ะหลังจากที่ทาง HAVAL (ฮาวาล) แบรนด์รถยนต์จากทางค่าย GWM หลังจากใช้เวทีในงาน Guangzhou Auto Show 2022 เผยโฉมจริงของ Haval H-Dog หรือ Haval Big Dog Gen 2 รถเอสยูวีใหม่ เมื่อปีที่ผ่านมา
ล่าสุดทาง GWM ในประเทศจีนบริษัทแม่ ได้เปิดราคาจำหน่ายของ Haval Big Dog Gen 2 ออกมาแล้ว โดยมีราคาเริ่มอยู่ที่ 6.7 แสนบาท
Haval Big Dog Gen 2 เป็นรถเอสยูวีที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สะดุดตา โดยจะเน้นจับกลุ่มผู้บริโภคที่อายุน้อย ที่ชื่นชอบกิจกรรมไลฟ์สไตล์ในการผจญภัย มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ ICE และขุมพลัง PHEV ที่ให้กำลังถึง 326 แรงม้า
ด้านงานออกแบบตัวรถจะมาในรูปแบบทรงกล่อง มาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Wild Power Aesthetics กระจังหน้าแบบเมทริกซ์ ชุบโครเมียมซึ่งประกอบด้วยไฟ LED 80 ดวง ตรงกลางติดตั้งป้ายชื่อรุ่น Haval โดยถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปจะมากับพื้นสีดำ แต่ถ้าเป็นรุ่น PHEV จะเป็นสีฟ้า
ขนาบข้างด้วยโคมไฟ Tribal Time Bone แบบทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์รถในตระกูล Dog มาพร้อมกันชนหน้าขนาดใหญ่ในสไตล์ที่ดุดัน และแข็งแกร่ง พร้อมติดตั้งชุดไฟตัดหมอกที่เป็นแถบ LED ไว้ที่ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนด้านล่างเป็นช่องรับอากาศขนาดใหญ่ และแผ่นกันกระแทกสีดำใต้ห้องเครื่อง
ดีไซน์ด้านข้างตัวรถมากับเส้นสายที่บึกบึน คิ้วซุ้มล้อขนาดใหญ่สีดำทรงเหลี่ยมดีไซน์ย้อนยุคแบบหมุดยึด เติมความดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 – 19 นิ้ว ขึ้นแต่ละรุ่นย่อย เพิ่มสไตล์ภาพลักษณ์รถออฟโรดด้วยราวแล็คหลังคาสีเงินที่บนหลังคา เสริมความสปอร์ตด้วยเสาอากาศครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังคาด้านท้าย
ด้านท้ายของตัวรถนั้นมากับชุดท้ายไฟท้ายทรงกลมขนาดใหญ่ กระจกหลังทรงโค้ง ติดตัวอักษร H A V A L ขนาดใหญ่บริเวณเหนือคิ้วฝากระโปรงท้าย
ด้านมิติขนาดตัวรถมีความยาว 4,705 มม., กว้าง 1,908 มม. และมีสูง 1,780 มม. มาพร้อมระยะฐานล้อยาว 2,810 มม. โดยมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 200 มม.
นอกจากนั้นยังออกแบบให้ตัวรถมีมุมไต่ที่ 24 องศา และมุมจาก 30 องศา และมุม Breakover 19 องศา มาพร้อมระยะยื่นด้านหน้าและด้านหลังอยู่ที่ 934 มม. และ 961 มม. ตามลำดับ ทำให้พร้อมฟันฝ่าในเส้นทางออฟโรดได้อย่างสบาย ๆ
ภายในห้องโดยสารของจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง แบบ 2+3 พร้อมตกแต่งด้วยวัดุคาร์บอนไฟเบอร์ในส่วนต่าง ๆ เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังเกรดคุณภาพสูง มาพร้อมระบบอุ่นที่ตัวเบาะ
แผงคอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจอระบบสาระบันเทิงขนาด 12.3 นิ้วมาพร้อมงแผงหน้าปัด LCS ขนาด 12.3 นิ้ว อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งหน้าจอ HUD ขนาด 9 นิ้ว ที่สะท้อนภาพไปยังกระจกบังลมหน้า
คอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มาพร้อมคันเกียร์ดีไซน์ล้ำสมัยที่เหมือนกับตัว TANK 300 ที่มีขนาดเล็กสั้นจับกระชับมือ มาพร้อมแป้นหมุนปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่
สำหรับชุดอุปกรณ์จะมากับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟน, ช่อง USB-C, ช่องแอร์สำหรับที่นั่งด้านหลัง และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ, กล้อง 360°, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ รวมทั้งยังติดตั้งปลั๊กจ่ายไฟขนาด 220V ที่สามารถจ่ายไปไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอกได้อีกด้วย นอกจากนั้นทาง Haval ยังเคลมว่า Haval Big Dog Gen 2 จะมีพื้นที่เก็บที่มากถึง 35 ช่องทั่วทั้งห้องโดยสาร
ในด้านพละกำลังจะมีให้เลือกเครื่องยนต์สันดาปที่มีให้เลือก 2 ขนาดคือเครื่องยนต์ 1.5T ที่จับคู่กับชุดเกียร์ DCT 7 สปีด ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า และขนาด 2.0T จับคู่กับชุดเกียร์ DCT 9 สปีด ให้กำลัง 234 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร
ส่วนอีกรุ่นเป็นขุมพลัง PHEV ที่จะเป็นบล็อกเดียวกับ H6 PHEV มากับเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 ขนาด 1.5 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวม 326 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ DCT 9 สปีดไปยังล้อทั้ง 4 มีโหมดการขับขี่ให้เลือกเล่นถึง 9 โหมด
มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium Ternary ความจุ 19.27 kWh โดยจะวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าเพียว ๆ ได้ระยะทาง 105 กม. ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็ว DC ที่ให้กำลังไฟจาก 20% – 80% ในเวลา 22 นาที อีกทั้งทางผู้ผลิตยังระบุว่าเอสยูวีสายลุยเจน ฯ ใหม่นี้ จะมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 5.92 ลิตรต่อ 100 กม. หรือประมาณ 16 กม.ต่อลิตร
ในด้านสนนราคาค่าตัวของ Haval Big Dog Gen 2 ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปจะมีราคาเริ่มอยูที่ 135,800 – 156,800 หยวน หรือราว 6.7 – 7.8 แสนบาท ส่วนในรุ่น PHEV จะมีราคาเริ่มอยู่ที่ 162,800 – 175,800 หยวนหรือประมาณ 8.1 – 8.7 แสนบาท