GWM เปืดตัว TANK 400 PHEV รุ่นปี 2026 ที่มาพร้อมกับงานดีไซน์หน้าตาใหม่ ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มขุมพลังใหม่ Hi4-Z ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0T และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมกับติดตั้ง ระบบ LiDAR บนหลังคา จับคู่กับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Coffee Pilot Ultra เจเนอเรชั่นที่ 3 ของ GWM

ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ GWM TANK 400 PHEV รุ่นปี 2026 งานออกแบบโดยรวมยังคงสไตล์ออฟโรดที่ดูดุดัน


ตัวกระจังหน้ายังงคงมทาในทรงหกเหลี่ยม จะถูกคาดด้วยแถบโครเมียม 2 เส้น พร้อมติดตราสัญลักษณ์โลโก้รูปตัว T ไว้ตรงกลาง ขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งด้วยชุดไฟหน้า LED ที่มาพร้อมไฟ DLRs ที่อยู่ในโคมเดียวกัน โดยงานดีไซน์นั้นจะเหมือนกับรูปของดวงตาหุ่นยนต์

ในส่วนที่ปรับเปลี่ยนใหม่จะเป็นในตัวกันชนหน้าจากเดิมที่มีขนาดเล็ก ปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยในส่วนรมุมทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านในจะออกแบบให้เป็นตะแกรง มาพร้อมไฟตัดหมอกทรงสี่เหลี่ยมยาวฝั่งอยู่ด้านใน นอกจากนั้ตรงกลางกันชนหน้าจะเป็นช่องดักอากาศทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่

โดยตัวกันชนหน้ายังคงดีไซน์ให้ต่อเชื่อมเป็นชุดเดียวกันกับตัวบังโคลน ขณะที่ตัวซุ้มล้อทั้ง 4 มาในแบบโป่งแบบหมุดเย็บ สอดรับเข้าชุดกับล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ที่มากับลวยลายที่เน้นความสมบุกสมบันตามสไตล์รถออฟโรดสายพันธุ์แท้ พร้อมติดตั้งบันไดข้างสีดำ และราวแล็คหลังคาสีดำ นอกจากนั้น TANK 400 PHEV ใหม่ยังมาพร้อมกับเฉดสีใหม่สีม่วง Dunhuang Purple


สำหรับด้านท้าย ยังคงมียางอะไหล่ติดอยู่ด้านนอก แต่ไม่มีฝาครอบยางแล้ว ตำแหน่งของโลโก้ถูกปรับใหม่ โดยโลโก้ GWM TANK จะอยู่ด้านบน ส่วนโลโก้ TANK 400 และ Hi4-T / Hi4-Z จะอยู่ด้านล่าง

ในด้านขนาดมิติตังรถของ GWM TANK 400 PHEV ใหม่จะมีความยาว 4,964 มม. กว้าง 1,970 มม. และสูง 1,905 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,850 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า TANK 400 ใหม่จะสั้นลง 21 มม. แต่กว้างขึ้น 10 มม. และสูงขึ้น 5 มม.

ภายในห้องโดยสารของ TANK 400 PHEV ใหม่ ยังคงมาในรูปแบบเดิมที่เน้นความหรูหรา ซึ่งจะดุแตกต่าง และขัดแย้งกับจากรูปลักษณ์ภายนอก โดยจะมีการตกแต่งด้วยวัดสุโครเมียมตามจุดต่าง ๆ พร้อมหุ้มด้วยหนังเกรดคุณภาพสูง เบาะที่นั่งรอบรับได้ 5 ที่นั่ง

ในส่วนแผงแดชบอร์ดิดตั้งหน้าปัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาดใหญ่ขนาด 16.2 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัว นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งจอแสดงผล HUD อีกทั้งในส่วนกระจกมองหลังแบบดิจิทัล
คอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เชื่อมต่อติดกับแผงคอนโซลหน้า โดยจะมีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้ 2 ขุด ช่องวางแก้ว 2 ช่องขนาดใหญ่ ตัวเลือกโหมดขับเคลื่อนแบบหมุน และตัวเลือกเกียร์ขนาดใหญ่, คันเกียร์ดีไซน์ล้ำสมัย, สวิทช์ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ ส่วนช่องพอร์ต USB จะอยู่ที่ช่องเก็บของระหว่างเบาะคู่หน้า ในส่วนช่องแอร์ดีไซน์ให้เป็นทรงกลมคล้ายไอพ่นเครื่องบินเหมือนกับในตัว TANK 300 รวมทั้งยังมีช่องแอร์สำหรับที่นั่งด้านหลัง

นอกจากนั้นยังยังได้รับการติดตั้ง หน้าจอเพดานด้านหลังขนาด 15.6 นิ้ว มาพร้อมกับตู้เย็นในตัวที่อยู่ระหว่างเบาะคู่หน้า ปิดท้ายความหรูหราตามแบบฉบับรถจากเมืองจีนด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ

ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลืVการขับขี่ของ TANK 400 PHEV ใหม่ จะมีการติดตั้ง LiDAR เพิ่มมาที่บนหลังคาหลังคาด้านหน้า พร้อมกล้องด้านข้าง และด้านหลัง เพื่อรองรับระบบ Coffee Pilot Ultra โดยระบบนี้จะมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ระบบนำทางในเมืองและทางหลวงแบบออโตไพลอต (NOA) ไฟแสดงสถานะสีน้ำเงินในไฟท้ายจะส่งสัญญาณเมื่อระบบทำงาน

ขณะที่ขุมพลังขับเคลื่อนของ GWM TANK 400 ใหม่จะมีให้เลือกทั้ง Hi4-T และเพิ่ม รุ่น Hi4-Z เข้ามา
- รุ่น Hi4-T จะเป็นขุมพลังบล็อกเดียนยวกันกับ TANK 500 Hi4-Z ที่เปิดตัวไปเมื่อตินปี 205 ที่ผ่านมา โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ 2.0T ที่ให้กำลัง 185 KW / 248 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่ให้กำลัง 120 kW / 161 แรงม้า มาพร้อมดชุดแบตเตอรี่ขนาดความจุ 37.1 kWh วื่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกล 105 กม.(ตามาตรฐาน CLTC) โดยทางผู้ผลิตเคลมอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 8.4 ลิตร/100 กม.
- รุ่น Hi4-Z จะมากับเครื่องยนต์ 2.0T ที่ให้กำลัง 185 KW / 248 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร ทำงานรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลัง 215 kW / 288 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 240 kW / 322 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมเทอร์นารีที่มีขนาดความจุ 59.05 kWh ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ไกล 200 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC)

ทั้งนี้สำหรับราคาจำหน่ายของ GWM TANK 400 PHEV ใหม่ ยังไม่มีการเปอดกเผยออกมาตอนนี้ ทั้งนี้หากมีข้อมูล และรายละเอียดความคืบหน้สาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
