หลังจากที่เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ทางบีวายดี ได้เปิดตัว DENZA D9 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของทางค่าย ที่มาในรูปแบบ MPV ไฟฟ้า
ต่อมาที่ภายในงาน Motor Expo 2024 ทางเรเว่ ออโตโมทีฟ ก็ได้จัดงานเปิดตัวแบรนด์ “DENZA” แบรนด์หรูระดับพรีเมียม และเป็น 1 ในซับแบรด์ของทาง BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ซึ่งภายในงานนอกจากจะมี DENZA D9 วางโชว์ตัวอยู่ภายในบูธ ทาง เรเว่ ก็ได้นำรถอีก 2 รุ่นของทาง DENZA เข้ามาโชว์ในงาน Motor Expo 2024 นี้ นั่นก็คือ DENZA N7 และ DENZA Z9 GT
สำหรับ DENZA N7 นั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของทางแบรนด์ DENZA มาในรูปแบบครอสโอเวอร์ตัวถังแบบ Fastback Coupe โดยถูกเปิดตัว และวางจำหน่ายในประเทศจีนไปมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา
ในด้านงานออกแบบ มาในสไตล์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย โดยยึดแนวการออกแบบมาจากรถคอนเซ็ปต์ Inception เน้นการออกแบบที่เรียบหรูแต่ดูแพง ด้านหน้าของตัวรถ จะมากับกระจังหน้าแบบปิด ชุดไฟหน้าแบบแยกส่วนโดยด้านบนเป็นชุดไฟส่องสว่าง ส่วนด้านล่างเป็นแถบไฟ DRL ที่มาในรูปแบบ Diamond Arrow มาพร้อมเซ็นเซอร์ LiDAR ที่กันชนหน้า
ด้านข้างเรียบหรูด้วยมือเปิดประตูแบบซ่อน และเส้นโครเมียมที่วางพาดอยู่ที่กรอยกระจกบานข้าง มาพร้อมล้ออัลลอย ทูโทน ที่ออกแบบลวดลายให้ตรงตามหลักแอร์โร่ไดนามิค ที่มีขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 245/45 R20
ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์หลังขนาดเล็กทันสมัย ชุดไฟท้าย LED แบบเรียวเล็กที่วาวพาดยาวเต็มพื้นที่ แบบลากเชื่อมทั้งสองฝั่ง เติมความดุดันที่กันชนท้ายด้วยดิวฟิวเซอร์สีเงินขนาดใหญ่
ในด้านมิติขนาดตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 4,860 มม., กว้าง 1,935 มม., สูง 1,602 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,940 มม.
นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์ 33 ตัวรอบตัวรถ ซึ่งรวมถึง LiDAR, เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร, ชิป NVIDIA Orin และกล้อง 8 เมกะพิกเซลสองตัว
ภายในห้องโดยสารของ DENZA N7 แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอถึง 4 จอ ที่ประกอบไปด้วย แผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ฝั่งผู้โดยสารที่มีขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนหน้าจอควบคุมส่วนกลางจะมีขนาดใหญ่ 17.3 นิ้ว ที่ถูกวางแบบลอยตัว โดยมีความละเอียดหน้าจอระดับ 2K รองรับระบบ Harmony OS ของทางของ Huawei นอกจากนั้ยังได้รับหน้าจอแสดงผล AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว ที่สะท้อนขึ้นไปยังกระจกบังลมหน้าอีกด้วย
เบาะที่นั่งรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนัง NAPPA พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมี่ยมทั่วทั้งห้องโดยสาร โดยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหน้ามีระบบระบายอากาศ เเละอุ่นเบาะ
คอนโซลกลางติดตั้งหัวคันเกียร์ไฟฟ้าเป็นแบบแก้วคริสตัล มาพร้อมแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่ชาร์จพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่องที่ให้กำลังชาร์จสูงถึง 50 W, หลังคาซันรูฟไฟฟ้าขนาดใหญ่, ระบบเสียงจาก Devialet พร้อมลำโพง 16 ตำแหน่ง รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้าที่มีความจุ ขนาด 73 ลิตร สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้อย่างสบาย ขณะที่พิ้นที่เก็บสัมภาะระด้านท้ายจะมีความจุ 480 ลิตร และจะเพิ่มเป็น 1,200 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวหลังลง
DENZA N7 จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 โดยในเวอร์ชันที่มีวางจำหน่ายในประเทศจีนนั้นจะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 230 kW ให้กำลัง 313 แรงม้า ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยในคู่ล้อหน้าจะมากับมอเตอร์แบบอะซิงโครนัส ส่วนคู่ล้อหลังจะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรให้กำลังรวม 530 แรงม้า
ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะมากับเทคโนโลยี CTB (Cell-to-Body) ที่หมายความว่าชุดแบตเตอรี่ของ DENZA ถูกรวมเข้ากับเฟรมรถ ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการบิดตัวของรถ โดยทั้ง 2 รุ่นจะะมีขนาดความจุของแบตเตอรี่ 91.392 kWh โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จะให้ระยะทางการวิ่งที่ไกลถึง 702 กม. ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะวิ่งได้ 630 กม. (CLTC)
นอกจากนั้น BYD DENZA N7 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี 800V ที่สามารถชาร์จไฟ 5 นาที จะให้ระยะการวิ่งได้ไกลถึง 150 กม. พร้อมรองรับระบบ V2L สามารถจ่ายไฟจากตัวรถไปยังบ้านหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ โดยสามารถจ่ายไฟได้กำลังถึง 6 kW รวมทั้งยังมีปลั๊กที่สามารถใส่ไฟได้ 2.2 kW อยู่บริเวณพื้นที่สัมภาระด้านท้ายตัวรถอีกด้วย ขณะที่ระะบบช่วงล่างจะมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม
สำหรับราคาจำหน่ายของ DENZA N7 ในประเทศจีนนั้น จะมีราคาจำหน่ายระหว่าง 301,800 – 379,800 หยวน หรือประมาณ 1.42 – 1.79 ล้านบาท
ส่วนในตลาดบ้านเรานั้นคาดว่าอาจจะมีการนำวางจำหน่ายในเร็วววันนี้ ซึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไรทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทรบอีกครั้งหนึ่ง
