู่ที่ 190 กม./ ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ขนาดความจุ 31.7 kWh วิ่งในโหมดไฟ้าล้วยได้ระยะทางไกล 230 กม. และวิ่งครอบลุมระยะทางไกลถึง 1,190 กม. (CLTC) เมื่อแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็ม + น้ำมันเต็มถัง
AVATR 06 ที่เปิดวางจำหน่ายในตลาดเมืองจีนจะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 6สีทั้งแบบทูโทน และโมโนโทน ได้แก่ สีแดงหลังคาดำ Coral Red / Black, สีขาวหลังคาดำ Glossy White / Black, สีม่วงอ่อนหลังคาดำ Lavebder /Black, สีดำ Glossy black, สีเทา Glossy Grey และสีม่วง Misty Purple
สำหรับคุ่แข่งในตลาดของ AVATR 06 ก็จะเป็นรถทรงหรูอย่าง Tesla Model 3 และ Zeekr 007 ขณะที่ในตลาดเมืองไทยนั้นคาดว่าจะมีการนำเข้ามาในภายในปีนี้ ส่วนเป็นช่วงไหน อย่างไร หากมีข้อมูลบเพิ่มเติมคืบหน้าออกมาทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง