GM ในสหรัฐก็ได้เปิดตัวครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ Chevrolet Trax 2024 มาพร้อมกับรูปลักษณ์หน้าตาที่โฉบเฉี่ยว เท่ห์และทันสมัย พ่วงขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 137 แรงม้า มีให้ลเือก 5 รุ่นย่อยในตลาดสหรัฐอเมริกา ได้แก่ LS, 1RS, LT, 2RS และ Activ เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 21,495 – 24,995 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.18 – 9.52 แสนบาท
สำหรับ Chevrolet Trax 2024 จะเป็นคู่แฝดกับทาง Chevrolet Seeker เอสยูวีที่ถูกเปิดตัวในเมืองจีนเมืองช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ โดยได้ยกดีเทลรายละเอียดมาเกือยทั้งหมด แต่มีการปรับเปลี่ยนในบางส่วนเพื่อให้ที่ความแตกต่างกัน
แต่ในขนาดมิติตัวรถนั้นยังคงเดิมไม่เปลี่ยน โดยมีความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,540 มม., กว้าง 1,823 มม., สูง 1,564 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,700 มม.
ด้านงานดีไซน์ มาพร้อมกับรูปลักษณ์หน้าตาที่โฉบเฉี่ยว เท่ห์และทันสมัยโดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบแยกส่วนชุดไฟด้านบนจะเป็นไฟ LED ที่ดีไซน์ให้เป็นแถบเรียวยาวด้านปลายตวัดขี้นเล็กน้อย ส่วนชุดไฟใหญ่ส่องสว่างจะแยกออกมาอยู่ในกรอบด้านล่างที่มาพร้อมไฟตัดหมอก
กระจังหน้าดีไซน์ให้เป็นทรงตัว U ขนาดใหญ่ ด้านในตกแต่งด้วยชิ้นงานสีดำเป็นลวยลายแบบรังผึ้ง ตรงกลางยังคงมากับตราโบว์ไทสีดำ เพิ่มความดุดันและสปอร์ต ด้วยชุดพาร์ทแต่งสีดำรอบตัวรถทั้งที่ชายกันชนหน้า ขอบซุ้มล้อ กาบข้างประตู และกันชนท้าย
เส้นสายด้ายข้างดีไซน์ให้ดูเฉียบคมเน้นความสปอร์ตเอาใจวัยรุ่น หลังคาด้านท้ายดีไซน์ให้มีความลาดเท มาพร้อมแล็คหลังคา, เสาอากาศครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังคาด้านท้ายที่เป็นสีดำชุดไฟท้าย LED ขนาดใหญ่ กันชนท้ายดีไซน์สปอร์ต พร้อมติดตั้งท่อไอเสียแบบซ่อน
ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยจะมีขนาดตั้งแต่ 17 – 19 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย ถ้าเป็นในรุ่น Activ ที่เป็นในแบบฉบับสายลุยจะได้รับล้ออัลลอยสีดำ ส่วนถ้าเป็นในรุ่น RS ที่เน้นสไตล์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวจะเป็นล้อทูโทนขนาด 18 -19 นิ้ว นอกจากนั้นในรุ่น RS ยังได้รับการติดตั้งป้าย RS สีแดงไว้ที่กระจังหน้าอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารทั้ง 2 แบบ ก็จะตกแต่งต่างกัน โดยในส่วนเบาะนั่งรุ่น Activ จะหุ้มด้วยหนังสีเทาตัดด้วยสีเหลืองที่ตามขอบตะเข็บ ส่วนในรุ่น RS จะเน้นเฉดสีแดง ด้วยการเย็บและเดินตะเข็บต่าง ๆ ด้วยด้ายสีแดงทั้งหมด พร้อมตกแต่งเติมความร้อนแรงด้วยแถบเส้นสายสีแดงที่คาดอยู่บริเวณคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร และที่ช่องแอร์ ทรงกลมที่อยู่สองฝั่งซ้าย-ขวา
ขณะที่ชุดอุปกรณ์ภายในนั้นในรุ่น LS และ 1RS จะไดรับมาตรวัดแบบอะนาล็อกขนาด 3.5 นิ้ว เชื่อมต่อด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้วที่รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย
ส่วนในรุ่น LT, 2RS และ ACTIV จะได้รับแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 8 นิ้วและหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 11 นิ้ว และทำมุมเอียงเข้าหาผู้ขับขี่ 9 องศา เพื่อที่จะสามารถควบคุมและสั่งการได้อย่างสะดวก พร้อมรองรับระบบ Xiaoxue OS ใหม่ รวมถึงการเชื่อมต่อระบบ CarPlay แบบไร้สาย และการอัปเกรด OTA
ส่วนชุดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกติดตั้งจะได้รับแท่นชาร์จแบบไร้สาย, ช่องชาร์จไฟแบบ USB-C, หลังคาพาโนรามาซันรูฟ และประตูด้านท้ายปิด-เปิดด้วยไฟฟ้า
สำหรับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาตรฐาน Chevy Safety Assist อาทิ ระบบควบคุมการเบรกเมื่อเข้าโค้ง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบเส้นตรง, ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EPB ในตัว, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน, ระบบที่ช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ให้สอดคล้องกับสภาพของการจราจรอย่างอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบป้องกันการชนคนเดินถนน, ระบบช่วยรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน, ระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ,ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง และระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง
ด้านพละกำลังใต้ฝากระโปรงหน้าจะติดตั้งเครื่องยนต์สามสูบ 1.2 ลิตรเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลัง 137 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังคู่ล้อหน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่งผลทำให้รถเอสยูวีใหม่ขนาดเล็กในตลาดสหรัฐเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.6 วินาที
สำหรับสนนค่าตัวทาง GM ตั้งราคาจำหน่าย Chevrolet Trax 2024 เอสยูวีขนาดกะทัดรัด ไว้ที่ 21,495 – 24,995 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 8.18 – 9.52 แสนบาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าประเทศไทย) โดยจะเริ่มส่งมอบรถได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2023
น่าเสียดายที่รถรุ่นนี้จะไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายในตลาดเมืองไทย เพราะทาง Chevrolet ได้พับฐานเก็บข้างของกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาแล้ว