หลังจากที่ทาง Chery ได้เปิดตัวรถ Fulwin T9 เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดใหม่ไปเมื่อกลางปี 202 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นได้ติดตั้ง ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมแบบไตรภาคจาก Guoxuan Hi-Tech ล่าสุดทางผู้ผลิตจากจีนเผยว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2024 นี้เป็นต้นไป ซีรีส์ Fulwin T9 ทั้งหมดจะเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตที่มีขนาดความจุที่เล็กกว่า แต่ยังคงประสิทธิภาพดีกว่าเดิม
โดยยังคงจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ซึ่งจะมีออปชั่น และฟีดเจอร์แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น แต่ในทุกรุุ่นจะวิ่งในโหมด EV ได้ระยะทางไกล 120 กม. โดยจะมีชื่อรุ่นเรียกดังนี้
- 120 กม. long-range Standard Lithium iron Phosphate
- 120 กม. long-range Comfort Lithium iron Phosphate
- 120 กม. long-range Luxury Lithium iron Phosphate
- 120 กม. long-range Flagship Lithium iron Phosphate
โดยทางเฌอรี่เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 129,900 – 169,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ประมาณ 6.09 – 7.95 แสนบาท
ในด้านรูปลักษณ์งานออกแบบตัวรถกระจังหน้าจะมาในทรงแบบปิดทึบ แต่มีการเจาะช่องระบายอากาศในทรงแนวตั้ง โดยทาง Fulwin เผยว่าได้รับรงบันดาลใจมาจากสายน้ำตก มาพร้อมโลโก้ของทาง Chery ที่ติดตั้งไว้ตรงกลางด้านบนโดยสามารถเรืองแสงได้ ขณะที่ชุดไฟหน้ามาในแบบ LED ทั้งระบบ โดยมีชุดไฟ DRL LED เป็นเส้นที่อยู่ในโคมเดียวกัน ด้านกันชนหน้าทั้ง 2 ฝั่งมาพร้อมช่องดักอากาศเทียม ขณะที่ด้านล่างเป็นช่องรับลมสีดำ
เส้นสายด้านข้างตัวรถนั้นถอดแบบมาจาก Chery Tiggo 9 ที่เป็นคู่แฝดทางการตลาด แต่ปรับให้ดูมีความพรีเมียมมากขึ้น โดยตกแตางกรอบกระจกบานข้างด้วยคิ้วโครเมียม ด้านเสา B และ เสา C ตกแต่งด้วยแถบสีดำ มือเปิดประตูเป็นแบบเราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนขนาด 19 และ 20 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 235/55 R19 และ 245/50 R20 (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย)
ด้านท้ายดีไซน์ให้มีความลาดเท เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคา ขณะที่ชุดไฟท้ายยกมาจาก Chery Tiggo 9 แต่จะเปลี่ยนจากชื่อแบรนด์ Chery มาเป็น Fulwin พร้อมย้ายตำแหน่งให้ไปอยู่ใต้ชุดไฟท้าย ส่วนตัวกันชนท้ายออกแบบให้เป็นสีดำทั้งชิ้น พร้อมดีไซน์ให้มากับชุดท่อไอเสียแบบซ่อน
Fulwin T9 จัดอยู่ในเอสยูวีขนาดกลาง โดยมีความยาวอยู่ที่ 4,795 มม, กว้าง 1,930 มม. สูง 1,738 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,770 มม.
Chery Fulwin T9 จะมีเฉดสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว Floating White, สีเทา Silent Grey, สีน่ำเงิน Dusk Mountain Blue, สีดำ Starry Night Black และสีเขียว Smoke Green
ภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือกทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยหน้าจอควบคุมส่วนกลางที่วางแบบลอยขนาด 15.6 นิ้ว ที่มีความคมชัดระดับ 2.5K ที่ขับเคลื่อนโดยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 รองระบการเชื่อต่อทั้ง Apple CarPlay/Huawei HiCar และบลูทูธ มาพร้อมแผงหน้าปัด LCD แบบเต็มขนาด 10.25 นิ้ว และพวงมาลัยรูปตัว D-Shape มาพร้อมระบบควบคุมรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ตโฟน พร้อมการอัปเดต FOTA
ด้านล่างหน้าจอควบคุมส่วนกลางเป็นช่องปรับอากาศทรงสี่เหลี่ยม คอนโซลกลางมากับแท่นสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่มีกำลังชาร์จไฟอยู๋ที่ 50W, ช่องวางแก้ว
ด้านชุดอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในจะได้ ระบบเครื่องเสียง Sony พร้อมลำโพง 14 ตำแหน่ง, ชุดไฟ Ambient light 256 สี, ช่องแอร์ด้านหลัง และที่บริเวณเสา และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา
นอกจา่กนั้นในรุ่นท๊อปสุดจะได้รับหน้าจอ W-HUD ที่สะท้อนข้อมูลการขับขี่ไปยังกระจกบังลมหน้า มาพร้อมระบบ Super ID ที่ประกอบไปด้วยระบบจดจำใบหน้า, ระบบจดจำเสียง, ระบบตอบโต้ด้วยเสียงวผ่าน AI
ด้านเบาะที่นั่งฝั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันนวด, การระบายอากาศและระบบทำความร้อน อีกทั้งยังสามารถปรับเบาะที่นั่งให้ราบเรียบได้ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเบาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 จนกลายเป็นเตียงขนาดใหญ่ถึง 2.1 ตารางเมตร
ในขณะเดียวกันเบาะแถวที่ 2 ก็มาพร้อมระบบปรับเลื่อนด้วยไฟฟ้าทำให้สามารถเข้า – ออก ไปยังเบาะแถวหลังได้อย่างสะดวก และง่ายดาย
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 เป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น อาทิ ระบบช่วยควบคุมเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการออกนอกเลน, ระบบช่วยการจราจรติดขัด, ระบบจดจำป้ายจราจร และระบบตรวจจับจุดบอด เป็นต้น
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Chery Fulwin T9 จะมากับระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่จะเป็นการทำงานของเครื่องยนต์ 1.5TGDI ที่ให้กำลัง 115 kW (154 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 150 kW (201 แรงม้า) มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานรวมกันทั้งระบบจัะให้กำลังรวมอยู่ที่ 265 kW (355 แรงม้า) ให้แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังจะมีให้ทั้งชุดเกียร์ DHT และ เกียร์ DHT 3 สปีด อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. อยู่ที่ 7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กม./ชม. มีโหมดการขับขี่ 5 โหมด ได้แก่ HEV, EV, Normal, Economy และโหมด Sports
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตที่มีความจุ 18.67 kWh (ที่มีขนาดเล็กกว่าแบตเตอรี่ชุดเดิมที่เป็นแบบลิเธียมเทอร์นารี หรือลิเธียมแบบไตรภาค) แต่ยังคงให้ระยะทางวิ่งในโหมด EV ได้เท่าเดิมที่ 120 กม. (CLTC) และเมื่อม้ำมันเต็มเต็มถัง พร้อมแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็มจะวิ่งครอบคลุมระยะมางมากกว่า 1,400 กม. (WLTC) พร้อมรองรับการชาร์จไฟ DC ที่จะให้กำลังไฟจาก 30% ถึง 80% ในเวลาเพียง 20 นาที รวมทั้งชาร์จไฟแบบ AC จะชาร์จเต็มในเวลาเพียง 3 ชม. เท่านั้น
สำหรับ Chery Fulwin T9 ที่เปิดตัวในจีนนี้จะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 129,900 – 169,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยจะมีราคาอยู่ที่ราว ๆ 6.09 – 7.95 แสนบาท