โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย แบรนด์รถยนต์ภายใต้ Chery Automobile บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ได้ขนยนตกรรมทั้งรถที่พร้อมจำหน่าย และรถ Concept Car มาวางโชว์ตัวภายในบูธที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 แบบจัดเต็ม
โดยนำทีมมาโดย OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ที่ได้เปิดวางจำหน่ายในบ้านเราไปแล้ว อีกทั้งยังได้นำ Chery Fulwin E05 รถ EV รุ่นใหม่ ที่มากับ Concept Car อย่าง iCar X25 นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่ทาง โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย เผยว่าพร้อมที่จะเปิดตัววางจำหน่ายอย่างเป็นทาง การในตลาดเมืองไทยปี 2568 ที่จะถึงนี้ นั่นก็คือ JAECOO 7 PHEV
สำหรับ JAECOO 7 PHEV (เจคู 7 พีเอชอีวี) นั้นเป็นรถเอสยูวี ที่มาในรูปแบบปลี๊กอินไฮบริด ที่อยู่ในเครือของทาง CHERY โดยล่าสุดได้เปิดตัววางจำหน่ายไปแล้วในย่านอาเซียนอย่างในมาเลเซียเพื่อนบ้านเราเมื่อต้นปี 2024 นี้
ในด้านงานออกแบบของ JAECOO 7 PHEV จะเน้นความบึกบึน แข็งแกร่ง ตามแบบฉบับรถออฟโรดสายลุย กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมรูปตัว U ขนาดใหญ่ ด้านในเป็นตะแกรงสีดำมาในแบแนวตั้ง พร้อมติดตราชื่อแบรนด์ JAECOO ไว้ตรงกึ่งกลาง
ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน โดยด้านบนจะเป็นชุดไฟ DRL LED ที่มาในทรงเหลี่ยมแบบเรียวยาว ส่วนชุดไฟส่องสว่างด้านล่างจะเป็นแบบ LED ที่ออกแบบให้เป็น 2 ชั้น ขณะที่ชายล่างมาพร้อมช่องดักอากาศทรงเหลีั่ยม ที่มีไฟตัดหมอกติตดั้งอยู่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง
ขณะที่ด้านข้างตัวรถ มากับเส้นสายที่เรียบง่าย ซุ้มล้อตกแต่งด้วยแถบสีดำ ตามแบบฉบับรถออฟโรดสายลุย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
ส่วนมือเปิดประตูถูกออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ เหมือนรถหรูราคาแพง นอกจากนั้นยังตกแต่งที่เสา A และ C ด้วยแถบสีดำ ทำให้ตัวรถมีหลังคาแบบลอยตัว หรือแบบ Floating
ส่วนด้านท้ายงานออกแบบก็จะเน้นในรูปท่รงเหลี่ยมทั้งหมดเริ่มจากชุดไฟท้ายที่เป็นแถบสีเหลี่ยมที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนท้าย ตรงกลางติดป้ายชื่อแบรนด์ J A E C O O เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาสีดำ มาพร้อมกันชนท้ายขนาดใหญ่สีดำ เติทภาพลักษณ์รถสายลุยด้วยการ์ดกะันกระแทกด้านหลังวสีเงิน พร้อมกับติดตั้งปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงสี่เหลี่ยม
ด้านมิติขนาดตัวรถมีความยาว 4,500 มม. ความกว้าง 1,856 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,672 มม. มีระยะห่างจากพื้น 200 มม. โดยตัวรถสามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 605 มม. รวมถึงยังมีมุมเข้า 21 องศา และมุมออก 29 องศา เพื่อให้สามารถลุยในเส้นทางออฟโรดได้อย่างสบาย
ภายในห้องโดยสารเน้นการออกแบบพรีเมียม แผงแดชบอร์ดติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงสามก้าน วางอยู่ด้านหน้าจอแบบ LCD ที่วางแบบลอยตัวขนาด 10.25 นิ้ว ขณะที่หน้าจออินโฟรเทนเมนต์จะมาในแบบสัมผัสมีขนาด 14.8 นิ้ว รวมทั้งยังได้รับหน้าจอ W-HUD ที่สะท้อนไปยังกระจกบังลมหน้า พร้อมกับติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 8155
คอนโซลกลางจะถูกเชื่อมต่อกับแผงคอนโซลหน้าโดยออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มาพร้อมคันเกียร์ไฟฟ้าดีไซน์สุดเท่ห์, แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สายที่ชาร์จได้พร้อมกัน 2 เครื่อง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาที่มีขนาด 1.1 ตร.ม.
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังระดับพรีเมี่ยม เบาะนั่งฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ขณะเบาะนั่งแถวที่ 2 พับแบบ 40:60
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมากับขุมพลัง PHEV ที่เป็นการทำงานรวมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะให้พละกำลังที่มากถึง 326 แรงม้า แรงบิด 545 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ DHT มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ให้เลือกมากถึง 9 โหมด ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบ Ternary lithium battery ขนาด 19.27 kWh วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 125 กม. อีกทั้งเมื่อชาร์ตไฟเต็มพร้อมน้ำมันเต็มถังจะวิ่งครอบคลุมระยะทางไกลถึง 1,353 กม.
สำหรับ JAECOO 7 PHEV นั้นจะได้รับการเปิดตัววางจำหน่ายในตลาดเมืองไทยชข่วงปี 2568 ที่จะถึงนี้ ส่วนจะเป็นช่วงเวลาไหนนั้น หากมีข้อมูลเพิ่มเตอมออกทาทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ส่วนคู่แข่งในตลาดนั่นก็คงหนีไม่พ้นรถที่มาจากบ้านเดียวกันอย่าง BYD SEALION 6 DM-i, MG HS PHEV, Haval H6 PHEV รวมทั้งรถจากญี่ปุ่นทั้ง Toyota Corolla Cross Hybrid และ Honda HR-V