BYD แบรนด์ผู้รถรายใหญ่ของประเทศจีน ได้เปิดตัวยนตกรรมรุ่นใหม่ BYD Han L รถในตัวถังแบบซีดานคูเป้ท้ายลาด โดยมีให้เลือกมากถึง 6 รุ่นย่อย มีทั้งในรูปแบบ PHEV และ EV เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 209,800 – 279,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 9.71 แสนบาท – 1.299 ล้านบาท
สำหรับ BYD Han L โมเดลปี 2025 นี้จะเป็นรถในตระกูล HAN ซึ่งเป็น 1 ใน ซี่รีส์ราชวงศ์ (Dynasty) ร่วมกับ TANG, QIN, SONG และ YUAN
ในด้านงานออกแบบจะเหมือน และคล้ายกับ BYD Han ที่เพิ่งเปิดตัววาวงจำหน่ายในจีนเมื่อปลายปี 20224 ที่ผ่านมา
ตัวรถจะเน้นความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าแบบปิดทึบ โดยมีแถบชิ้นงานสีโครเมียมคาดไว้ตรงกลางพร้อมติดโลโก้ชื่อรุ่น Han (ฮั่น) เป็นภาษาจีนไว้ตรงกลางขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งด้วยชุดไฟ LED แบบทรงเรียวยาว มาพร้อมเส้นไฟ DRL LED ที่อยุ่ในกรอบเดียวกัน
โดยมีช่องดักอากาศรูปทรงตัว U ขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง เชื่อมต่อด้วยแถบเส้นสีดำไปยังช่องดักอากาศเทียมที่อยู่มุมทั้งว 2 ฝั่งของกันชนหน้า
ขณะที่เส้นสายด้านข้างของตัวรถดีไซน์ให้สอดรับกับระบบแอร์โร่ไดนามิค ตัวรถังที่ราบเรียบ มือเปิดประตูเป็นแบบซ่อนที่แนบสนิทไปกับตัวบอดี้ นอกจากนี้ยังเติมกิมมิคเล็ก ๆ ด้วยแถบเส้นสีดำ ที่ลากยาวตั้งแต่บังโคลนหน้าทาบไปยังบานประตูข้างบานหน้า เติมความสปอร์ตด้วยล้อออัลลอยปัดเงา โดยที่ด้านในติดตั้งคาร์ลิปเปอร์สีแดงไว้ที่ล้อทั้ง 4
ส่วนด้านท้ายมาในแบบลาดเท ตามสไตล์รถคูเป้ท้ายลาด พร้อมติดตั้งชุดไฟท้าย LED ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ ตามแบบฉบับรถรุ่นใหม่ โดยมีลวดลายด้านในออกแบบให้เป็นลักษณะคล้ายเชือกถักตามแบบฉบับของชาวจีน
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะเป็นรถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ โดยมีขนาดความยาว 5,050 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,505 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,970 มม.
ขณะที่เฉดสีตัวรถที่เปิดวางจำหน่ายนั้น จะได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องเคลือบดินเผาของจีน ซึ่งจะมีให้เลือก 4 สี สีเงิน, สีเขียว, สีดำ และสีเทา
ภายในห้องโดยสารออกแบบด้วยความหรูหราพรีเมียม ด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุคณภาพสูง โดยมีการใช้วัสดุไม้เป็นส่วนหนึ่งในการตกแต่ง ไม่วา่าจะเป็นที่อนโซลหน้า และแผงประตูข้าง
ในส่วนของแผงแดชบอร์ฺดจะมากับแผงหน้าปัดทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสามก้านที่หุ้มด้วยหนัง ขณะที่ตรงกลางคอนโซลหน้านั้น จะได้รับการติดตั้ง หน้าจอควบคุมกลางที่ถูกวางแบบลอยโดยมีขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบ DiLink 150 ของ BYD และชิปขนาด 4 นาโนเมตร นอกจากนั้นยังมีหน้าจอ W-HUD ที่สะท้อนข้อมูลการขับขี่ไปยังชุดกระจกบังลมหน้า
ส่วนคอนโซลกลางจะมีพื้นที่ขนาดใหญ๋ โดยออกแบบให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหน้าในลักษณะแบบสะพาน โดยจะดีไซน์ให้เป็น 2 ชั้น ด้ารนล่างจะเป็นช่องวางสำหรับวางของ ส่วนพื้นที่ด้านบนติดตั้งช่องแอร์ที่วางอยู่เหนือแท่นชาสร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่ให้กำลังการชาร์จถึง 50W อีกทั้งยังมีแถบปุ่มควบคุมสั่งงานตัวรถที่วางอยู่ด้านล่างถัดลงมา
นอกจากนี้ BYD Han L ยังได้รับการติดตั้งช่องทำความเย็นและทำความร้อนที่มีขนาด 7 ลิตร โดยจะอยู่ด้านล่างของที่เท้าแขนระหว่างเบาะคู่หน้า
ขณะที่ตัวเบาะที่นั่งนั้น ในส่วนเบาะนั่งคู่หน้าจะมากับระบบทำความร้อน / ระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันนวด ส่วนเบาะนั่งติดตั้งที่วางแขนตรงกลางมาให้ โดยจะมีหน้าจอควบคุมระบบปรับอากาศ และฟังก์ชันต่าง ๆ ติตดั้งมาให้
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในยังจะได้รับชุดไฟ Ambient Light, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพงของทาง Dynaudio อีกทั้งทาง BYD ยังเผยว่า Han L ในรุ่น EV จะมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุ 160 ลิตร ที่กว้าง และใหญ่ทีสุดในในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าด้วยกัน
อีกทั้งยังยังมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อกับสมาร์โฟนที่ไว้ควบคุมสั่งงานตัวรถ, ระบบ NFC, ถุงลมนิรภัย 12 ใบ และระบบ V2L ที่จ่ายกระแสไฟไปยังชุดอุปกรญ์ภายนอก
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Han L จะได้รับการติดตั้งระบบ God’s Eye B (DiPilot 300) ของทางบีวายดี มาพร้อมเซ็นเซอร์บนรถ ที่ประกอบด้วย LiDAR คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 12 ตัวรอบคัน
โดยจะมาพร้อมนำทางทั้งขับขี่ในเมือง และบนทางหลวงโดยใช้ระบบอัตโนมัติ รวมทั้งยังมากัยระบบจอดรถอัตโนมัติ, ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ, ระบบช่วยจอดรถระยะไกล, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบตรวจจับจุดบอด เป็นต้น
ด้านขุมพลังจะมีทั้งรูปแบบ EV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% และระบบ PHEV โดยในรุ่น EV จะมีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ส่วนในขณะที่ PHEV จะเป็นการขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)
BYD Han L ในรูปแบบ EV
- RWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 500 kW (671 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ใน 5.5 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจะอยู๋ที่ 240 กม./ชม.
- AWD จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมอเตอร์คู่หน้าจะให้กำลัง ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรด้านหน้ 230 kW (308 แรงม้า)ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 580 kW (778 แรงม้า) ให้เร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 2.7 วินาที
โดยทั้ง 2 รุ่นจะมากับจับคู่กับแบตเตอรี่ BYD Blade รุ่นที่ 2 ที่มีขนาดความจุ 83.212 kWh โดยในรุ่น RWD ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 701 กม. ส่วนรุ่น AWD จะมีระยะทางวิ่งอยู่ที่ 601 กม. (CLTC)
BYD Han L ในรูปแบบ PHEV จะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี DM เจเนอเรชั่นที่ 5 ของบีวายดี ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5T ที่ให้กำลังสูงสุด 115 kW (154 แรงม้า) มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร โดยในรุ่น FWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 200 kW (268 แรงม้า) แรงบิด 315 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 200 กม./ชม.
ส่วนในรุ่น AWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยทั้งด้านหน้า และหลังจะให้กำลังที่เท่ากันที่ 200 kW แรงบิด 315 นิวตันเมตร มาพร้อมอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.9 วินาที
จับคู่กับแบตเตอรี่ BYD Blade ขนาด 29.4 kWh วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนจะให้ระบะทางไกลสุด 200 กม. (CLTC) และระยะทางวิ่งครอบคลุมที่มาถึง 1,400 กม. เมื่อเติมน้ำใันเต็มถัง และแบตเอรี่ชาร์จไฟเต็ม
สำหรับราคาจำหน่าย BYD Han L โมเดลปี 2025
PHEV
- 200km LiDAR Premium ราคา 209,800 หยวน คิดแป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 9.75 แสนบาท
- 200km LiDAR Flagship ราคา 229,800 หยวน คิดแป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.06 ล้านบาท
- AWD LiDAR Flagship ราคา 259,800 หยวน คิดแป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาท
EV
- 701km LiDAR Premium ราคา 219,800 หยวน คิดแป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.02 ล้านบาท
- 701km LiDAR Flagship ราคา 239,800 หยวน คิดแป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.11 ล้านบาท
- AWD LiDAR Flagship ราคา 279,800 หยวน คิดแป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านบาท