หลังจากที่ทาง GWM ได้เปิดตัว Haval Xiaolong เจนฯ แรกออกมาในปี 2023 ที่ผ่านมาล่าสุดผู้ผลิตรถรายใหญ่จากจีนได้เผยโฉม GWM Haval Xiaolong Max PHEV รถเอสยูวีรุ่นใหม่ โดยถือเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ของรถเอสยูีรุ่นนี้ พร้อมเปิดรับจองล่วงหน้าก่อนเปิดตัวอยางเป็นทางการ โดยทาง GWM ตั้งราคาไว้ระหว่าง 138,800 – 176,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.45 – 8.22 แสนบาท
โดยเอสยูรุ่นใหม่นี้จะมากับรูปลักษณ์หน้าตาที่ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ดูโมเดล ทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Coffee Pilot Plus ที่ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้พัฒนาขึ้นเอง
สำหรับ GWM Haval Xiaolong Max PHEV รุ่นล่าสุดนี้ มากับปรัชญาการออกแบบที่เรียกว่า “สุนทรียศาสตร์ธรรมชาติที่มีจังหวะ” ของแบรนด์ ส่งผลทำให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และสง่างาม
ในส่วนด้าหน้าของตัวรถจะโดดเด่นด้วยแถบไฟหน้าที่วางพาดเต็มความกว้างของตัรถ โดยมีชื่อรุ่น HAVAL อยู่ตรงกลาง ส่วนที่เป็นชุดไฟนั้นจะเป็นไฟแบบคริสตัล LED ที่มากถึง 72 ดวง ให้ความสว่างถึง 4,000 ลูเมน และมีระยะส่องสว่างที่ไกลถึง 190 เมตร
ขณะที่ส่วนกระจังหน้านั้จะเป็นแบบปิดทึบเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ โดยมีช่องดักอากาศแบบแอคทีฟที่อยู่ด้านล่าง
เส้นสายด้านข้างตัวรถมีเส้นนำสายตาที่ลากยาวตั้งแต่ชุดไฟหน้าไปถึงไฟท้าย พร้อมออกแบบในส่วนหลังคาให้เป็นเป็นแบบลอยตัว ด้วยการตกแต่งเสา B และเสา C ด้วยแถบชิ้นงานสีดำ มือเปิดประตูเป็นแบบดั้งเดิม เสริมลุคตามสไตล์รถเอสยูวีด้วยการตีโป่งซุ้มล้อให้ดูกว้าง มาพร้อมล้ออัลลอยแบบปัดเงาทูโทนขนาด 19 นิ้ว ที่มากับลวดลายบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลีบดอกไม้
ที่ด้านท้ายของรถ SUV คันนี้มีไฟท้ายดีไซน์ “Bright Galaxy” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากทางช้างเผือก โดยได้รับการออกแบบด้วยพื้นผิวสะท้อนแสงคริสตัลกว่า 30,000 ชิ้น พร้อมติดตั้งไฟ LED สีแดง 332 ดวงที่ทำงานด้วยความเร็ว 628 นาโนเมตร
ส่วนด้านบนหลังคาติดตั้งราวหลังคาสีดำ เสริมความสปอร์ตด้วยเสาอากาศครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังคาที่มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม
GWM Haval Xiaolong Max PHEV ที่จะเปิดวางจำหน่ายในจีนนั้นจะมีสีภายนอกให้เลือก 5 เฉดสี ได้แก่ สีเขียว Aurora Green, สีเทา Distant Mountain Gray, สีน้ำเงิน Canglang Blue, สีขาว Ice Crystal White และสีดำ Phantom Night Black
ในด้านขนาดมิติตัวรถของ Haval Xiaolong Max เจนฯ ที่ 2 จะมีความยาว 4,780 มม. กว้าง 1,895 สูง1,725 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,810 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับในรุ่นปัจจุบันที่วางจำหน่ายในท้องตลาด จะมีความยาวของตัวรถเพิ่มขึ้น 22 มม. และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 10 มม.
สำหรับในห้องโดยสารของ Haval Xiaolong Max PHEV จะให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีน้ำตาล และสีดำ งานออกแบบจะมากับความเรียบงาน แต่แฝงไว้ด้วยความไฮเทค
แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าปัดแบบ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ที่มีปุ่มควบคุมสั่งงานเป็นแบบลูกกลิ้งขนาดเล็ก มาพร้อมหน้าจออินโฟนเนเมนต์แบบสัมผัสมราวางแบบแขวนไว้ตรงกลางโดยมีขนาด 14.6 นิ้ว อีกทั้งยังได้รับจอแสดงผลแบบ HUD (Augmented Reality)
ด้านคอนโซลกลางถูกออกแบบให้มีขนาดกว้าง และใหญ่ ถูกเชื่อมต่อกับแผงคอนโซลหน้า ด้านบนสุดเป็นแถบควบคุมสั่งงานระบบต่าง ๆ ภายในรถ มาพร้อมที่วางแก้ว และแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย
ด้านเบาะที่นั่งฝั่งผู้่ขับปรับไฟฟ้าได้ 12 ทิศทาง ในขณะที่ฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง โดยเบาะนั่งคู่หน้าจะได้รับการติดตั้งระบบระบายอากาศและนวด และเบาะนั่งทุกที่นั่งมีระบบทำความร้อน นอกจากนั้นเบาะหลังยังสามารถปรับเอนได้มากถึง 27° – 32°
นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บของถึง 28 ช่องทั่วทั้งห้องโดยสาร พร้อมทั้งมีพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 540 ลิตร และสามารถขยายได้ถึง 1,366 ลิตร
นอกจากนั้นเอสยูวีตัวใหม่นี้ยังได้รับการติดตั้งระบบห้องโดยสารอัจฉริยะรุ่นที่ 3 ของ GWM ที่เรียกว่า Coffee OS 3
รวมทั้งยังมากับระบบขับขี่อัจฉริยะ Coffee Pilot Plus ของ GWM ที่มาพร้อมระบบนำทางอัตโนมัติที่ใช้ได้ทั้งในเขตเมือง และบนทางหลวง ขณะเดียวกันยังรองรับระบบช่วยจอดรถแบบจดจำตำแหน่งในร่มและกลางแจ้งอีกด้วย โดยจะเป็นการทำงานของเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 7 ตัว
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Haval Xiaolong Max ใหม่จะมากับระบบ Hi4 เจเนอเรชันที่ ที่มากับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 85 kW (114 แรงม้า) แรงบิด 140 นิวตันเมตร มาพร้อมมเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่หน้าให้กำลัง 70 kW (94 แรงม้า) แรงบิด 110 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 150 kW (201 แรงม้า) ให้แนรงบิดที่มากถึงช 350 นิวตันเมตร
โดยมีแบตเตอรี่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตให้เลือก 2 ขนาดความจุ ได้แก่ 18.74 kWh และ 27.54 kWh วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 110 กม. และ 165 กม. ตามลำดับ (ตามมาตรฐาน CLTC) ขณะที่ระยะทางวิ่งโดยรวมของรถนั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผยในตอนนี้
พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟ 30% – 80% ในเวลา เพียง 0.33 ชั่วโมง- 0.47 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่น) และรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ที่ชารืจไฟเต็มในเวลา 3 – 4 ชั่วโมง
สำหรับ GWM Haval Xiaolong Max PHEV 2025 ใหม่นี้จะมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย โดยทาง GWM ได้เปิดให้ผู้ที่สนใจได้จับจองกันล่วงหน้า โดยเปิดราคาไว้ระหว่าง 138,800 – 176,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 6.45 – 8.22 แสนบาท ส่วนงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีขึ้นตามมาในเร็ว ๆ วันนี้
ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไรทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง