in , ,

DENZA D9 MY2025 เอ็มพีวีสุดหรูของทาง BYD รุ่นอัปเกรดใหม่ ราคาเริ่มที่ 1.58 ล้านบาท

BYD เปิดตัว DENZA D9 รถ MPV แบบลักชัวรี่ 3 แถว 7 ที่นั่ง โฉมปี 2025 มีให้เลือกทั้งแบบไฟฟ้า 100% และปลั๊กอินไฮบริด เคาะราคาจำหน้่ายเริ่มที่ 339,800 หยวน หรือราว ๆ 1.58 แสนบาท

DENZA D9 MY2025

หลังจากที่เปิดทำตลาดทั้งในจีน และนอกประเทศ ล่าสุดทาง DENZA แบรนด์รถที่อยู่ในสังกัดชายคาของทางบีวายดี ก็ได้เปิดตัว DENZA D9 โฉมปี 2025 โดยมีให้เลือก 8 รุ่น แบ่งเป็นในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด 5 รุ่น และ EV 3 รุ่น โดยในทุกรุ่นจะได้รับการอัปเกรดใหม่มากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง “God’s Eye BAS 3.0+ ของ BYD 

DENZA D9 MY2025

โดยทาง BYD เคาะราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 339,800 – 469,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 1.58 แสนบาท  – 2.19 ล้านบาท 

DENZA D9 MY2025

ในด้านงานออกแบบดีไซน์ตัวรถนั้นยังคงเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่ โดยในเวอร์ชันไฟฟ้า 100% จะมาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Into the Meteor Arrow โดดเด่นด้วยชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ Matrix ที่เป็นวัสดุโครเมียมดีไซน์วางยาวเป็นเส้นตรง 

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

ส่วนในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด จะมีการปรับเปลี่ยนดีเทลของกระจังหน้าเล็กน้อย โดยในส่วนลายเกล็ดมังกรที่มี 7 ชั้น จากเดิมที่เป็นทรงสามเหลี่ยม เปลี่ยนมาเป็นแบบทรงรูปตัว L ขณะที่ในส่วนชุดไฟหน้า LED Meteor Arrow นั้นยังคงเดิม ทั้งในรุ่น EV และ ปลั๊กอินไฮบริด 

DENZA D9 MY2025

นอกจากนั้น DENZA D9 MY2025 ในทุกรุ่น จะได้รับการติดตั้ง “ตาเทพ” (God Eye) ซึ่งใช้เลเซอร์ LiDAR และเซ็นเซอร์ 32 จุด ซึ่งรองรับฟังก์ชันช่วยเหลือการนำทางในเมือง และความเร็วสูง เช่น ระบบสตาร์ท-หยุดสัญญาณไฟจราจร, ระบบจดจำเส้นเลนที่ไม่ปกติ และระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวาง 

DENZA D9 MY2025

รวมทั้งยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยแบบซี่ล้อลายใหม่ที่มีขนาด 18 นิ้ว และยังมีการเพิ่มสีใหม่สีเทา Starry Gray นอกเหนือจากสีเดิมที่มีอยู่แล้วอย่างสีดำ Night Black, สีขาว Bright White และสีน้ำเงิน Elegant Blue 

DENZA D9 MY2025

อีกทั้งยังมาพร้อมระบบควบคุมการหน่วงต่อเนื่อง DiSus-C ของ BYD, ระบบเทคโนโลยีควบคุมความสบายอัจฉริยะ (iCCT) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าอัจฉริยะ

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

ในด้านขนาดมิติตัวรถของ Denza D9 MY2025 ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยโดยจะมีระยะฐานล้อที่สั้นกว่าโฉมเดิมอยู่ประมาณ 20 มม. โดย Denza D9 โฉมใหม่นีั้จะมีระยะฐานล้ออยุู่ที่ 3,110 มม. ขณะที่ความสูง ความยาว  และความกว้างนั้นเท่าเดิม โดยมีความยาวอยู่ที่ 5,250 มม. กว้าง 1,960 มม. และมีความสูง 1,900 มม. 

DENZA D9 MY2025

ซึ่งทางผู้ผลิตเผยว่าเอ็มพีวีตัวใหม่ยังคงสามารถรองรับผู้ใหญ่ที่มีความสูง 1.80 เมตรได้ถึง 7 คน และใส่กระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่อง 7 ใบ และเป้สะพายหลัง 7 ใบ ได้พร้อม ๆ กัน

DENZA D9 MY2025DENZA D9 MY2025

ด้านภายในห้องโดยสารของ DENZA D9 MY2025 ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแตอย่างใด ยังคงมาพร้อมกับความหรูหรา ตกแต่งภายในด้วยลายไม้วีเนียร์ โดยจะมีให้เลือก 2 โทนสีได้แก่ สีน้ำตาลทอง และสีเบจ

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

เบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (2+2+3) ตัวเบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยหนัง Nappa มาพร้อมระบบอุ่น และระบบระบายความร้อน เบาะแถวหน้ามากับระบบนวด 10 จุด พร้อมปรับด้วยไฟฟ้า ส่วนเบาะแถวที่ 2 ที่เป็นแบบกัปตันซีท ตัวเบาะมาใน Zero Gravity อีกทั้งยังปรับเอนได้สูงสุด 152° พร้อมระบบนวด 16 จุด ส่วนบาะแถวที่ 3 รองรับการปรับด้วยไฟฟ้า

ในส่วนแผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Full LED ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว นอกจากนี้ยังพร้อมกับหน้าจอฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าที่มีขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ Denza Link และรองรับการอัปเกรดแบบ OTA นอกจากนี้ยังด้รับการติตดั้งหน้า HUD ขนาด 12 นิ้ว

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

เติมความหรูหราระดับไฮเอทด้วยคันเกียร์แบบคริสตัล และกระจกมองหลังดิจิทัล นอกจากนี้ยังติดตั้งหน้าจอที่หลังเบาะคู่หน้าที่มีขนาด 12.8 นิ้ว โดยสามารถสั่งงานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้จากจอที่เหมือนสมาร์ตโฟน ที่วางอยู่บนที่เท้าแขนตรงเบาะนั่งแถวที่ 2 

DENZA D9 MY2025

นอกจากนั้นยังติดตั้งตู้เย็นที่ติดตั้งระหว่างเบาะแถวที่ 2 และที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่ติดตั้งแยก และ Wireless Charger ถึง 3 จุด ชุดไฟ Ambient Light ที่สามารถปรับได้ 148 เฉดสี, ระบบเครื่องเสียงของทาง Devialet ปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาขนาดใหญ่

DENZA D9 MY2025

สำหรับขุมพลังขับเคลื่อน เวอร์ชัน PHEV จะมากัยเทคโนโลยี DM รุ่นที่ 5 ของ BYD โดยจะมากับเครื่องยนต์ 1.5T รุ่น BYD472ZQB ให้กำลัง 115 kW (154 แรงม้า) โดยมีพละกำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม  13 kW (17 แรงม้า) มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 200 kW (268 แรงม้า) ที่มีกำลังเพิ่มขึ้น 30 kW  (40 แรงม้า) เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยจะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าที่คู่ล้อหลังที่ให้กำลัง 45 kW (60 แรงม้า) 

DENZA D9 MY2025

มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ BYD Blade LFP ขนาด 39.938 kWh โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะให้ระยะทางวื่งในโหมดไฟฟ้าล้วยได้ไกล 200 กม. (ตามมาตราฐาน CLTC) ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะวิ่งในโหมด EV ได้ระะยทางไกลสุด 190 กม. (ตามมาตราฐาน CLTC) รวมถึงเมื่อีน้ำใันเต็มถัง และแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็มจะวิ่งครอบคลุมระยะทางไกล 1,100 กม. และ 1,020 กม. (ตามลำดับ) 

โดยทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อนสี่ล้อ จะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 5.85 ลิตร/100 กม. และสามารถทำความเร็วสุงุสดอยู่ที่ 190 กม./ชม.

DENZA D9 MY2025

ขณะที่ในรุ่น EV ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ก็จะมีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่ที่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 312 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมอยู่ที่ 374 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร 

DENZA D9 MY2025

มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 103.36 kWh รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อวิ่งไกล 620 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีระยะวิ่ง 600 กม. ทั้ง 2 รุ่นจะมากับแพลตฟอร์ม 800V ที่ชาร์จไฟ 15 นาที ได้ระยะทาง 243 กม. และลดเวลาชาร์จจาก 0% – 80% เหลือเพียง 7 นาที เท่านั้น

DENZA D9 MY2025

ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบแมคเฟอร์สัน ส่วนด้าสนหลังหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ มาพร้อมระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ Yunnian-C

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

DENZA D9 MY2025

สำหรับราคาจำหน่าย DENZA D9 DM-i แบบปลั๊กอินไฮบริด ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี DM 5.0 ล่าสุดของ BYD รุ่นปี 2025 จะมีให้เลือก 5 รุ่น จะมีราคาจำหน่ายเท่ากันกับในรุ่นเดิม โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 339,800 – 449,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.58 แสนบาท – 2.09 ล้านบาท

DENZA D9 MY2025

ส่วน Denza D9 เวอร์ชั่นไฟฟ้า100% ปี 2025 จะมีด้วยกัน 3 รุ่น เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 349,800 – 469,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.63 แสนบาท – 2.19 ล้านบาท (รุ่นเริ่มต้นจะมีราคาถูกลงกว่าเดิม