เมื่อไม่นานที่ผ่านมาทาง BYD ผู้ผลิตรถรายใหญ่จากประเทศจีนได้เผยภาพชุดแรกของรถเอสยูวีรุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Denza N8 ล่าสุดทางบีวายดี ได้เปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่นี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยตั้งราคาจำหน่ายระหว่าง 319,800 – 326,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.55 – 1.59 ล้านบาท
สำหรับ Denza N8 จะเป็นรถรุ่นที่ 2 ในซีรีส์ Denza N ที่ต่อมาจาก Denza N7 ตัวรถจะมีทั้นั่งให้เลือกทั้ง 5 – 6 – 7 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลัง PHEV แบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 216 กม. เมื่อรวมกันทั้งระบบน้ำมันเต็มถัง แบบเตอตรี่ชาร์จเต็มจะวิ่งได้ระยะทาาไกลถึง 1,030 กม. และในอนาคตจะเปิดตัวในรุ่น BEV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ตามออกมา
ในด้านงานออกแบบโดยรวมของ Denza N8 จะใช้ภาษาการออกแบบ “π-Motion” เน้นการออกแบบเรียบหรู ชุดไฟหน้าเป็นแบบแยกส่วนโดยด้านบนเป็นชุดไฟส่องสว่าง ที่เหมือนกับในรุ่น Denza N7 แต่ Denza N8 จะเพิ่มแถบเส้นสีดำ เชื่อมต่อระหว่างโคมไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนด้านล่างเป็นแถบไฟ DRL ที่มาในรูปแบบ Diamond Arrow ขณะที่ในส่วนกระจังหน้าจะออกแบบให้มีริ้วแถบตะแกรง เพื่อเป็นช่องรับอากาศ
ด้านข้างดีไซน์เน้นความเรียบหรู มือเปิดประตูเป็นแบบปกติเหมือนรถุยนต์ทั่วไป เติมความหรูหราด้วยเส้นโครเมียมที่วางพาดอยู่ที่กรอบกระจกบานข้างด้านบน มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนขนาด 19 นิ้ว
ด้านท้ายเพิ่มความสปอร์ตด้วยการออกแบบให้มีความลาดเทนิด ๆ พร้อมติดตั้งสปอยเลอร์หลังคา อีกทั้งยังตกแต่งที่เสา D ด้านท้ายด้วยเฉดสีดำ เพื่อทำให้ตัวรถมีหลังคาแบบลอยตัวสง
ชุดไฟท้าย LED แบบเรียวเล็กที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ เติมความดุดันที่กันชนท้ายด้วยดิวฟิวเซอร์สีเงินขนาดใหญ่ พร้อมคาดด้วยไฟทับทิมที่เป็นแถบอยู่วางทับอยู่บนช่องดักลมเทียมเหนือกันชนท้าย
สำหรับในด้านมิติขนาดตัวจะมีความยาวอยู่ที่ 4,949 มม., กว้าง 1,950 มม. สูง 1,725 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,830 มม.
ภายในห้องโดยสารจะเบาะที่นั่งให้เลือกทั้ง 5 – 6 – 7 ที่นั่ง โดยในรุ่น 6 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่ 2 จะเเป็นที่นั่งแบบ Captain Seat
งานออกแบบภายในเน้นความเรียบหรูดูแพง แผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสที่มีขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ ที่มาพร้อมความคมชัดระดับ 2.5K รองรับระบบ Denza Link 5G มาพร้อมแผงหน้าปัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัว วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสามก้าน นอกจากนั้นยังได้รับหน้าจอ HUD ขนาด 12 นิ้ว ที่สะท้อนภาพไปยังกระจกบังลมหน้า
คอนโซลกลางออกแบบให้ต่อเชื่อมกับคอนโซลหน้า มาพร้อมแท่นชาร์จแบบไร้สายที่สามารถวางชาร์จพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง เพิ่มความหรูหราด้วยหัวคันเกียร์ทำจากคริสตัล มาพร้อมระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงจากแบรนด์ Dynaudio และหลังคาซันรูฟไฟฟ้าขนาดใหญ่ ด้านระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติมาพร้อมช่องแอร์ที่ออกแบบมาในทรงกลม คล้ายกับท่อไอพ่นของเครื่องบิน
นอกจากนั้นยังเพิ่มความสะดวกสบาย และการใช้งานมากขึ้นด้วยการติดตั้งโต๊ะแบบพับไว้ที่ด้านหลังเบาะที่นั่งแถวแรก
ในด้านความปลอดภัย Denza N8 มีฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 2+ อาทิ ระบบการเตือนการชนด้านหน้ าและการชนด้านหลัง ซึ่งรองรับโดยเซ็นเซอร์ทั้งหมด 24 ตัว รวมถึงเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว กล้อง 6 ตัว และเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว
สำหรับขุมพลังขับเคลื่อนของ Denza N8 จะมากับระบบไฮบริด DM ของ BYD ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5T ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 231 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าจะให้กำลัง 214 แรงม้า แรงบิด 325 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หล้งให้กำลัง 268 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ส่งผลทำให่ตัวรถจะมีอัตราเร่งจาก 0 -100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ขณธที่ความเร็วสูงสุดจะถูกจำกัดไว้ที่ 190 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยรวมอยู่ที่ 6.45 ลิตร/100 กม. หรือประมาณ 15.5 กม./ลิตร
มาพร้อมแบตเตอรี่เบลดขนาด 45.8kWh ที่ชาร์จไฟเต็มจะวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 216 กม. โดยทาง BYD เคลมไว้ว่าเมื่อน้ำมันเต็มถัง และแบตเตอรี่เต็มความจุจะสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 1,030 กม.
นอกจากนี้ตัวรถยังติดตั้งระบบ Cloud Chariot-C ของ BYD ที่เป็นระบบควบคุมตัวลดการสั่นสะเทือนอัจฉริยะ อีกทั้งยังรองรับทั้งการชาร์จทั้งแบบ DC และ AC รวมถึงตัวรถยังมาพร้อมระบบจ่ายไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอก
สำหรับ Denza N8 ขุมพลัง PHEV ทาง BYD เปิดราคาจำหน่ายระหว่าง 319,800 – 326,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.55 – 1.59 ล้านบาท