GAC AION ค่ายรถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศจีน เตรียมเปิดโรงงานผลิตที่ประเทศไทย พร้อมยกให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาส่งออกทั่วโลก โดยโมเดลแรกที่จะเข้าสู่ไลน์การผลิตก็คือ AION Y Plus รถยนต์ไฟฟ้า 100% นับเป็นการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกของ GAC AION ในประเทศไทย และจะมีการเปิดตัวโมเดลใหม่ในเร็วๆ นี้
GAC AION คือใคร มั่นใจได้แค่ไหน?
GAC AION เป็นแบรนด์รถยนต์ EV จากประเทศจีน ภายใต้บริษัท GAC หรือ Guangzhou Automobile Group ซึ่งได้รับการจัดอันดับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลกจากการประเมินรายได้ Fortune Global 500 ในอันดับที่ 165 ปัจจุบันยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของ GAC AION นับเป็นอันดับที่ 2 ในประเทศจีน และเป็นอันดับ 3 ของโลก ปัจจุบัน GAC AION ได้เข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมให้คนไทยได้สัมผัสกับ AION Y Plus รถยนต์ SUV ไฟฟ้า 100% โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ออกมาจัดจำหน่ายรถยนต์นอกประเทศจีน
โดย AION Y Plus มียอดจำหน่ายในประเทศจีนสูงถึง 26,000 คัน/เดือน โดยทาง GAC AION ตั้งเป้าขาย AION Y Plus ในไทยปีนี้ไว้ที่ 3,000 คัน และตั้งเป้ายอดขายปี พ.ศ. 2567 ไว้ที่ 20,000 คัน หลังจากที่เปิดโรงงานผลิตในประเทศไทย
เหตุใด GAC AION ถึงกล้าตั้งยอดขายปีหน้าถึง 20,000 คันในไทย
จากการพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของ GAC AION ระบุว่า แนวโน้มตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าในอีก 3 ปี ข้างหน้า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะเติบโตขึ้นเป็น 30% จากยอดขายรถยนต์ทั้งหมด และปัจจุบันคู่แข่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมีไม่มาก ซึ่งหากตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี สามารถส่งมอบรถได้รวดเร็วขึ้น และมีสต็อกอะไหล่ครบถ้วน ไม่ต้องกังวลเหมือนแบรนด์อื่นๆ
3 ปัจจัยที่ทำให้ AION Y Plus ขึ้นแท่นเบอร์ 1 SUV ไฟฟ้า
แบตเตอรี่ สิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่กังวลมากที่สุด คือเรื่องของความจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ และระยะทางวิ่งสูงสุดของแบตเตอรี่ ซึ่งรถที่สามารถวิ่งได้ไกลมากที่สุดจะตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการเดินทางไกล ความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน และลดความถี่ในการชาร์จซึ่งยังช่วยลดต้นทุนในการใช้งานอีกด้วย
โดย AION Y Plus 490 elite นั้น ได้ติดตั้งแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 63.2 kWh ซึ่งสามารถขับได้ไกล 490 กม./การชาร์จ (NEDC) ซึ่งถ้านำไปเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันจะเห็นได้ว่า AION Y Plus นั้น มีระยะทางการขับเคลื่อนได้สูงที่สุด ส่วนรุ่นที่วิ่งได้ 550 กม. นั้น มีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าถึง 68.3 kWh ซึ่งนับว่าเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสุดเมื่อเทียบกับรถในตลาดเดียวกัน
เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม AEP ที่เป็นเอกลักษณ์และความปลอดภัยของแบตเตอรี่ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีระบบแบตเตอรี่ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ฉะนั้นในเรื่องของความเสียหายที่อาจจะเกิดจากตัวแบตเตอรี่จึงมีความสำคัญมากๆ ซึ่งทาง GAC AION ได้มีการคิดค้นและพัฒนาแบตเตอรี่ที่ติดตั้งไว้เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ ภายใต้แพลตฟอร์ม AEP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ การวิจัยและพัฒนาที่ล้ำหน้าตามคุณสมบัติของรถยนต์ไฟฟ้า การจัดวางที่สมดุล ทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น น้ำหนักรถส่วนหน้าและส่วนหลังเท่ากัน 50:50 ช่วยควบคุมรถได้ดีขึ้น ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับการขับขี่ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังมีการคำนึงถึงความปลอดภัยในการโดยสารที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
โดยตัวแบตเตอรี่ของ GAC AION มาพร้อมฉนวนทนความร้อนสูงสุดถึง 1,400 องศาเซลเซียส และเซลล์แบตเตอรี่สามารถทนต่อความร้อนได้ดีกว่าแบตเตอรี่ทั่วๆ ไปถึง 30% พร้อมมีระบบการจัดการแบตเตอรี่ BMS เจน 4 ที่จัดการกับความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการทดสอบทั้งการเจาะทะลุด้วยแท่งเหล็ก และยิงทะลุด้วยกระสุนปืน ซึ่งไม่เกิดการลุกไหม้ หรือระเบิด
พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ แน่นอนว่า SUV EV ควรมีพื้นที่ใช้สอยภายในรถที่กว้างขวาง รวมถึงพื้นที่ภายในรถที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานหลากหลาย ซึ่ง AION Y Plus นั้นมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ใหญ่กว่าคู่แข่ง มีระยะฐานล้อยาว 2,750 mm. พื้นข้างประตูรถเรียบ ไม่มีธรณีประตู เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน AION Y Plus เป็นรุ่นเดียวที่สามารถปรับเบาะเอนนอนเสมือนเตียงได้พื้นที่ถึง 1.8 m. และเป็นรุ่นที่มีพื้นที่เบาะหลังมากถึง 1,022 m. อีกทั้งยังสามารถติดตั้งยางอะไหล่ที่ด้านหลังได้ ในขณะที่ SUV ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ พื้นที่ห้องโดยสารเล็กกว่า และมีแค่ชุดปะยางฉุกเฉินให้เท่านั้น
GAC AION เลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าพวงมาลัยขวาที่แรกของโลก
สาเหตุที่ GAC AION เลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการตลาดนอกประเทศจีน และมีแผนการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพ และพื้นฐานในการผลิตรถยนต์ที่ดี มีความพร้อมในการผลิตสูง โดยจากการวิเคราะห์แล้วพบว่าสินค้าของทางแบรนด์ มีความเหมาะสมกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยโรงงานจะสร้างอยู่ในเขต EEC ภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยจะเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาโดยเฉพาะ เพื่อขายในประเทศไทย และส่งออกไปยังประเทศที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยขวาทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีด้านการสร้างโรงงาน และการประกอบรถยนต์ของทาง GAC AION คาดว่าจะสามารถเริ่มเดินสายการผลิตได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2567 ส่วนมูลค่าการลงทุนคาดว่าสูงถึง 14,000 ล้านบาท
บริการหลังการขายพร้อมหรือยัง?
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ GAC AION ไปได้ไกล และจะสร้างยอดขาย 20,000 คันในปีหน้าได้หรือไม่ คงหนีไม่พ้นคำถามในเรื่องของบริการหลังการขาย ซึ่งทางผู้บริหารระดับสูงได้เปิดเผยข้อมูลว่าปัจจุบัน GAC AION มีโชว์รูมพร้อมเปิดให้บริการลูกค้าแล้ว 30 แห่งทั่วประเทศ และภายในปีนี้จะมีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการหลังการขายกว่า 50 แห่ง ซึ่งพร้อมให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
ทาง GAC AION มีความพร้อมในการดูแลครอบคลุมทุกการบริการ ส่วนในเรื่องของสต็อกอะไหล่ อยากยืนยันให้ผู้บริโภคมั่นใจได้เลยว่า ปัจจุบัน GAC AION มีคลังสต็อกอะไหล่สำหรับ AION Y Plus เรียบร้อยแล้ว สามารถจัดส่งอะไหล่ให้ได้ภายใน 24ชั่วโมง ตามความต้องการของลูกค้า และในปีหน้าจะเริ่มสายการผลิต SUV ไฟฟ้ารุ่นนี้ที่ประเทศไทย เรียกได้ว่าในเรื่องของอะไหล่ แบตเตอรี่ หรือเทคโนโลยีทั้งหมดของตัวรถได้ยกจากประเทศจีนมาอยู่ที่ประเทศไทยหมดแล้ว ลูกค้าชาวไทยสามารถมั่นใจได้ และที่สำคัญ การรับประกันหลังการขายของ AION Y Plus ยังกล้าให้การรับประกันตัวรถ ระบบขับเคลื่อน และแบตเตอรี่ให้นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กม. ในขณะที่คู่แข่งรับประกันแค่แบตเตอรี่อย่างเดียว 160,000 กม. เท่านั้น GAC AION พร้อมสนับสนุนทุกการบริการหลังการขายและกล้ารับประกันมากกว่าคู่แข่ง
และนั่นคือเหตุผลทั้งหมดว่าทำไม GAC AION ถึงมั่นใจว่า AION Y Plus จะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 SUV ไฟฟ้าในไทย อีกทั้งทาง GAC AION ยังเตรียมที่จะนำรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่เข้าสู่ตลาดไทยอีกด้วย หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทีมงาน Autostation จะรีบนำมาอัปเดตให้ทราบโดยทั่วกัน
GAC AION ประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนลูกค้า GAC AION มอบโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อ AION Y Plus รุ่น 490 Elite ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2566 จำกัดเพียง 1,000 คัน สำหรับลูกค้าที่ทำการส่งมอบรถเท่านั้น
GAC AION อัดโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าชาวไทย และแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้าที่ซื้อรถไปแล้ว ด้วยการมอบส่วนลดเช่นเดียวกันให้กับลูกค้าที่ซื้อรถไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่และที่ปรึกษาการขายเพื่อรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว
เกี่ยวกับ AION
GAC AION เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนายานยนต์พลังงานทางเลือกเชื่อมต่ออัจฉริยะของเครือบริษัท GAC Group (อยู่ในอันดับที่ 165 ในรายชื่อ Fortune Global 500 และเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศจีน) หลังจากพัฒนาเป็นเวลา 5 ปี GAC AION ได้กลายเป็นผู้นำระดับโลกด้านยานยนต์พลังงานทางเลือก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 120% และยังคงเดินหน้ารักษาแนวโน้มการพัฒนาที่รวดเร็วและมีคุณภาพสูง โดยยอดขายในปี 2565 อยู่ที่ 271,200 คัน เพิ่มขึ้น 126% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) โดยมีรายได้ 38.7 พันล้านหยวน หรือ 1.9 ล้านล้านบาท และมียอดขายในปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายนที่ 350,000 คัน ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก