หลังจา่กที่ทางค่ายใบพัดฟ้าขาวได้เปิดตัว BMW X1 เจเนเรชันใหม่ออกมาเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นก็มีรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% อย่าง xDrive30 ออกมาทำตลาดด้วย
แต่ผ่านไปไม่นานทาง บีเอ็มดับเบิลยู ก็ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ SAV หรือ Sports Activity Vehicle ขนาด Compact ในรุุ่นซีรีส์ iX1 ที่ตลาดยุโรปเพิ่มเติม ด้วยการนำเสนอ BMW iX1 eDrive20 รถยนต์ไฟฟ้า BEV ในรุ่นเริ่มต้น ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ซึ่งเป็นทางเลือกที่ประหยัด และมีราคาถูกว่า iX1 eDrive30 รุ่นมอเตอร์คู่ กับสนนราคาเริ่มที่ 47,900 ยูโร หรือราว 1.8 ล้านบาท
สำหรับในด้านรูปลักษณ์หน้าตางานดีไซน์นั้นจะเหมือนกับ xDrive30 จะแตกต่างกันในเรื่องของพละกำลังขับเคลื่อนโดย BMW iX1 eDrive20 ยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนเรชันที่ 5 โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งที่เพลาหน้าของรถให้กำลัง 204 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 8.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 170 กม.
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ที่มีความจุ 64.78 kWh ที่ถูกติดตั้งไว้ที่ใต้ท้องรถ ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง จะวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 475 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งมากว่าในรุ่น xDrive30 ที่วิ่งได้ระยะทางอยู่ที่ 438 กม.
ด้านการชาร์จไฟรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ขนาด 11 kW ที่ชาร์จไฟเต็มในเวลา 6.5 ชม. แต่สามารถเปลี่ยนเพิ่มขนาดเป็น 22 kW เพื่อลดเวลาการชาร์จแบบ AC ลงเหลือ 3 ชม. 45 นาที และสามารถชาร์จไฟกระแสตรง DC ขนาด 130 kW โดยจะให้กำลังไฟจาก 10 – 80 % ภายใน 29 นาที เท่านั้น
สำหรับในด้านชุดอุปกรณ์ของ BMW iX1 eDrive20 จะมีไม่ด้อย หรือน้อยไปกว่า xDrive30 โดยจะได้รับหน้าจอ Curved Display ที่รวมจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 10.25 นิ้ว และจอควบคุมการทำงานขนาด 10.7 นิ้วไว้ในกรอบเดียวกัน พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการเป็นแบบ BMW Operating System 9 และการ อัปเดทระบบแบบ over-the-air
รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบนำทาง, ระบบปรับอากาศดูอัลโซน ระบบช่วยขับต่างๆ และระบบช่วยจอดรถที่มีทั้งกล้องมองหลังและบริการดิจิตอลต่างๆ นอกจากนี้ยังมี QuickSelect เพื่อช่วยให้เข้าถึงการทำงานได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องผ่านเมนูย่อย
ด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่จะมากับระบบช่วยจอด Parking Assistant พร้อมกล้องมองหลัง Reversing Assist Camera
สำหรับ BMW iX1 eDrive20 จะถูกผลิตขึ้นจากโรงงานของ BMW Group Plant ซึ่งตั้งอยู่ใน Regensburg ประเทศเยอรมนี โดยเริ่มเดินสายการผลิตในช่วงเดือนพฤศจิกายน นี้ ด้านสนนราคาจำหน่ายจะมีราคาเริ่มต้นในยุโรปอยู่ที่ 47,900 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 1.8 ล้านบาท (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้าจากไทย)