Hyundai ใช้เวที่ในงาน LA Auto Show เผยโฉม IONIQ 9 รถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่ที่มาในรูปแบบเอสยูวีขนาดใหญ่ เบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 6 – 7 ที่นั่ง
โดยเอสยูวีไฟฟ้าตัวใหม่นี้จะมีให้เลือกถึง 3 รุ่น ได้แก่ Long-Range RWD / รุ่น Long-Range AWD และรุ่น Performance มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 110.3 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 620 กม. เตรียมประเดิมเปิดวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปี 2025
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ภายนอกของ IONIQ 9 จะ มีลักษณะหลายอย่างที่เหมือนกับ SEVEN Concept รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่ออกเมื่อสองสามปีก่อนหน้านี้
ด้านหน้าตัวรถจะโดดเด่นด้วยชุดไฟ Parametric Pixel ที่วางพาดเต็มพื้นที่ส่วนหน้า โดยมีไฟส่องสว่างแยกออกมาอยู่ด้านล่าง มาพร้อมช่องดักอากาศที่ชายล่างมาในแบบแอฟทีค
ส่วนเส้นสายด้านข้างเน้นความเรียบหรูดูแพง ตกแต่งด้วยแถบวัสดุสีดำที่กาบประตูข้าง มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ กระจกมองข้างมีทั้งแบบปกติ และกระจกมองข้างแบบดิจิทัล ที่เป็นออปชันเสริม
ในด้านชุุดล้ออัลลอยจะมีตั้งแต่ขนาด 19, 20 และ 21 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) รวมถึงล้ออัลลอย Calligraphy ขนาด 21 นิ้วที่จะติดตั้งอยู่ในรุ่นเรือธง
ในขณะที่แนวหลังคาด้านมท้ายออกแบบให้มีความลาดเทนิด ๆ เติมลุคตามแบบฉบับรถเอสยูวีด้วยราวแล็คหลังคา นอกจากนี้ยังเป็น Hyundai รุ่นแรกที่เลิกใช้เสาอากาศบนหลังคา และใช้กระจกหน้าที่สามารถรับสัญญาณ GPS และวิทยุดาวเทียมแทนที่ ในขณะที่กระจกบานหลังสามารถรับสัญญาณวิทยุ FM/AM
ส่วนด้านท้ายของ IONIQ 9 จะมากับชุดไฟท้าย LED ที่เป็นทรงแนวตั้งยาว โดยมีไฟเบรีกด้วยที่3 ที่เป็นแถบไฟ LED ที่วางเลาะโค้งตามแนว หลังคาด้านท้าย
ในด้านขนาดมิตัวรถของ Hyundai IONIQ 9 จะมีความยาว 5,060 มม. กว้าง 1,980 มม. และสูง 1,790 มม. และมีระยะฐานล้อที่ยาว 3,130 มม. ซึ่งเป็นความยาวระยะฐานล้อมากที่สุดของรถจากแบรนด์ฮุนได
ด้วยงานออกแบบโดยรวมที่เน้นในเรื่องของระบบแอร์โรไดามิค รงมทั้งถึงแม้ตัวรถจะมีขยาดที่ใหญ่โต แต่ IONIQ 9 นั้นจะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.259 Cd
ภายในห้องโดยสาร IONIQ 9 ด้วยงานออกแบบที่มีระยะฐานล้อที่ขนาดยาวจึงทำให้ เป็นรถเอสยูวีที่มีพื้นภายในห้องดโยสารที่กว้างขวาง ตัวเบาะที่นั่งจะเป็นแบบ 3 แถว มีทั้งรุ่น 6 และ 7 ที่นั่ง
โดยในส่วนเบาะที่นั่งแถวที่ 2 จะแบบเบาะประชุม (Swiveling Seats) ที่หมุนได้ได้ 180 องศา เหมือนกับในตัว KIA EV9 มาพร้อมเบาะรองน่อง และปรับด้วยไฟฟ้า
งานดีไซน์จะได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ผ้าสังเคราะห์ที่ผลิตจากขวดพลาสติกรีไซเคิล PET หรือผ้าขนสัตว์และหนังที่ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงพลาสติกทั้ง TPO (เทอร์โมพลาสติกโอเลฟิน) และ PU (โพลียูรีเทน) แบบใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ (Bio TPO/PU) เป็นต้น
ในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมไฟ LED 4 ดวงสำหรับให้ผู้ขับติดตามสถานะของแบตเตอรี่แบบง่ายๆ มาพร้อมจอโค้งคู่ Panoramic curved display ที่วางแบบลอยตัว โดยจะแบ่งเป็นมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว และจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้ว
ส่วนคอนโซลกลางมีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ 18.2 ลิตร แบ่งระหว่างถาดด้านบนและด้านล่าง สามารถสามารถปรับเลื่อนไปทางด้านหน้า/หลังได้ทั้งชุด 150 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ผู้ขับและผู้โดยสารทาง
ด้านชุดอุุปกรณ์จะได้รับ พอร์ต USB-C กำลังไฟสูง 100 วัตต์หลายพอร์ตที่รับพลังงานจากชุดแบตเตอรี่ 110.3 kWhโดยตรง แทนที่จะเป็นแบตเตอรี่ 12V
ขณที่ในชุดเครื่อเสียงในรุ่นเริ่มต้นจะได้รับลำโพง 8 ตำแหน่ง ส่วนรุ่นท๊อปจะเป็นลำโพงจากทาง Bose ที่มีมาให้ถึง 14 ตำแหน่ง
สำหรับชุดระบบความปลอดภัยจะมากับระบบ Forward Collision-Avoidance Assist 2 แจ้งเตือนและหลีกเลี่ยงการปะทะทางด้านหน้า, ระบบ Lane Keeping Assist รักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Blind Spot Collision-Avoidance Assist ช่วยเตือนพร้อมช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตา, ระบบ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยออกจากที่จอด, ระบบ Safe Exit Warning ป้องกันการชนในขณะเปิดประตูรถเมื่อจอด และถุงลมนิรภัยรอบห้องโดยสาร 10 ใบ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อน IONIQ 9 จะมีให้เลือก 3 รุ่น ประกอบไปด้วย รุ่น Long Range RWD ขับหลัง, Long Range AWD ขับสี่ และรุ่นท๊อปเกรด Performance AWD โดยทุกรุ่นย่อยใช้แบตเตอรี่แพคความจุ 110.3 kWh มาพร้อม เทคโนโลยี 800V มาพร้อมฟังชั่น Vehicle to Load สำหรับจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ รวมทั้งยังมามากับระบบชาร์จเร็ว DC ขนาด 350 kW ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ภายใน 24 นาที
- รุ่นมาตรฐาน Long Range RWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลังสูงสุด 214 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 9.4 วินาที ชาร์จเต็มวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 620 กม. (WLTP)
- รุ่น Long Range AWD จะถูกเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าที่คู่ล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า255 นิวตันเมตร โดยในรุ่นนี้จะให้อัตราจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที
- รุ่น Performance AWD ที่เป็นรุ่นท๊อป จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลัง 214 แรงม้า ทั้งเพลาหน้า และเพลาหลัง ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 5.2 วินาที โดยในทุกรุ่นย่อยจะจำกัดความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 200 กม./ชม.
Hyundai IONIQ 9 จะมีสีภายนอกให้เลือกถึง 16 สี ส่วนด้านราคาจำหน่ายยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขออกมาในตอนนี้ เพียงแต่เผยว่าในช่วงแรกจะเริ่มวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ก่อนที่จะขยายไปยังตลาดยุโรป และตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยช่วงปลายปี 2025
