in

BYD Seal รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์หรู คู่ปรับใหม่ของ Tesla Model 3 ชาร์จไฟวิ่งไกล 700 กม.

หลังจากที่ BYD ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน ได้เผยโฉม BYD Seal รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์หรู ที่จะมาเป็นคู่ต่อกรตัวใหม่ของทาง Tesla Model 3 ครั้งแรกเมื่อช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง BYD ได้เผยรายละเอียดตัวรถทั้งหมด พร้อมราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 222,274 หยวน หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท 

BYD Seal

BYD Seal เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบซีดานขนาดกลาง 4 ประตู ซึ่งคู่แข่งโดยตรงก็คือ Tesla Model 3 โดยรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นบน e-platform 3.0 ที่มาพร้อมแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า Ocean-X 

BYD Seal

BYD Seal

สำหรับ BYD Seal ที่เปิดวางจำหน่ายในจีนจะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย มาพร้อมขุมพลังให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสุงสุดถึง 530 แรงม้า 

BYD Seal

ในด้านมิติตัวรถมีความยาวอยู่ที่ ความยาว 4,800 มม., กว้าง 1,875 มม.,สูง 1,460 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,920 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับ Tesla Model 3 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย

BYD Seal

ในด้านการออกแบบมาในแบบสปอร์ตที่มีรูปทรงเรียบ ทรงผลทำให้ BYD Seal มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.219 Cd

BYD Seal

BYD Seal

BYD Seal

ในด้านรายละเอียดรูปลักษณ์มากับเส้นสายตัวถังที่ถ่ายทอดจาก Ocean-X concept ที่ได้สร้างรูปลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความหรูล้ำ และไดนามิกในทุกมุมมอง ชุดไฟหน้า LED เป็นรูปตัว C ฝากระโปรงหน้าโค้งรับกับในส่วนชุดไฟหน้า 

BYD Seal

เส้นสายด้านข้างตัวรถดีไซน์เน้นความเพรียวบาง มือจับประตูออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ หลังคาด้านท้านลาดเทเหมือนรถในรูปแบบคูเป้

BYD Seal

BYD Seal

BYD Seal

ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบเรียวยาว ดูล้ำทันสมัยแบบฉบับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านท้าย มาพร้อมกันชนท้ายขนาดใหญ่ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนออกแบบลวยลายคล้ายใบพัด ที่มีขนาด 18 – 19 นิ้ว

BYD Seal

BYD Seal

ภายในห้องโดยสาร ดีไซน์ให้มีจิตวิญญาณเหมือนอยู่ในมหาสมุทร อาทิช่องระบายอากาศของ Seal มีลวดลายเป็นคลื่นและตกแต่งด้วยขอบสีน้ำเงิน ในส่วนเบาะนั่ง และแผงประตูรวมถึงคอนโซลกลางและคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมสีขาว 

BYD Seal

แผงแดชบอร์ดโดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟรเทนเมต์เหมือนแท็บเล็ตขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ มาพร้อมหน้าจอ LCD ทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาด 10.25 นิ้ว วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นลาย3 ก้าน ท้ายตัด หุ้มด้วยหนังสีดำ ระบบเครื่องเสียงในรุ่นเริ่มต้นจะติดตั้งลำโพง 10 ตำแหน่ง ส่วนในรุ่นท็อปจะเป็นเครื่องเสียงคุณภาพพร้อมลำโพง Dynaudio 12 ตำแหน่ง

BYD Seal

ในส่วนเบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมกับระบบปรับความร้อนและระบายอากาศ มีปลั๊กไฟ 220 V เพื่อจ่ายพลังไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอก ปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่

BYD Seal

ด้านขุมพลังขับเคลื่อนของ BYD Seal EV จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่หมุนคู่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า, มอเตอร์ไฟฟ้าเดียว/ขับหลัง 313 แรงม้า 

BYD Seal

นอกจากนั้นยังมีในรุ่นเรื่อธงที่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนแบบ AWD โดยมอเตอร์ที่อยู่คู่ล้อหน้าจะให้กำลัง 217 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ที่อยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 313 แรงม้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 530 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที ซึ่งทั้งหมดจะส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ซิงเกิลสปีด 

สำหรับแบตเตอรี่จะมีขนาดที่แตกต่างกันไปแต่ละรุ่นย่อย 61.4 kWh – 82.5 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 550-700 กม. 

ด้านการชาร์จไฟ มาพร้อมระบบ Fast Charge DC ขนาด  110 kW ชาร์จไฟจาก 30-80% ในเวลาเพียง 30 นาที

BYD Seal

BYD Seal จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นแบ่งออกเป็น ในรุ่น Standard Range RWD Elite, Standard Range RWD Premium, Long Range RWD และรุ่น Long Range AWD Performance สำหรับราคาค่าตัวจะมีราคาจำหน่ายเริ่มที่ 222,274 – 286,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่  1.1 -1.5 ล้านบาท (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้าจากไทย)

BYD Seal ตั้งแต่เผยโฉมออกมาวันแรกเมื่อ พ.ค. ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดในเมืองจีนได้มากถึง 60,000 คัน โดยใน 6 ชม. แรกของการเปิดตัวก็มีผู้สั่งจองมากกว่า 20,000 คัน  

BYD Seal

BYD Seal นอกจะมวางจำหน่ายบ้านเกิดที่เมืองจีนแล้ว ยังจะมีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย โดยเฉพาะในออสเตรเลียที่จะใช้ชื่อรุ่นว่า BYD Atto 4 

BYD Seal

ส่วนในเมืองไทยก็มีข่าวว่าทาง BYD กำลังจะเข้ามาทำตลาดแบบจริงจังในบ้านเรา ก็ต้องรอลุ้นว่าทาง BYD จะนำ BYD Seal เข้ามาหรือไม่อย่างไร งานนี้ต้องจับตากันให้ดี ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในปีนี้รวมถึงปีหน้าในบ้านเราเดือดระอุปแน่นอน 

This post was created with our nice and easy submission form. Create your post!