Denza แบรนด์รถระดับไฮเอนด์ของทาง BYD ได้เปิดให้ลูกค้าชาวจีนได้สั่งซื้อ Denza Z9 GT ล่วงหน้าแล้วโดยเปิดราคาแบบ Pre Sale ล่วงหน้าไว้ที่ 339,800 หยวน หรือประมาณ 1.61 ล้านบาท
โดย Z9 GT จะเป็นรถรุ่น 4 ของทางแบรนด์ Denza ที่จะถูกวางจำหน่ายในจีนต่อมาจาก Denza D9 MPV ไฟฟ้าสุดหรู, Denza N7 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า และ Denza N8 เอสยูวี PHEV


สำหรับ Denza Z9 GT สเตชั่นแวกอนตัวใหม่นี้ จะเข้ามาเป็นรถรุ่นเรือธงรุ่นใหม่ของทางแบรนด์ ตัวรถจะถุูกพัฒนาร่วมกันระหว่างทาง BYD และ Mercedes-Benz มาในรูปแบบตัวถังสเตชั่นแวกอน มีให้เลือกทั้งในรูปแบบ PHEV และ BEV โดยในรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% มากับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบตเตอรี่ชาร์จไฟวิ่งไกล 630 กม.และรูปแบบ PHEV ที่มีพละกำลังราว ๆ 1,000 แรงม้า รวมถึงจะวิ่งครอบคลุมระยะทางได้ไกลถึง 1,100 กม. โดยทางบีวายดี วางตำแหน่งให้มาเเป็นคู่แข่งโดยตรงกับทาง Porsche และ BMW ในตลาดโลก
ในด้านงานดีไซน์ตัวรถมาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Solar Diadem จะเน้นความโฉบเฉี่ยว ดุดัน ตัวรถจะไม่มีกระจังหน้า มีเพียงเส้นสายที่พลิ้วไหวเน้นความเอนเอียงแบบสปอร์ตของรถ ที่พร้อมให้ตัวรถพุ่งทยานแหวกอากาศได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมชุดไฟหน้าทรงเรียวแหลมแบบ 2 ชั้น พร้อมติดตั้ง LiDAR ไว้ที่ใต้กรอบป้ายทะเบียน
ด้านข้างมากับเส้นสายที่อกแบบให้สอดรับกับระบบแอร์โรไดนามิค มือเปิดประตูเป็นแบบราบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยที่มีลวดลายแบบปิดทึบ มาพร้อมประตูแบบไร้กรอบ และหลังคาแบบพาโนรามา
ส่วนด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ หลังคา และสปอยเลอร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ฝากระโปรงท้ายหลัง ที่สามารถยกขึ้นลงด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมชุดไฟท้ายเป็นแบบสองก้อนขนาดใหญ่ เสริมความโหดด้วยดิวฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ทั้งยังมีการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์
ในด้านมิติตัวรถจะมีขนาดความยาวอยู่ที่ 5,180 มม. กว้าง 1,990 มม. และสูง 1,500 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,125 มม. ขณะที่ในรุ่น PHEV จะมีขนาดยาวกว่าในรุ่น BEV โดยมีความยาวอยู่ที่ 5,195 มม. เนื่องจากมีกันชนที่ดุดันกว่า
ส่วนภายจะมีให้เลือก 2 โทนสี ได้แก่ สีขาว และสีเบอร์กันดี ในส่วนแผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอถึง 3 จอ ได้แก่ แผงหน้าปัด LCD ที่วางอยู่หลังพวงมาลัยทรง 4 ก้าน
ส่วนตรงกลางจะเป็นหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มาในแบบแขวนลอยตัวออกมาจากคอนโซลหน้า และหน้าจอแสดงภาพจากกล้องมองข้างที่แทนกระจกมองข้าง โดยวางอยู่ที่มุมแผงประตู ปิดท้ายด้วยหน้าจออินโฟนเทนเมนต์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า
ด้านคอนโซลกลามาพร้อมความหรูหราตามแบบฉบับของแบรนด์ Denza ด้วยหัวชุดเกียร์ที่ทำจากแก้วคริสตัล มาพร้อมที่วางแก้วน้ำ และแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายที่มีกำลังชาร์ตไฟถึง 50W โดยมีมาให้ถึง 2 ตำแหน่ง อีกทั้งยังได้รับชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพงของทาง Devialet ที่วางอยู่บนคอนโซลหน้า
นอกจากนี้ ที่วางแขนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เมื่อเปิดขึ้นจะเป็นช่องเก็บความร้อน – เย็น โดยสามารถปรับอุณหภูมิความร้อนไฟดถึง 35°C~50°C อีกทั้งยังปรับให้กลายเป็นตู้แช่ของ โดยทำความเย็นได้ระหว่าง -6°C~+6°C โดยตู้รักษาอุณหภูมิด้านหน้าจะมีความจุ 4 ลิตร ที่สามารถบรรจุน้ำอัดลมได้ 6 ขวด ส่วนตู้ด้านหลังมีความจุถึง 10 ลิตร โดยจะบรรจุขวดแชมเปญได้ 2 ขวด หรือไวน์ได้ถึง 4 ขวด
ด้านอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในห้องโดยสารของ Denza Z9 GT จะได้รัะบการติดตั้งกระจกแต่งหน้าทั้งแถวหน้าและแถวหลัง, หลังคาซันรูฟขนาด 2.1 ตารางเมตร และชุดไฟ Ambient Light ที่ปรับได้มากถึง 128 สี และระบบเครื่องเสียง Devialet
ในส่วนของเบาะที่นั่งฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าจะเป็นเบาะ Zero Gravity ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อให้ความสบายในระหว่าวกลางเดินทาง อีกทั้งเบาะนั่งด้านหลังยังปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบระบายอากาศ / ระบบทำความร้อน และฟังก์ชั่นนวด 10 จุด นอกจากนี้ยังมีจอ LCD ควบคุมอุณหภูมิอิสระสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
สำหรับในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Denza Z9 GT จะมีให้เลือกทั้งแบบไฟฟ้า 100% และ รุ่นปลั๊กอินไฮบริด โดยในรุ่น BEV จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 Evo ของ BYD โดยจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดย 1 ตัวจะวางอยู่ที่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 230kW หรือ 308 แรงม้า ส่วนอีก 2 ตัวจะติดตั้งอยู่ที่คู่ล้อหลัง โดยแต่ละตัวให้กำลัง 240 kW หรือ 322 แรงม้า ซึ่งเมื่อรวมพละกำลังของซีดานไฟฟ้าตัวใหม่นี้จะมีพละกำลังที่มากถึง 230 kW หรือราว ๆ 952 แรงม้า ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.4 วินาที มาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 240 กม./ชม. ด้านแบตเตอรี่ยังไม่มีการเปยขนาดความจุ เพียงแต่บอกว่าชารืจไฟวิ่งได้ไกล 630 กม. (CLTC)
ขณะที่ในรุ่น PHEV ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม e3 พร้อมระบบ DM รุ่นที่ 5 โดยจะเป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0T2 ให้กำลัง 152 kW (203 แรงม้า) จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว (หนึ่งตัวที่ด้านหน้า และอีก 2 ตัวที่ด้านหลัง) ให้กำลังรวมของมอเตอร์ไฟฟ้าอยู๋ที่ 640 kW (858 แรงม้า) ขณะที่กำลังของระบบ PHEV ยังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 1,000 แรงม้า ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. 3.6 วินาที
มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต 38.512 จาก BYD FinDreams วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 161 กม. (WLTC) รวมทั้งจะวิ่งครอบคลุมทั้งระบเมื่อน้ำันเต็มถัง + แบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็มได้ระยะทางสูงสุดราว ๆ 1,100 กม.
สำหรับ Denza Z9 GT จะมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย โดยจะมีราคาสั่งซื้อล่วงหน้ดังนี้
- Denza Z9 GT PHEV Pro ราคา 339,800 หยวน (1.61 ล้านบาท)
- Denza Z9 GT PHEV Max ราคา 369,800 หยวน (1.75 ล้านบาท)
- Denza Z9 GT PHEV Ultra ราคา 419,800 หยวน (1.99 ล้านบาท)
- Denza Z9 GT EV Pro ราคา 359,800 หยวน (1.71 ล้านบาท)
- Denza Z9 GT EV Max ราคา 389,800 หยวน (1.85 ล้านบาท)
Denza Z9 GT จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน 2024 นี้ ซึ่งนอกจากจะมีวางจำหน่ายในจีนแล้วยังเตรียมที่จะสง่ไปวางขายในยุโรปอีกด้วย ส่วนจะเข้ามาทำตลาดในไทยหรือต้องจับตากันให้ดีงานนี้มีลุ้นได้เห็นในบ้านเรา