หลังจากที่ทาง Ford ในประเทศจีน ได้เผยโฉม Ford Bronco ครั้งแรกที่งานเฉิงตู ออโต้โชว์ ล่าสุดทาง ฟอร์ดได้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า (Blind Pre-orders) Ford Bronco ใหม่แล้ว

โดยลูกค้าที่วางเงินจอง 1,000 หยวน (ประมาณ 5,000 บาท) จะได้รับแพ็กเกจพิเศษ “One-Touch Roof Camping Package” มูลค่า 12,000 หยวน (ประมาณ 5.4 หมื่นบาท) ที่ประกอบด้วยหลังคาแคมป์ปิ้งแบบพับเก็บได้ มาพร้อมพนักพิงศีรษะแถวหน้าที่พับอัตโนมัติด้วยการกดเปุ่มเพียงครั้งเดียว

สำหรับ Ford Bronco นับเป็นรถรุ่นที่ 3 ในตระกูล Bronco ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับประเทศจีน โดยใีขุมพลังให้เลือกทั้งรูปแบบ BEV และ EREV



ในด้านการออกแบบ Bronco ใหม่จะมาในรูปแบบเอสยูวีสไตล์ BOXY ทรงเหลี่ยมแบบกล่อง ด้านหน้าโดดเด่นด้วยโลโก้ “BRONCO” แบบเรืองแสง ที่เชื่อมต่อเข้ากับไฟหน้าเป็นเส้นไฟบาร์ มาพร้อมฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบให้มีช่อง เพื่อให้อากาศสามารถลอดผ่านได้อย่างสะดวก รวมทั้งยังช่วยในเริ่องของด้านอากาศพลศาสตร์ และเพิ่มระยะทางขับขี่ให้มากขึ้น

ขณะที่เส้นสายด้านข้างมากับงานดีไซน์ที่ดูคมชัด เติมลุคตามแบบสาไตล์รถออฟโรดด้วยขอบซุ้มล้อทรงกลมสีดำ มือเปิเดประตูเป็นแบบซ่อนที่ราบไปกับตัวบอดี้รถ อีกทั้ยังออกแบบในส่วนหลังคาให้มาในแบบลอยตัว (Floating roof) มาพร้อมราวแล็คหลลังคา พร้อมกับที่ส่วนด้านหลังติดตั้งยางอะไหล่ตามสไตล์รถในคระกูล Bronco

ขณะที่ในด้านมิติตัวรถรถนั้นในรุ่น Extended Range จะมีคาวมยาว 5,025 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,825 (1,815/1,840) มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,950 มม.
ส่วนในรูปแบบ BEV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จะมีคามวยาว 5, 025 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1815 (1825) มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,950 มม.

นอกจากนั้นเอสยูวีตัวให่นี้ยังได้รับการติดตั้ง LiDAR ไว้ที่บนหลังคาด้าหน้า มาพร้อมเซ็นเซอร์ และกล้องความแม่นยำสูงกว่า 30 ตัว อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ “Off-road Logbook” ที่บันทึกเส้นทางออฟโรดกว่า 20 เส้นทา โดยฟอร์ด เผยว่าจะช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถวางแผนการเดินทางผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถได้



ภายในห้องโดยสารจากภายที่ปล่อยออกมานั้นแผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอแสดงข้อมุลการขับขี่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสามก้านทรง D-Shape มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ขนาดใหญ่ที่วางแบบลอยตัว




คอนโซลลกลางจะวางเชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า โดยมีแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนมาให้ 5 2 ตำแหน่ง พร้อมวางแก้ว 2 ช่อง รวมทั้งยังมีแป้นควบคุมสั่งงานที่เป้นแบบบมือหมุน

ในส่วนขุมพลังขับเคลื่อนจากข้อมูลเบื้องต้นในรุ่น BEV (ไฟฟ้า 100%):จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (AWD) ให้กำลังรวม 332 kW /451 แรงม้า มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 105.4 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งจะให้ระยะทางวิ่งไกล 650 กม.

ส่วนในรูปแบบ EREV (Extended-Range) จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T เทอร์โบทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมที่มากถึง 310 kW / 421 แรงม้า จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ขนาด 43.7 kWh ให้ระยะทางวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนไกล 220 กม. และมีระยะทางวิ่งครอบคลุมไกลถึง 1,220 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC)

ด้านราคาอย่างเป็นทางการยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เบื้องต้นทางค่ายได้มีการเปิดรับจองแล้วเป็นที่เรียบร้อยในประเทศจีน และที่สำคัญรถรุ่นนี้จะมีวางจำหน่ายเฉพสะในประเทศจีนเท่านั้น

ทั้งนี้หากมีรายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไรทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบแีกครั้งหนึ่งครับ
