หลังจากที่ทาง BYD สร้างความฮือฮา และสร้างกระแสฟีเวอร์ของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเมืองไทย ด้วยการเปิดตัวพร้อมวางจำหน่าย BYD ATTO 3 เอสยูวีไฟฟ้าเมื่อปีที่ผ่าน โดยปัจจุบันสามารถส่งมอบรถไปแล้วกว่า 10,000 คัน
ล่าสุดทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ เตรียมสร้างต่อความสำเร็จของรถยนต์ไฟฟ้าในค่ายด้วยการเปิดตัว BYD Dolphin รถยนต์ไฟฟ้า 100% แฮทข์แบ็กไฟฟ้า 5 ประตู สเปกพวงมาลัยขวา ที่ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 (Motor Show 2023) โดยเปิดราคาคาดการณ์จำหน่าย หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอยู่ที่ 799,999 บาท พร้อมการเปิดรับจองในรุ่น Standard Range ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ภายในงาน Motor Show 2023 และโชว์รูม BYD ทั่วประเทศ โดยพร้อมส่งมอบรถได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 นี้
สำหรับ BYD Dolphin สเปกที่พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยนี้ จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ที่คู่ล้อหน้าให้กำลังสูงสุด 70 kWh มาพร้อมแรงบิด 180 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 12.3 วินาที
มาพร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ที่มีความจุแบตเตอรี่ 44.9 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งไกล 410 กม. ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
ในด้านตัวรถจะถูกออกแบบให้มีมิติตัวถังกะทัดรัด ตอบโจทย์การใช้งานของคนเมือง ให้ความคล่องตัวในการขับขี่สูงสุดจากระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าและหลังที่สั้น โดยมีมีมิติตัวถังความยาว 4,290 มม., กว้าง 1,770 มม.,สูง 1,570 มม. มีระยะฐานล้อที่ 2,700 มม.
รูปลักษณ์การออกแบบจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากความปราดเปรียวของโลมา ตามชื่อรุ่น โคมไฟหน้าใช้ LED มาพร้อมไฟ DRL กระจังแบบปิดทึบสีดำพร้อมตีตรา BYD ไว้ตรงกลาง
สำหรับเสน่ห์ของ Dolphin EV คือเส้นสายบนตัวถัง ที่สื่อสารถึงอารมณ์ที่พร้อมจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา ด้านข้างตัวรถมาในแบบหรูาในรูปแบบรถสไตล์แฮทช์แบค 5 ระตู ตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยวัสดุชิ้นงานสีดำ รับกับชุดล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/60 R16 มาพร้อมกาบประตูข้างสีดำ
ภายในห้องโดยสารตกแต่งให้ดูทันสมัยล้ำยุค โดยในเวอร์ชั่นที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2023 นี้ จะมาพร้อมกับพวงมาลัยขวา ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก มาพร้อมเบาะที่นั่งแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ต หุ้มด้วยนหนังสังเคราะห์ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทางในฝั่งผู้ขับขี่ ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง โดยในส่วนเบาะนั่งด้านหน้าแบบมีรูระบายอากาศ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้านแบบท้ายตัด, มือจับเปิดประตูด้านในออกแบบคล้ายครีบของโลมา
แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว และหน้าอินโฟเทนเมนท์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถหมุนปรับให้เป็นแนวตั้งแนวนอนได้ด้วยไฟฟ้า รับรองฟังก์ชัน Navigator และ Music Streaming รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay® (USB) รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงเป็นภาษาไทย / อังกฤษ
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะมากับ ช่องจ่ายไฟ 12V ที่คอนโซลกลาง, กุญแจแบบคีย์การ์ด พร้อมระบบ Keyless Entry และ Keyless Start, ระบบเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 พร้อม CN95 Filter, กระจกมองหลังปรับแสงได้, ชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย และหลังคาแบบ Panoramic Roof
สำหรับระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Dolphin EV ที่จะได้รับ อาทิ ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทางตัวของรถ, ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่, ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, เรดาร์ด้านหน้า 2 จุด และด้านหลัง 3 จุด, ระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปลผัน, ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน, ระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า และด้านหลัง, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยควบคุมเมื่อรถออกจากเลน และ ระบบเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนเลน เป็นต้น
ทั้งนี้สำหรับผู้จอง BYD Dolphin EV ทุกคันจะได้รับสิทธิพิเศษ Rêver Care มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท ประกอบด้วย
- ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี
- รับประกันคุณภาพตัวรถและแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
- บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ นาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
สำหรับ BYD Dolphin จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Coastal Cream และ Flora Purple ส่วนราคาจำหน่ายทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ เปิดราคาคาดการณ์จำหน่าย หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอยู่ที่ 799,999 บาท
สามารถไปชม และสัมผัสตัวจริงของ BYD Dolphin EV ได้ที่ในงาน Motor Show 2023 ที่มีขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 2 เมษยน 2566 ณ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี
