in ,

BMW XM Label Red ซูเปอร์เอสยูวีรุ่นพิเศษขุมพลังไฮบริด 748 แรงม้า มีเพียง 500 คันเท่านั้น

BMW XM Label Red รถเอสยูวีรุ่นพิเศษ รหัสตัวแดง แรงที่สุดเท่าที่มีมาในรุ่นโปรดักชันคาร์ กับขุมพลังไฮบริด 748 แรงม้า ถูกผลิตมาในจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น

BMW XM Label Red 2023

แผนก M ของ บีเอ็มดับเบิลยู ได้เผยโฉมเต็ม และรายละเอียดของ BMW XM Label Red โรดคาร์ตระกูล M รุ่นพิเศษที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา กับขุมพลัง BMW M Hybrid V8 ที่รีดแรงม้าลงพื้นออกมาได้มากถึง 748 แรงม้า 

BMW XM Label Red 2024

สำหรับ BMW XM Label Red 2024 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก BMW XM รุ่นปกติที่เปิดวางจำหน่ายทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย โดยจะถูกวางตำแหน่งให้เป็นเรือธงตัวให่ และมีตำแหน่งทางการตลาดที่สูงกว่า XM 

BMW XM Label Red 2023

BMW XM Label Red 2023

ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกของ BMW XM Label Red จะได้รับการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวหรูหราตามสไตล์ M ด้านหน้าจะมากับไฟหน้าแบบแยกส่วน กระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างแบบต่อเนื่อง ไฟหน้า Adaptive LED ที่เพิ่มทัศนวิสัยและมอบแสงสว่างบนท้องถนนตลอดจนช่วงเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้มาพร้อมระบไฟสูง – ต่ำโดยอัตโนมัติ 

BMW XM Label Red 2023

BMW XM Label Red 2023

เสริมความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งด้วยเฉดสีแดง Toronto Red Metallic ที่บริเวณกระจังหน้าทรงไตคู่, ด้านข้างไล่ตั้งแต่บานประตูข้าง ตวัดขึ้นไปยังกรอบหน้าต่าง รวมถึงในส่วนกันชนหลัง และล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว สีดำเงาตกแต่งด้วยเฉดสีแดงไว้ที่ด้านใน มาพร้อมคาร์ลิปเปอร์เบรก M สีแดง

BMW XM Label Red 2023

BMW XM Label Red 2023

BMW XM Label Red 2023

ภายในห้องโดยสารก็ยังคงตกแต่งด้วยธีมสีแดง เบาะที่นั่งตอนหน้าแบบ M Multifunctional จะถูกหุ้ทด้วยหนังสีแดงสลับดำ นอกจากนั้นยังเย็บและตัดด้วยอดงสีแดงทั้งห้องโดยสารทั้งคอนโวลหล้า คอนโซลกลาง และแผงประตู 

BMW XM Label Red 2023BMW XM Label Red 2023

BMW XM Label Red 2023

เติมความโดดเด่นที่บริเวณช่องแอร์ด้วยการตกแต่งด้วยแถบสีแดง เสริมด้วยสัญลักษณ์ XM สีแดงบริเวณใต้หน้าจอควบคุม นอกจากนั้นยังตกแต่งภายในด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีแดง – น้ำเงิน และติดตั้งแผ่นแพลทระบุละดับหลายเลขการผลิต 1 – 500 เพื่อบ่งว่าว่าเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตมาในจำนวนจำกัด เพียง 500 คันเท่านั้น 

BMW XM Label Red 2023

ด้านชุดอุปกรณ์มาพร้อมกับหน้าจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW OS 8 ใหม่ล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond ที่ให้กำลังขับรวม 1,475 W และลำโพงพิเศษอีก 4 ตำแหน่งบนหลังคา อีกทั้งยังได้รับระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ IconicSounds Electric ให้เสียงขับที่กระตุ้นความตื่นเต้นแม้ในโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน 

BMW XM Label Red 2023

BMW XM Label Red 2023

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ BMW XM Label Red จะมากับเครื่องยนต์ BMW M Hybrid V8 ความจุ 4.4 ลิตร twin-turbo ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีกำลังสูงสุด 748 แรงม้า (HP) เพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติถึง 95 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 8 จังหวะ M Steptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที และจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 250 กม./ชม. มาพร้อมแพ็กเกจ M Driver’s Package ที่ปลดล็อกความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 290 กม./ชม.   

BMW XM Label Red 2023

BMW XM Label Red 2023

มาพร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 25.7 kWh ติดตั้งอยู่บริเวณใต้ท้องรถ ให้ระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้า 75  กม. ตามมาตรฐาน WLTP และยังสามารถทำความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าได้ 140 กม./ชม. 

BMW XM Label Red 2023

สำหรับราคาค่าตัวของ BMW XM Label Red ยังไมีมีการเปิดตัวเลขออกมา เพียงแต่เผยว่าจะผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น สำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเอสยูวีรุ่นพิเศษสมรรถนะสูงคันนี้จะมีขึ้นในงาน Shanghai Auto Show ที่จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 27 เมษายน นี้ในประเทศจีน