in , ,

Hyundai INSTER Cross รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ออฟโรด ชาร์จไฟวิ่งไกล 360 กม

Hyundai INSTER Cross ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าใหม่ ที่เสริมมาคเข้มด้วยชุดแต่งรอบคันสไตล์ออฟโรด เน้นกลุ่มลูกค้าที่ชอบผจญภัยกลางแจ้ง เริ่มผลิต ปลายปีนี้

Hyundai INSTER Cross 2025

หลังจากที่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทาง Hyundai แบรนด์รถจากประเทศเกาหลีใต้ได้เปิดตัว Hyundai INSTER 2025รอสโอเวอร์ไฟฟ้า ล่าสุดทาง ฮุนไดเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กัลูกค้าที่ชื่นชอบรถในสไตล์ออฟโรด ด้วยรุ่นย่อยใหม่กับ Hyundai INSTER Cross ที่มาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์ออฟโรด เน้นจับกลุ่มผู้ที่ชื่อนชอบรถในสไคล์สายลุย และกลุ่มลูกค้าที่ชอบผจญภัยกลางแจ้ง โดยจะเริ่มผลิตออกวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ 

Hyundai INSTER Cross 2025

สำหรับรายละเอียดเบิ้องต้นของ Hyundai INSTER 2025 ใหม่ โครงสร้างโดยรวมยังคงยึดตามแบบของ Hyundai INSTER ที่ถูกเปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา แต่จะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางส่วนทั้งด้านหน้า และด้านหลังให้ดูมีความบึกบึน และดุดันตามสไตล์รถในแบบฉบับบออฟโรดสายลุย

กระจังจากเดิมที่เป็นทรงรีขนาดใหญ่ที่มีชุดไฟทรงกลมอยู่ด้านใน ปรับเปลี่ยนกระจังทรงใหม่ให้มาในแบบทรงเหลี่ยม ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ส่วนหน้า ชุดไฟ DRL LED ทรงกลมยังคงเดิมแต่ปรับใหม่ให้อยู่บนโคมสี่เหลี่ยม ขณะที่ช่องชาร์จประจุไฟยังคงอยู่ริมฝั่งขวาใกล้กับชุดไฟหน้า

Hyundai INSTER Cross 2025

ส่วนด้านบนกระจังหน้าจะเป็นแถบชิ้นงานสีดำวางพาดเต็มความกว้างของด้านหน้ารถ ติดโลโก้ Huyndai ไว้ตรงกลาง มาพร้อมชุดไฟเลี้ยวที่เป็นแบบตารางสี่เหลียมขนาดเล็กวางเรียวยาวอยู่ด้านข้าง

โดยในส่วนที่ปรับเปลี่ยนมากที่สุดในส่วนของด้านห้าตัวรถนั้นจะอยู่ที่ช่องดักอากาศด้านล่างที่จะเปลี่ยนมาเป็นแบบทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ และมีช่องรับลมสีเกลี่ยมแนวตั้งอยู่ถัดลงมาจากชุดไฟหน้าทรงกลม พร้อมกับปรับขนาดของการ์ดกันกระแทกให้มมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นยังเสริมกาบพลาสติกสีดำกันกระแทกรอบคันทั้งด้านหน้า, ด้านข้าง และด้านหลัง 

Hyundai INSTER Cross 2025

ด้านชุดอัลลอยจากในรุ่นพื้นฐานที่มาในทรงกากบาทปรับเปลี่ยนลวดลายใหม่ ให้เป็นแบบลานตันสีเทาดำและมีให้เลือกขนาดเดียวคือ 17 นิ้ว ด้านบนหลังเติมความอเนกประสงค์ด้วยราวหลังคามาตรฐานที่พร้อมกับฐานยบรรทุกสัมภาระ ด้านหลังชุดไฟท้าย LED ยังคงเดิม มีเพียงในส่งนของกันชนท้ายที่ปรับใหม่ให้ดูแกร่ง และบึกบึนมากยิ่งขึ้น

Hyundai INSTER Cross 2025

Hyundai INSTER Cross 2025 จะมีเฉดสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 6 สี โดยจะเพิ่มสีใหม่ สีเขียวด้าน Amazonas Green Matte ที่จะมีเฉพาะในรุ่น INSTER Cross นอกนั้นจะเหมือนกับในรุ่น INSTER รุ่นมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นสีขาว Atlas White, สีเบจ Unbleached Ivory, สีเงินด้าน Aero Silver Matte, สีดำ Abyss Black Pearl และ สีเขียว Tomboy Khaki หลังคาสีดำ

Hyundai INSTER Cross 2025

ภายในห้องโดยสารของ Hyundai INSTER Cross 2025 ก็ได้รับการตกแต่งใหม่พิเศษเฉพาะรุ่น ตกแต่งด้วนทริมสีเหลือง Lime Yellow ทั้งที่แผงคอลโซลหน้า และแผงประตูข้าง 

ตัวเบาะที่นั่งจะถูกหุ้ทด้วยวัสดุผ้าสีเทา เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีเหลือง พร้อมกับปั้มชื่อรุ่น INSTER ไว้ที่บนพนักพิงหลังด้วยตัวอักษรสีเหลือง 

Hyundai INSTER Cross 2025

ขณะที่ด้านชุดอุปกรณ์ภายในหลัก ๆ นั้นยังคงเดิม แผงแดชบอร์จะมากับหน้าจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอส่วนกลางแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว 

นอกจากนั้นยังได้รับแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ชุดไฟ Ambient Light, หลังคาซันรูฟ 

เบาะแถวสองพับได้แบบ 50:50 พร้อมปรับเลื่อนสไลด์ และปรับเอน ขณะที่พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีความจุอยุ่ที่ 280 ลิตร และเพิ่มความจุมากขึ้นเป็น 351 ลิตร เมื่อพับเบาะด้านหลังลง

ด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มีทั้ง ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติบนทางด่วย Highway Driving Assist 1.5, ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Smart Cruise Control และ ระบบลดความเร็วเมื่อเสี่ยงชนด้านหน้า Forward Collision-Avoidance Assist 1.5

Hyundai INSTER Cross 2025

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Hyundai INSTER Cross 2025 ใหม่ ทางผู้ผลิตเผยว่าจะเหมือนกับ INSTER ในรุ่นปกติ มีให้เลือกทั้งที่มีทั้งในรุ่น Standard Range ที่มากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหน้ากำลังสูงสุด 97 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 147 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 42 kWh และ รุ่น Long Range กำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 147 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 49 kWh 

ด้านระยะทางการวิ่งถูกระบุแค่ว่าจะขับได้ไกลสุด 360 กม. พร้อมกับรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ในเวลาราว ๆ 30 นาที

โดย INSTER Cross จะเริ่มผลิต และวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ ด้านราคาจำหน่ายคาดว่าจะถูกเปิดเผยในวัยที่ลงโชว์รูม ส่วนการวางจำหน่ายนั้นทางฮุนไดยังไม่ได้เปิดเผยว่ารุ่นใหม่นี้จะวางจำหน่ายที่ใด แต่คาดว่าคงจะได้เห็นในยุโรป, ตะวันออกกลาง และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น