บีเอ็มดับเบิลยูได้เผยโฉม BMW X5 และ BMW X6 MY2024 รุ่นปรับปรุงใหม่ โดยจะมาพร้อมกับรูปลักษณ์หน้าที่ปรับใหม่เล็กน้อยแต่ที่เป็นไฮไลทืหลักจะอยู่ที่ขุมพลังสมรรถนะที่จัดจ้าน และร้อนแรงมากกว่าในรุ่นที่ผ่านมา อีกทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอโค้ง Curved Display สำหรับ BMW X5 และ BMW X6 MY2024 ใหม่นี้มีกำหนดจะเดินสายการผลิตในข่วงเดือนเมษายนนี้ ที่โรงงานของ BMW ในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
สำหรับในการอัปเกรดภายนอกของทั้ง BMW X5 และ BMW X6 MY2024 จะเริ่มจากมากับชุดไฟหน้าแบบแยกส่วนที่เหมือนกับในรุ่น X7 ที่ปรับโฉมใหม่ แต่ในส่วนตัวโคมไฟจะถูกออกแบบให้ดูบางลง มีความโฉบเฉี่ยวขึ้น มาพร้อม ไฟ DRL ที่ออกแบบให้ดูคล้ายหัวลูกศร
ขณะที่ในรุ่น X5 มีตัวเลือกกระจังหน้าแบบเรืองแสง ที่ถูกนำเสนอครั้งแรกในรุ่น X6 เมื่อสองสามปีก่อน ส่วนในชุดกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่พร้อมช่องระบายอากาศแนวตั้ง
ในขณะที่ X6 จะได้รับชุดแต่ง M Sport เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และจะมากับกันชนที่ออกแบบใหม่ด้านในจะมาในลวดลายทรงแปดเหลี่ยมสีดำ
สำหรับภายในห้องโดยสารของทั้ง X5 และ X6 จะได้รับหน้าจอแดชบอร์ดแบบโค้งล่าสุดของ BMW ที่รวมหน้าจอมาตรวัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วเข้ากับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 14.9 นิ้ว ซึ่งเชื่อมต่อเป็นหน้าจอเดียว รองรับการใช้งานด้วยระบบสัมผัสและสั่งงานด้วยเสียง และระบบปฏิบัตการ BMW Operating System 8 นอกจากนี้ในที่ปรับเปลี่ยนระบบเกียร์แบบเดิม จะได้รับการออกแบบใหม้ให้เป็นสวิตช์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ทำจากคริสตัล วางอยู่ใกล้กับปุ่มหมุน iDrive ที่บนคอนโซลกลาง
พร้อมกับตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้ชื่อว่า Sensafin ที่คอนโซลหน้าควบคู่กับลายไม้ อีกทั้งยังติดตั้งไฟ Ambient light ที่เป็นแบบเดียวกับที่อยู่ใน 7-Series และ X7 ใหม่
ในด้านระบบความปลอดภัยจะมากับระบบ Driving Assistance Professional Package ที่มาพร้อมกับระบบ Highway Assistant หรือระบบช่วยเหลือการขับขี่ทางไกล, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ที่จะจดจำเส้นทางการนำรถเข้าช่องจอดเป็นระยะทางสูงสุดกว่า 200 เมตร
และระบบช่วยจอดรถที่ควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นตัวเลือกสามารถเก็บการหลบหลีกในการจอดรถได้มากถึง 10 รูปแบบจากสถานที่ต่าง ๆ
ในด้านพละในรุ่น BMW X5 sDrive40i, xDrive40i และ X6 xDrive40i ติดตั้งเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง เทอร์โบ พร้อม Mild-Hybrid 48V มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 12 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร
ส่งผลให้มีกำลังสูงสุดรวม 375 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 519 นิวตันเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 40 แรงม้า ให้ยังให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.2 วินาที
สำหรับ X5 M60i xDrive และ X6 M60i xDrive ยังคงมากับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ เสริมด้วยระบบ Mild-Hybrid 48V ที่ให้กำลังรวมกันได้สูงสุด 523 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร 750 นิวตันเมตร โดยทั้ง 2 รุ่นมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.2 วินาที
ขณะที่ BMW X5 xDrive50e PHEV ที่เข้ามาแทนที่ xDrive45e รุ่นก่อนหน้า จะมาพร้อมกับความร้อนแรง ด้วยชุดขุมพลังเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียงเทอร์โบ ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 483 แรงม้า ซึ่งมากกว่าเดิมที่มีเพียง 389 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 600 นิวตันเมตร เป็น 700 นิวตันเมตร พร้อมให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.6 วินาที ซึ่งดีกว่าเดิมที่มีเวลาอยู่ที่ 5.3 วินาที
โดยในด้านชุดส่งกำลังของ เครื่องยนต์ทั้ง 3 จะส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด นอกจากนี้ยังได้ปรับขนาดชุดแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้นโดยมีขนาด 25.7kWh (จากเดิม 17.1kWh)
สำหรับสนนราคาค่าตัวของ BMW X5 และ X6 รุ่นปรับโฉมใหม่ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 66,195 – 94,595 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.21 – 3.17 ล้านบาท โดยกำหนดการลงตลาดจะมีขึ้นในเร็ว ๆ วันนี้