ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 นี้ทางค่ายใบพัดฟ้า-ขาว BMW เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ไล่เรียงมาตั้งแต่ BMW M4 CS 2025 สปอร์ตคูเป้ตัวแรง ตามต่อมาด้วย BMW 1 Series 2025 น้องเล็กของทางค่ายเจอเนอเรชันใหม่ และ BMW X3 2025 เอสยูวีครอสโอเวอร์สุดพรีเมียม เจเนอเรชั่นที่ 4
และล่าสุดที่ทางบีเอ็มดับเบิลยู ได้ปล่อยรถรุ่นใหม่ออกมาอีกหนึ่งรุ่นนั่นก็คือ BMW M5 2025 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม 5 2025) สปอร์ตซีดานคูเป้ตัวโหด ที่มากับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ที่ให้กำลังแรงถึง 728 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดอันมหาศาลที่มากถึง 1,000 นิวตันเมตร มากับน้ำหนักตัวถังที่หนักถึง 2.5 ตัน โดยว่ากันว่า BMW M5 ใหม่รุ่นนี้จะเป็นรถสปอร์ตคูเป้ที่แรง และหนักสุดเท่าที่เคยมีของทาง BMW
ในด้านงานออกแบบภายนอกของ BMW M5 2025 รหัส G90 ตัวใหม่นี้จะเป็นการรปรับโฉมจาก BMW 5 Series รหัส B ซึ่งเป็น เจเนอเรชันปัจจุบัน ให้มีความดุดันมากขึ้น เริ่มจากกระจังหน้าไตคู่แบบเรืองแสงได้มาในแบบปิดทึบสีดำเงา High-Gloss Black ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า Adavtive LED
เสริมความดุดันด้วยการตกแต่งด้วยสเกิร์ตรอบคัน ขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมปลายท่อไอเสียขนาดใหญ่แบบ 4 ช่อง สอดรับเข้าชุดกันกับกันชนท้ายสีดำที่ออกแบบให้เป็นดิฟฟิวเซอร์ในตัว
นอกจากนั้นยังขยายในสวนของโป่งซุ้มล้อหน้าให้ดูมีมัดกล้ามที่ใหญ่โตขึ้น ที่ช่วยขยายขนาดความกว้างของตัวถังจากรุ่นปกติเพิ่มขึ้นถึง 75 มม. ที่ด้านหน้า และ 48 มม. ที่ด้านหลัง มาพร้อมล้ออัลลอย M Double-Spoke Style 951 สีเทา Midnight Grey ขนาด 20 นิ้วที่คุ่ล้อหน้า และ 21 นิ้วสำหรับคู่ล้อหลัง
ด้านระบบเบรกจะเป็นชุดเบรกจากทาง MPower โดยจะมากับคาลิปเปอร์แบบ 6 ลูกสูบ กับคุ่กับกับจานเบรกเขนาด 16.1 นิ้ว ที่คู่หน้า และคาลิปเปอร์แบบเดี่ยวลอยตัวทำงานคู่กับจานเบรกเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 15.7 นิ้ว ที่คู่หลัง มาพร้อมออปชันเสริมที่เป็นแพ็คเกจ M Carbon ceramic ที่จะเปลี่ยนจานเบรกคู่หน้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 16.5 นิ้ว พร้อมลดน้ำหนักลดลงไปอีก 25 กก.
โดยในด้านมิติตัวถังของ BMW M5 2025 จะมีความยาว 5,096 มม. กว้าง 1,970 มม. สูง 1,510 มม. ความยาวฐานล้อ 3,006 มม. ระยะห่างใต้ท้องรถ 115 มม. และมีน้ำหนักตัวมากถึง 2,445 กก.
ภายในจะตกแต่งด้วยวัดุคาร์บอนไฟเบอร์ แผงแดชบอร์ดมาพร้อมพวงมาลัยทรงสปอร์ตที่ออกแบบใหม่ พร้อมติดตั้งจอ BMW Curved Display ที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และจอมัลติฟังก์ชันขนาด 14.9 นิ้ว มาพร้อมระบบการจัดการ BMW OS 8.5 รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
ส่วนเบาะนั่งจะเป็น M Multifunction Seat หุ้มด้วยหนัง Merino จาก BMW Individual มี 4 เฉดสี คือ สีดำ Black, สีเทา-ดำ Silverstone-Black, สีแดง-ดำ Red-Black และสีส้ม-ดำ Kayalami Orange-Black
นอกจากนี้ยังตกแต่งด้วย BMW Interaction Bar มาพร้อมเครื่องเสียงของ Bowers & Wilkins Surround Sound System มากับลำโพง 18 ตัว
ขณะที่ในส่วนของหลังคาจะเป็นหลังคากระจก แต่สามารถอัพเกรดโดยมีออปชันเปลี่ยนเป็นหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ได้ซึ่งจะช่วยลดน่้ำหนักตัวรถไปราว 30 กก.
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ BMW M5 2025 จะมาพร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร M TwinScroll Turbochargers ให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 197 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ให้กำลังรวม 728 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 8 สปีด ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. แต่สามารถเพิ่มความเร็วไปถึง 305 กม. / ชม. ได้เมื่อติดตั้งชุด M Driver’s Package
มีโหมดการขับขี่มาตรฐาน 3 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport และ Sport Plus และยังมีโหมดการขับขี่พิเศษอีก 2 รูปแบบ ได้แก่ Dynamic และ Dynamic Plus
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 14.8 kW ที่วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางสูงสุด 67-69 กม. (WLTP) รองรับการชาร์จไฟ AC สูงสุด 7.4 kW ชาร์จไฟเต็มในเวลาเพียง 3 ชม. 15 นาที
ในด้านระบบช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive M suspension พร้อมติดตั้ง Differential lock แบบไฟฟ้า มาพร้อมจุดยึดช่วงล่างต่าง ๆ ออกแบบใหม่ให้ทนต่อการบิดตัวเพื่อให้การขับขี่ดีขึ้น
โดย BMW M5 2025 จะถูกผลิตที่ในโรงงาน Dingolfing ในด้านราคาจำหน่ายทาง บีเอ็มดับเบิลยู ตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 119,500 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ราว ๆ 4.4 ล้านบาท