in , , ,

BMW i7 ซีดานไฟฟ้าหรูรุ่นใหญ่ ราคาเริ่ม 7.599 ล้านบาท

BMW i7 2023 ใหม่รถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตู ซีดานระดับลักซูรี่ มาพร้อมความหรูหราและความแรงระดับ 544 แรงม้า แบตเตอรี่ชาร์จเต็มวิ่งไกลถึง 625 กม. ตามมตาฐาน WLTP

BMW i7 2023

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดศักราชใหม่ของยนตรกรรมพรีเมียมด้วยการเผยโฉม BMW i7 ใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดย BMW i7 ใหม่ เป็นรถยนต์ซีดานพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มาพร้อมการขับขี่ที่เร้าใจ ความหรูหราสง่างาม และห้องโดยสารที่ให้บรรยากาศอบอุ่นสะดวกสบาย โดยจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition), BMW  i7 xDrive60 M Sport และ BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso 

BMW i7 2023

ในด้านการออกแบบภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดําเงา สปอยเลอร์หลังดีไซน์ M พร้อมกับตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมที่ด้านล่างเพื่อสะท้อนความสง่างามเหนือระดับ ด้านบนเป็นไฟรูปตัว L ที่มาพร้อมรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก เสริมให้ไฟท้ายดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

BMW i7 2023

ไฟหน้า Adaptive LED ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมระบบปรับองศาเมื่อเข้าโค้ง ชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ Iconic Glow ประกอบด้วยไฟ LED จำนวน 22 ดวง ที่ส่องสว่างผ่านคริสตัลจากด้านหลัง และกระจังหน้าเรืองแสงเป็นประกาย 

BMW i7 2023

นอกจากนี้ BMW i7 ยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) ให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตูที่ทำได้อย่างเงียบเชียบและนุ่มนวล โดยในรุ่น i7 xDrive60 M Sport และ i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ยังมาพร้อมระบบเปิดและปิดประตูอัตโนมัติ มอบความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น 

BMW i7 2023

ด้านล้ออัลลอย i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มาพร้อมกับล้อ M aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว ตกแต่งสี Titanium Bronze ขัดเงาลายสามมิติ ในขณะที่ i7 xDrive60 M Sport (First Edition) และ i7 xDrive60 M Sport มาพร้อมล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี

BMW i7 2023

BMW i7 2023

BMW i7 2023

ภายห้องโดยสารคอนโซลหน้า มากับจอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display, แถบ BMW Interaction Bar, จอ HUD และฟังก์ชัน Augmented View พร้อมระบบ ‘My Modes’ รุ่นใหม่และระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นล่าสุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ BMW IconicSounds Electric ทำให้ผู้โดยสารสัมผัสกับเสียงการเดินรถอันเป็นเอกลักษณ์จาก Hans Zimmer ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์สำหรับทุกโหมดการขับขี่

BMW i7 2023

BMW i7 2023

BMW i7 2023

ในขณะที่เบาะนั่งเป็นแบบมัลติฟังก์ชันครบครับทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่ง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน โดยทั้งสามรุ่นยังมาพร้อมวัสดุบุหลังคา M Alcantara ส่วนภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black

BMW i7 2023

BMW i7 2023

นอกจากนั้น BMW i7 ยังมากับระบบ BMW Live Cockpit Professional มอบความสะดวกสบายและแสดงข้อมูลรถยนต์โดยไม่รบกวนสมาธิระหว่างขับขี่บนท้องถนน ระบบ BMW ConnectedDrive รวบรวมบริการดิจิทัลที่เชื่อมต่อรถยนต์กับโลกภายนอกได้อย่างชาญฉลาด

BMW i7 2023

หลังคากระจกพาโนรามา Sky Lounge ที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ยังให้ความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวางและสะดวกสบาย นอกจากกระจกบานใหญ่ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารแล้ว ยังมีเส้นแสง LED อัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนได้ทุกเส้น เติมเต็มให้บรรยากาศในห้องโดยสารให้หรูหราขึ้นอีกระดับ

BMW i7 2023

สำหรับห้องโดยสารด้านหลังจะติดตั้งจอ BMW Theatre Screen หน้าจอแบบพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว มาในรูปแบบ 32:9 และความละเอียดระดับ 8K ที่ทอดยาวลงมาจากหลังคา และแปลงโฉมเบาะที่นั่งตอนหลังให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัวสุดพิเศษ 

BMW i7 2023

โดยผู้โดยสารสามารถปรับเปลี่ยนเบาะที่นั่งด้านหลังให้กลายเป็นเลาจน์ส่วนตัว และเลือกโปรแกรมความบันเทิงที่ ชื่นชอบจากหลากหลายตัวเลือกการสตรีมมิ่ง ที่สามารถรับชมได้อย่างเพลิดเพลินขณะโดยสารรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ที่ดีและเหนือชั้นที่สุดในขณะนี้

BMW i7 2023

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond พร้อมลำโพง 39 ตัว ให้ประสิทธิภาพเสียงกว่า 1,965 W

BMW i7 2023

ในด้านขุมพลังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 400kW หรือราว 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กม./ชม.

มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ติดตั้งด้านล่างตัวแรงดันสูงขนาดความจุ 105.7 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกลถึง 625 กม. ตามมาตรฐาน WLTP 

BMW i7 2023

BMW i7 ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Stop & Go ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) 

BMW i7 2023

ส่วนระบบช่วงล่างเป็นแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ ในขณะที่ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งมาเป็นพิเศษใน i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย

BMW i7 2023

ระบบความปลอดภัยของ BMW i7 จะมากับเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor), ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection), ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง, ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ 

BMW i7 2023

ด้านเฉดสีตัวถัง BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) จะมีเฉพาะสีดำ Black Sapphire Metallic ในขณะที่ BMW i7 xDrive60 M Sport มาให้เลือกถึง 8 สีตัวถังไม่ว่าจะเป็นสีดำ Black Sapphire Metallic, สีขาว Mineral White Metallic, สีเทา Oxide Grey Metallic, สีเทา Brooklyn Grey Metallic, สีดำ Carbon Black Metallic, สีแดง Aventurine Red Metallic, สีน้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic และสีเทา Dravit Grey Metallic

BMW i7 2023

BMW i7 2023

BMW i7 2023

ลูกค้ายังสามารถเลือกสีแบบทูโทนสำหรับ i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ที่จับคู่สีภายนอกได้อย่างมีเอกลักษณ์ มาพร้อมสีหลังคา 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ Black Sapphire Metallic และสีเทา Oxide Grey Metallic และสีตัวถัง 5 สี ได้แก่สีดำ Black Sapphire Metallic, สีเทา Oxide Grey Metallic, สีแดง Aventurine Red Metallic, สีน้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic และสีเทา Dravit Grey Metallic

BMW i7 2023

ราคาจำหน่ายของ BMW i7 ใหม่ 

  • BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) ราคาจำหน่าย 7,599,000 บาท 
  • BMW i7 xDrive60 M Sport ราคาจำหน่าย 7,849,000 บาท 
  • BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ราคาจำหน่าย  8,599,000 บาท 

ทุกรุ่นจะรวมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง