หลังจาก บีวายดี ได้เผยโฉม BYD ATTO 2 ที่ในงาน Brussels Motor Show 2025 ล่าสุดได้มีการเปิดข้อมูลสเปครายละเอียดของตัวรถ ก่อนที่จะเปิดราคาจำหน่ายในเร็ว ๆ วันนี้
โดย ATTO 2 ที่จะวางจำหน่ายในยุโรปจะมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อยได้แก่รุ่น Active และรุ่น Boost ซึ่งจะมีออปชันที่แตกต่างกันไป แต่ในด้านพละกำลัง และระยะทางวิ่งนั้นจะเท่ากันโดยชาร์จไฟวิ่งได้ไกล 312 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP)
BYD ATTO 2 ว่าที่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในตลาดยุโรป ก็จะเป็นตัวเดียวกันกับ BYD Yuan UP ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าใหม่ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนไปเมื่อช่วงต้นปี 2024 โดยทาง BYD ได้วางตำแหน่งของ ATTO 2 ในตลาดยุโรปให้อยู่ระหว่าง BYD Dolphin และ ATTO 3
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ BYD ATTO 2 จะมากับภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Dragon Face กระจังหน้าแบบปิดทึบ ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED ทรงเรียวยาว กันชนหน้าขนาดใหญ่มาในรูปตัว U คว่ำสีดำ พร้อมตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียมที่เป็นตัว U คว่ำ 2 ตัววางเรียงต่อกัน
ตัวรถจะมาในแบบหลังคาแขวน เพื่อช่วยสร้างมิติตให้ตัวรถนั้นดูโปรงโล่ง และยังช่วยให้รถนั้นดูมีความกว้างขวาง และใหญ่โต มาพร้อมบานประตูเป็นเเบบไร้กรอบ นอกจากนั้นในบริเวณกาบบันไดข้างตัวรถยังตกแต่งด้วยคิ้ว ที่เป็นรูปตัว U คว่ำ ที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ ด้านชุดล้ออัลลอยจะมีขนาด 17 นิ้ว
ด้านท้ายรถจะมากับชุดไฟท้าย LED Bar ที่ถูกวางพาดเต็มพื้นที่ของส่วนด้านหลัง โดยมีลวยลายแบบ Chinese knot หรือลวยลายที่เป็นเชือกถักของทางจีน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ของ BYD Europe อ้างว่าการออกแบบไฟท้ายนี้จะมีสัญลักษณ์ที่เรียกว่า Möbius ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนำโชคลาภมาสู่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน
นอกจากนั้นตัวรถยังเสริมความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่ออกแบบให้เป็นล่อน มาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม ขณะที่ตัวกันชนท้ายจะดีไซน์เหมือนกับกันชนหน้า ด้วยการติดตั้งการ์ดกันกระแทกสีเงิน
ในด้านมิติขนาดตัวรถ BYD ATTO 2 จะมีความยาว 4,310 มม. กว้าง 1,830 มม. สูง 1,675 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,620 มม.
ภายในห้องโดยสาร แผงแดชบอร์ดที่จะมากับหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ตั้งอยู่หลังพวงมาลัยทรง D-shaped ลาย 4 ก้านขนาดใหญ่ มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ที่มีขนาด 10.1 และ 12.8 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัว โดยสามารถหมุนได้ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน อีกทั้งยังได้รับหน้าจอ HUD ที่สะท้อนข้อมูลไปยังกระจกบังลมหน้าอีกด้วย
ด้านตัวเบาะที่นั่งจะรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ตัวเบาะจะถูกหุ้มด้วยหนัง Vegan ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเบาะคู่หน้ายังปรับด้วยไฟฟ้า และมาพร้อมกับระบบทำความร้อน
ส่วนคอนโซลกลางออกแบบใหม่เชื่อมต่อติดกับแผงคอนโซลหน้า โดยมีช่องวางด้านล่างสำหรับวางของใช้ขนาดที่ไม่ใหญ่ ด้านบนจะได้รับการติดตั้งแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย มาพร้อมคันเกียร์แบบคริสตัล และที่วางแก้วน้ำ 1 คู่ นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งชุดปุ่มต่างๆ อาทิเช่นปุ่ม Start/Stop, AutoHold และปุ่มไฟ Hazard และปิดท้ายด้วยหลังคากระจกขนาดใหญ่
ขณะที่พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถจะมีความจุ 400 ลิตร และเมื่อพับเบาะด้านหลังลงวจะขยานพื้นที่ได้มากถึง 1,340 ลิตร
BYD ATTO 2 ที่จะวางจำหน่ายในยุโรป จะให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Active และ Boost โดยจะมีออปชันความแตกต่างดังนี้ ในรุ่น Active ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น ตัวเบาะจะเป็นเบาะหนัง มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ส่วนกลางขนาด 10.1 นิ้ว และได้รับกล้องมองหลัง, เรดาร์ที่จอดด้านหลัง, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตัว และถุงลมนิรภัย 6 ใบ
ส่วนในรุ่น Boost จะมีการติดตั้งออปชันที่มากขึ้นอาทิ กระจกมองข้างพับไฟฟ้า, พวงมาลัยปรับอุณหภูมิได้, เบาะนั่งปรับอุณหภูมิ, ชุดไฟ Ambient Light รอบห้องโดยสาร, ชั้นวางสัมภาระช, หน้าจออินโฟนเทนเมนต์ส่วนกลางขนาด 12.8 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 8 ตัว รวมทั้งยังได้รัยเรดาร์จอดรถด้านหน้า และระบบกล้องมองรอบทิศทาง
ATTO 2 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 ของ BYD และเป็น SUV ขนาดเล็กรุ่นแรกที่ใช้โครงสร้าง Cell-to-Body ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนทั้ง 2 รุ่นย่อยจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 130 kW (174 แรงม้า) แรงบิด 290 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 160 กม./ชม.
จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP 45.12 kWh ชาร์จไฟวิ่งเต็มวิ่งได้ระยะทางไกล 312 กม. ( WLTP) พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ AC สูงสุด 11 kW รวมทั้งรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่กำลังไฟ 65 kW โดยให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลา 28 นาที และใช้เวลาชาร์จ 10 – 80% ในเวลา 37 นาที
ATTO 2 ที่จะเปิดวา่งขายในยุโรปจะมีเฉดสีให้เลือก 4 สี ได้แก่ เขียว, เทา, ขาว และดำ สาวยนสนนาคาจำหน่ายนั้นยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขออกมา ซึ่งคงต้องรอในเปิดตัวอย่างเป้นทางการอีกครั้ง ซึ่งจะมีขึ้นภายในเดือน ก.พ. นี้
ส่วนในบ้านเรานั้น BYD ATTO 2 นั้นคาดว่าคงมีวางจำหน่ายค่อนข้างแน่นอน เพราะล่าสุดมีภาพกำลังวิ่งทดสอบสมรรถนะบนท้องถนนในไทย โดยคาดว่าอาจจะเปิดตัวในไทยประมาณกลางปี หรืออย่างช้าสุดคงเป็นช่วงสิ้นปี 2568 นี้
ซึ่งหากมีรายละเอียด หรือข้อมูลเพิ่มเติมอออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
