in , ,

HONRI BOMA รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 4 ที่นั่ง ที่ถอดหน้าตามาจาก Alphard จ่อเปิดตัวในงาน Motor Show 2024

HONRI BOMA รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กตัวถังแบบ 5 ประตู 4 ที่นั่ง จากเมืองจีน ชาร์จไฟวิ่งไกลถึง 200 กม. ที่ถอดแบบหน้าตามาจาก Toyota Alphard พร้อมเปิดตัวครั้งแรกในไทยที่งาน Motor Show 2024

HONRI BOMA EV

หลังจากที่ทาง Honri Electric Vehicle ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง HONRI BOMA ในประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมา 

HONRI BOMA EV

ล่าสุดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กตัวถังแบบ 5 ประตู 4 ที่นั่ง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังที่ 41 แรงม้า แบตเตอรี่ชาร์จเต็มวิ่งไกลสุด 200 กม. เตรียมถูกนำเข้ามาเปิดตัวจัดแสดงโชว์ที่ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2024 ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

HONRI BOMA EV
เปรียบเทียบระหว่าง BOMA EV (ด้านซ้าย) กับ Toyota Alphard (ด้านขวา)

และซึ่งก่อนจะไปพบเจอตัวจริงที่ภายในงานทางทีมงาน Autostation.com มีข้อมูลรายละเอียดบางส่วนของ HONRI BOMA มาบอกกล่าวกันก่อนสักเล็กน้อย โดยในเวอร์ชั่นที่จะนำมาพูดถึงนี้จะเป็นสเปกที่เปิดวางจำหน่ายในประเทศจีน 

HONRI BOMA EV

สำหรับ BOMA EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่มีในรูปทรงเหลี่ยมแบบกล่องตัวถังแบบ 5 ประตู 4 ที่นั่ง โดยสิ่งที่ดูจะโดดเด่นเป็นพิเศษของรถ EV คันนี้จะเป็นที่หน้าตาที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก MPV หรู สุดฮิตอย่าง Toyota Alphard หรือเรียกว่าก๊อปมาแบบเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้า กระจังหน้า รวมถึงกันชนหน้าที่เป็นแบบเดียวกัน จนแทบจะเรียกว่าเป็น Alphard แบบย่อส่วน

HONRI BOMA EV

ขณะที่ด้านข้างตัวรถจะมีความแตกต่างจาก Alphard อย่างชัดเจน โดยในส่วนของประตูข้างจะถูกเปิดแบบปกติเหมือนรถยนต์นั่งทั่วไป ส่วนในตัว Alphard จะมาในแบบประตูบานสไลด์ 

นอกจากนั้นยังออกแบบในส่วนของหลังคาตัวรถให้เป็นแบบลอยตัว หรือ FLOATING ROOT มาพร้อมเส้นสายตัวรถที่ออกแบบให้มีความคมชัด และดูเฉียบคม ขณะที่ล้ออัลลอยนั้นเวอร์ชั่นที่วางขายในจีนจะมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 14 นิ้ว ที่มาพร้อมยาง 155/65 R14 และขนาด15 นิ้ว รัดด้วยยาง 165-55 R15

HONRI BOMA EV

อีกทั้งตัวรถยังเสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคา พร้อมฝังไฟเบรกดวงที่ 3 ไว้ตรงกลางมาในแบบแนวนอน รวมทั้งยังได้รับการติดตั้งเสาอากาศแบบครีมฉลาม ขณะที่ชุดไฟท้ายดีไซน์แบบสมัยใหม่ที่เป็นแบบพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านท้าย 

ด้านมิติขนาดตัวรถจะมีไซซ์ที่ใกล้เคียงกับรถ Kei-car ในตลาดญี่ปุ่น โดยมีความยาวอยู่ที่  3,517 มม. ความกว้าง 1,495 มม. ความสูง 1,660 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,495 มม.

HONRI BOMA EV

ภายในห้องโดยสารจะถูกออกแบบด้วยความเรียบง่าย เน้นการใช้งาน โดยในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติตดั้งหน้าจอคู่ที่ประกอบด้วยแผงหน้าปัดขนาด 7 นิ้ว ที่เชื่อมกับหน้าจอควบคุมกลางขนาด 9 นิ้ว วางแบบลอยตัว (ในรุ่นท๊อป)  ส่วนในรุ่นเริ่มต้นจะได้รับแผงหน้าปัดแบบ LCD

HONRI BOMA EV

ด้านชุดอุปกรณ์อื่น ๆ ภายใน พวงมาลัยแบบ 2 ก้านท้ายตัด มาพร้อมปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานภายในรถที่วางเรียวยาวอยู่เหนือช่องระบายอากาศ รวมถึงยังได้รับปุ่มควบคุมเกียร์แบบหมุนทำงานด้วยระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ที่คอนโซลกลาง, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง นอกจากนั้นยังถูกออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของที่มากถึง 16 ช่อง ภายในห้องโดยสาร 

HONRI BOMA EV

ในด้านความปลอดภัย มาพร้อมกับเรดาร์ด้านหลัง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก, ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบปลดล็อกประตูอัตโนมัติหลังเกิดอุบัติเหตุ และการตรวจสอบแรงดันลมยาง แต่น่าเสียดานที่รถ EV ขนาดเล็กรุ่นนี้ไม่มีการติดตั้งถุงลมนิรภัย 

HONRI BOMA EV

ในด้านขุมพลังขับเคลื่อนของ BOMA EV จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ที่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง 30kW หรือ 41 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 84 นิวตันเมตร โดยตัวรถจะถูกเน้นให้ิใช้งานในเมือง ดังนั้นจะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 100 กม./ชม. 

HONRI BOMA EV

ส่วนชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบ LFP ที่มีให้เลือก 2 ความจุให้เลือก คือขนาด 11.9 kWh ที่ชาร์จเต็มจะวิ่งได้ระยะทางราว 130 กม. พร้อมรองรับการชาร์จแบบ AC จาก 0 – 100% ในเวลา 7 ชม. และแบตเตอรี่ขนาด 18.5 kWh ที่ชาร์จเต็มวิ่งได้ระยะทางกว่า 200 กม. พร้อมรองรับการชาร์จชาร์จไฟจาก 0 – 100% ในเวลา 10 ชม. 

สำหรับ BOMA EV สเปกที่วางจำหน่ายในประเทศจีนนั้นจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายระหว่าง 39,900 – 51,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทย จะอยุ่ที่ประมาณ 1.98  – 2.57 แสนบาท เท่านั้น 

HONRI BOMA EV

ส่วนเวอร์ชั่นที่จะนำเข้ามาเปิดตัวในเมืองไทยนั้นต้อมารอลุ้นกันว่าจะนำรุ่นไหนเข้ามาโชว์ รวมทั้งจะมีการเปิดวางจำหน่ายหรือไม่อย่างไร ถ้าเปิดวางขายจะอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะถูกเปิดเผยที่ภายในงาน Motor Show 2024 ที่จะมีขึ้นในช่วงในช่วสงปลายเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้  

ซึ่งรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดทางทีมงาน Autostation.com จะรวบรวม และรายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งต่อไป