in , ,

BYD Tang L เอสยูวีใหม่ในจีน มีทั้ง EV และ PHEV ราคาเริ่มที่ 1.05 ล้านบาท

BYD Tang L SUV เรือธงรุ่นใหม่ในซีรีส์ Dynasty มีให้เลือกทั้งแบบ EV ที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว 788 แรงม้า และคู่ 1,100 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 100.53 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 560 / 600 / 670 กม. และรุ่น PHEV ที่วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 215 กม. เปิดราคาเริ่มที่ 1.05 ล้านบาท

BYD Tang L

ในช่วงก่อนถึงงานใหญ่ในประเทศจีนอย่าง Auto Shanghai ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย. ที่จะถึงนี้ทาง ทาง BYD จะโหมเปิดตัวรถรุ่ยใหม่ถึง 2 รุ่นพร้อม ๆ กันนั้นก็คือ BYD Han L ซีดานใหม่มีทั้งแบบ EV และ PHEV และ BYD Tang L รถในรูปแบบตัวถังเอสยูวี ซึ่งถือเป็นเรือธงรุ่นใหม่ในซีรีส์ Dynasty ของทางแบรานด์บีวายดี 

BYD Tang L

สำหรับ BYD Tang L SUV ตัวใหม่นี้จะมีขุมพลังให้เลือกใช้ทั้ง EV และ PHEV ในด้านงานออกแบบ Tang L ถูกพัฒนาขึ้นบน Super e-Platform ของ BYD โดยถือเป็นภาษาการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ ด้านหน้าตัวรถมาในแบบ Dragon Face กระจังหน้าแบบปิดทึบตามแบบฉบับรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่

BYD Tang L

ชุดไฟหน้าเป็นแบบแยกส่วนด้านบนเป็นแถบไฟ LED แบบเนียวเล็ก ที่วางอยู่ชิดขอบฝากระโปรงหน้า โดยมีแถบเส้นไฟ LED วางพาดเต็มพื้นที่อยู่ด้านล่างในแบบลักษฯะรูปตัว U ขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีแถบชิ้นงานเป็นวัสดุโครเมียมวางซ้อนอยู่ด้านบน พร้อมติดตราโลโกช้ชื่อรุ่น TANG ที่เป็นภาษาจีนไว้ตรงกลาง 

BYD Tang L

ส่วนไฟส่องสว่างหลัดจะแยกออกมาอยู่ด้านล่าง ในกรอบรูปทรงคล้ายมุมเบอแรงสีดำ ส่วนที่ชายด้านล่างจะเป็นช่องดัดอากาศที่เปิด- ปิดแบบแอคทีฟด้วยไฟฟ้า 

BYD Tang L

BYD Tang L

ด้านเส้นสายด้านข้างดีไซน์ให้มีมุมเหลี่ยมที่ดูคมชัด และโฉบเฉี่ยว มาพร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่ สอดรับเข้าชุดกับล้ออัลลอยที่ออกแบบลวดลายให้ลดแรงต้านอากาศ อีกทั้งในส่วนของมือเปิดประตูก็เป็นแบบซ่อนที่ราบไปกับตัวบอดี้รถ เต็มความหรูหราด้วยเส้นโครเมียมที่เลาะตามขอบกระจกบานข้างตั้งแต่เสา A ไปจนถึงเสา D ด้านท้าย 

BYD Tang L

BYD Tang L

นอกจากนั้นในส่วนเสา D-Pillar จะได้รับการออกแบบพิเศษให้มีขนาดใหญ่ เพื่อรับแสงจากด้านนอก ที่จะสามารถส่องเข้ามาด้านในได้อย่างเต็มที่ รวมั้งยังช่วยในเรื่องของทัศนวิสัยที่ดีขึ้นสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 ที่จะมองเห้นด้านนอกได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

BYD Tang L

ส่วนชุดท้าย LED จะเป็นแบบเดียวกับ Han L ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนหลัง โดยมีลวดลายด้านในออกแบบให้เป็นลักษณะคล้ายเชือกถักตามแบบฉบับของชาวจีน

BYD Tang L

ในด้านขนาดมิติตัวรถจะัเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่โดยมีความยาวอยู๋ที่ 5,040 มม. กว้าง 1,996 มม. สูง 1,760 มม. และมีระยะฐานล้อขนาด 2,950 มม. 

BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L

ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว งานออกแบบจะมาในแบบสีทูโทน พร้อมตกแต่งภายในด้วยสีเทาเมทัลลิกด้านที่ช่วยเสริมบุคลิคให้ดูมีความภูมิฐาน โดยมีพื้นที่เก็บของด้านท้ายที่มีตความจุมากถึง 1960 ลิตร

BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L

แผงแดชบอร์ดจะมากับแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสามก้านที่หุ้มด้วยหนัง ขณะที่ตรงกลางคอนโซลหน้านั้นจะเป็นหน้าจอควบคุมกลางที่ถูกวางแบบลอยโดยมีขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว มาพร้อมระบบ AR-HUD (head-up display)

BYD Tang L

BYD Tang L

นอกจากนั้นยังออกแบบในส่วนของช่องระบายอากาศให้เป็นแบบซ่อน ดูเนียม และกลมกลืนไปกับแผงคอนโซลหน้าอย่างลวตัว

BYD Tang L

BYD Tang L

คอนโซลกลางจะมีพื้นที่ขนาดใหญ๋ดีไซน์ให้เป็น 2 ชั้น ด้านล่างจะเป็นช่องวางสำหรับวางของ ส่วนพื้นที่ด้านบนติดตั้งช่องแอร์ที่วางอยู่เหนือแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่มีให้ 2 ตำแหน่ง มาพร้อมแถบปุ่มควบคุมสั่งงานตัวรถที่วางอยู่ด้านล่างถัดลงมา

BYD Tang L

อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งช่องทำความเย็นที่สามารถวางขวดน้ำในแบบแนวตั้งได้พร้อมกันถึง 4 ขวด โดยจะอยู่ด้านล่างของหน้าจอระบบปรับอากาศที่ด้านหลังเบาะคู่หน้า BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L

นอกจากนั้น Tang L ยังมีรุ่นที่สามารถติดตั้งโดรน ได้ โดยในส่วนตัวโดรนนั้นจะอยู่ที่บนรหลังคา ซึ่งจะมีช่องเก็บโดรน พร้อมสามารถชาร์จไฟได้ในตัว โดยอุปกรณ์ชาร์จไฟนั้นสามารถใช้งานได้ด้วยปุ่มเดียว ซึ่งจะช่วยให้ตัวโดรนนั้นบินได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร

BYD Tang L

BYD Tang L

ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการกขับขี่ Tang L มาพร้อมกับระบบ DiPilot 300 (God’s Eye B) ของ BYD โดยจะได้รับการติดตั้ง LiDAR ที่บนหลังคา นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ DiLink 150

BYD Tang L

BYD Tang L

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีทั้งแบบ EV และ PHEV โดยในรุ่นไฟฟ้า 100% มีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์เดี่ยวและแบบคู่ โดยรุ่นมอเตอร์ไฟ้าตัวเดีวจะอยู่ที่คู่ล้อหลัง โดยทางบีวายดี อ้างว่าเป็นมอเตอร์ที่มีกำลังสูงที่สุดในโลก โดยสามารถทำความเร็วได้ 30,511 รอบต่อนาทีและให้กำลังมากถึง 580 kW (788 แรงม้า) ส่วนรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้ามาไว้ที่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 230 kW ส่งผลทำให้มีพละกำลังรวมที่มากถึง 810 kW (1,100 แรงม้า) ให้แอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที

BYD Tang L

โดยในรูปแบบ EV ทั้ง 2 รุ่นจะจับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต 100.53 kWh รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้สตัวเดียวให้ระยะทางวิ่งไกลสุด 670 กม. ส่วนในรุ่นมอเตอร์คู่ชาร์จไฟวิ่งไกล 600 กม. ขณะที่ในรุ่นที่ติดตั้งโดรนชาร์จไฟให้รบะทางวิ่ง 560 กม. 

BYD Tang L

มาพร้อมแพลตฟอร์มแรงดันสูง 1,000 โวลต์ และเทคโนโลยีชาร์จแฟลชเมกะวัตต์ ช่วยให้เดินทางได้ 400 กม. ด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที พร้อมรองรับระบบชาร์จแบบปืนคู่ซูเปอร์ชาร์จที่ให้พลังงานสูงสุด 351 kW 

BYD Tang L

ขณะที่ Tang L รุ่น PHEV จะมากับเทคโนโลยี DM-P ล่าสุดของ BYD โดยผสานเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ช่วยทำให้มีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.6 ลิตรต่อ 100 กม. (NEDC) มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 35.62 kWk วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางอยู๋ที่ 175 –  215 กม. 

BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L

BYD Tang L จะมีทั้งหมด 6 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 229,800 – 289,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.05 – 1.33 ล้านบาท