in , ,

GWM Haval Xiaolong Max PHEV เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด เจนฯ 2 เผยโฉมแล้วในจีน

GWM ประเทศจีน เผยโฉม GWM Haval Xiaolong Max รถ SUV ปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชันที่ 2 ที่มากับดีไซน์ใหม่ พร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ Coffee Pilot Plus พร้อมเปิดให้จับจองล่วงหน้าแล้วด้วยราคาเริ่มต้นที่ 138,800 หยวนจีน หรือราว ๆ 6.45 แสนบาท

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

หลังจากที่ทาง GWM ได้เปิดตัว Haval Xiaolong เจนฯ แรกออกมาในปี 2023 ที่ผ่านมาล่าสุดผู้ผลิตรถรายใหญ่จากจีนได้เผยโฉม GWM Haval Xiaolong Max PHEV รถเอสยูวีรุ่นใหม่ โดยถือเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ของรถเอสยูีรุ่นนี้ พร้อมเปิดรับจองล่วงหน้าก่อนเปิดตัวอยางเป็นทางการ โดยทาง GWM ตั้งราคาไว้ระหว่าง 138,800 – 176,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.45 – 8.22 แสนบาท

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

โดยเอสยูรุ่นใหม่นี้จะมากับรูปลักษณ์หน้าตาที่ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ดูโมเดล ทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Coffee Pilot Plus ที่ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้พัฒนาขึ้นเอง

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

สำหรับ GWM Haval Xiaolong Max PHEV รุ่นล่าสุดนี้ มากับปรัชญาการออกแบบที่เรียกว่า “สุนทรียศาสตร์ธรรมชาติที่มีจังหวะ” ของแบรนด์ ส่งผลทำให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และสง่างาม 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ในส่วนด้าหน้าของตัวรถจะโดดเด่นด้วยแถบไฟหน้าที่วางพาดเต็มความกว้างของตัรถ โดยมีชื่อรุ่น HAVAL อยู่ตรงกลาง ส่วนที่เป็นชุดไฟนั้นจะเป็นไฟแบบคริสตัล LED ที่มากถึง 72 ดวง ให้ความสว่างถึง 4,000 ลูเมน และมีระยะส่องสว่างที่ไกลถึง 190 เมตร 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ขณะที่ส่วนกระจังหน้านั้จะเป็นแบบปิดทึบเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ โดยมีช่องดักอากาศแบบแอคทีฟที่อยู่ด้านล่าง

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

เส้นสายด้านข้างตัวรถมีเส้นนำสายตาที่ลากยาวตั้งแต่ชุดไฟหน้าไปถึงไฟท้าย พร้อมออกแบบในส่วนหลังคาให้เป็นเป็นแบบลอยตัว ด้วยการตกแต่งเสา B และเสา C ด้วยแถบชิ้นงานสีดำ มือเปิดประตูเป็นแบบดั้งเดิม เสริมลุคตามสไตล์รถเอสยูวีด้วยการตีโป่งซุ้มล้อให้ดูกว้าง มาพร้อมล้ออัลลอยแบบปัดเงาทูโทนขนาด 19 นิ้ว ที่มากับลวดลายบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลีบดอกไม้ 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ที่ด้านท้ายของรถ SUV คันนี้มีไฟท้ายดีไซน์ “Bright Galaxy” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากทางช้างเผือก โดยได้รับการออกแบบด้วยพื้นผิวสะท้อนแสงคริสตัลกว่า 30,000 ชิ้น พร้อมติดตั้งไฟ LED สีแดง 332 ดวงที่ทำงานด้วยความเร็ว 628 นาโนเมตร 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ส่วนด้านบนหลังคาติดตั้งราวหลังคาสีดำ เสริมความสปอร์ตด้วยเสาอากาศครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังคาที่มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV ที่จะเปิดวางจำหน่ายในจีนนั้นจะมีสีภายนอกให้เลือก 5 เฉดสี ได้แก่ สีเขียว Aurora Green, สีเทา Distant Mountain Gray, สีน้ำเงิน Canglang Blue, สีขาว Ice Crystal White และสีดำ Phantom Night Black

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ในด้านขนาดมิติตัวรถของ Haval Xiaolong Max เจนฯ ที่ 2 จะมีความยาว 4,780 มม. กว้าง 1,895 สูง1,725 ​​มม. และมีระยะฐานล้อ 2,810 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับในรุ่นปัจจุบันที่วางจำหน่ายในท้องตลาด จะมีความยาวของตัวรถเพิ่มขึ้น 22 มม. และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 10 มม.

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

สำหรับในห้องโดยสารของ Haval Xiaolong Max PHEV จะให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีน้ำตาล และสีดำ งานออกแบบจะมากับความเรียบงาน แต่แฝงไว้ด้วยความไฮเทค 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าปัดแบบ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ที่มีปุ่มควบคุมสั่งงานเป็นแบบลูกกลิ้งขนาดเล็ก มาพร้อมหน้าจออินโฟนเนเมนต์แบบสัมผัสมราวางแบบแขวนไว้ตรงกลางโดยมีขนาด 14.6 นิ้ว อีกทั้งยังได้รับจอแสดงผลแบบ HUD (Augmented Reality

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ด้านคอนโซลกลางถูกออกแบบให้มีขนาดกว้าง และใหญ่ ถูกเชื่อมต่อกับแผงคอนโซลหน้า ด้านบนสุดเป็นแถบควบคุมสั่งงานระบบต่าง ๆ ภายในรถ มาพร้อมที่วางแก้ว และแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ด้านเบาะที่นั่งฝั่งผู้่ขับปรับไฟฟ้าได้ 12 ทิศทาง ในขณะที่ฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง โดยเบาะนั่งคู่หน้าจะได้รับการติดตั้งระบบระบายอากาศและนวด และเบาะนั่งทุกที่นั่งมีระบบทำความร้อน นอกจากนั้นเบาะหลังยังสามารถปรับเอนได้มากถึง 27° – 32° 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV

GWM Haval Xiaolong Max PHEV

GWM Haval Xiaolong Max PHEV

นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บของถึง 28 ช่องทั่วทั้งห้องโดยสาร พร้อมทั้งมีพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 540 ลิตร และสามารถขยายได้ถึง 1,366 ลิตร

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

นอกจากนั้นเอสยูวีตัวใหม่นี้ยังได้รับการติดตั้งระบบห้องโดยสารอัจฉริยะรุ่นที่ 3 ของ GWM ที่เรียกว่า Coffee OS 3 

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

รวมทั้งยังมากับระบบขับขี่อัจฉริยะ Coffee Pilot Plus ของ GWM ที่มาพร้อมระบบนำทางอัตโนมัติที่ใช้ได้ทั้งในเขตเมือง และบนทางหลวง ขณะเดียวกันยังรองรับระบบช่วยจอดรถแบบจดจำตำแหน่งในร่มและกลางแจ้งอีกด้วย โดยจะเป็นการทำงานของเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 7 ตัว

GWM Haval Xiaolong Max PHEV

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Haval Xiaolong Max ใหม่จะมากับระบบ Hi4 เจเนอเรชันที่ ที่มากับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 85 kW (114 แรงม้า) แรงบิด 140 นิวตันเมตร มาพร้อมมเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่หน้าให้กำลัง 70 kW (94 แรงม้า) แรงบิด 110 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 150 kW  (201 แรงม้า) ให้แนรงบิดที่มากถึงช 350 นิวตันเมตร

โดยมีแบตเตอรี่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตให้เลือก 2 ขนาดความจุ ได้แก่ 18.74 kWh และ 27.54 kWh วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 110 กม. และ 165 กม. ตามลำดับ (ตามมาตรฐาน CLTC) ขณะที่ระยะทางวิ่งโดยรวมของรถนั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผยในตอนนี้

GWM Haval Xiaolong Max PHEV

พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟ  30% – 80% ในเวลา เพียง 0.33 ชั่วโมง-  0.47 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่น) และรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ที่ชารืจไฟเต็มในเวลา 3 – 4 ชั่วโมง

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

สำหรับ GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025 ใหม่นี้จะมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย โดยทาง GWM ได้เปิดให้ผู้ที่สนใจได้จับจองกันล่วงหน้า โดยเปิดราคาไว้ระหว่าง 138,800 – 176,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ  6.45 – 8.22 แสนบาท ส่วนงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีขึ้นตามมาในเร็ว ๆ วันนี้

GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025

ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไรทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง