KIA แบรนด์รถจากประเทศเกาหลีใต้เผยภาพ All New KIA TASMAN รถกระบะขนาดกลางคันแรกของทางแบรนด์ ก่อนที่จะเปิดตัว ประกาศราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงปี 2025
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นของ KIA TASMAN จะมีมาในรูปแบบ Single Cab ที่เป็นแบบตอนเดียว และ Double Cab 4 ประตู รวมทั้งมีขุมพลังให้เลือกทั้งดีเซล 2.2 เทอร์โบ และเบนซิน 2.5 เทอร์โบ โดยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อยได้แก่ X-Line, X-Pro และ BASE
KIA TASMAN ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม ladder-frame chassis ในด้านงานออกแบบดีไซน์จะมาในรูปแบบที่ดูบึกบึน แข็งแกร่ง รูปทรงแบบกล่องที่เป็นเหลี่ยม โดยจะถูกออกแบบภายใต้แนวติดที่ว่า Dive into a New Dimension
ในส่วนของกระจังหน้าจะมาในทรงเหลี่ยมสีดำขนาดใหญ่ ด้านในจะเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางเรียงกัน 3 ชั้น โดยมีทั้งหมด 6 แถว ขนาบข้างกเวยชุดไฟหน้า LED ที่มาในแบบทรงแนวตั้ง มาพร้อมกันชนขนาดใหญ่ ขณะที่ในส่วนของฝากระโปรงจะมาในแบบแบนราบ พร้อมตกแต่งชายด้านหน้ารูปแถบสีดำที่เป็นรูปตัว U
ด้านข้างตัวรถจะมากับบังโคลน ทรงหกเหลี่ยมสีดำขนาดใหญ่ ส่วนล้อออัลลอยจะมีลวดลายที่แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยจะมีขนาด 17 นิ้ว / 18 นิ้ว
ที่ด้านหลังของ TASMAN จะเป็นกระบะบรรทุกขนาดมาตรฐาน มาพร้อมไฟท้ายขนาดใหญ่ทรงตัว C ที่อยู่ในกรอบสีดำ มาพร้อมฝาท้ายขนาดใหญ่ที่ปั้มตราโลโก้ของทางแบรนด์ไว้ตรงกลาง โดยมีชื่อรุ่น TASMAN วางอยู่ด้านล่าง ส่วนตัวกันชนจะมาพร้อมบันไดในตัว
KIA TASMAN จะมีมิติตัวถังความยาว 5,410 มม. กว้าง 1,930 มม. ระยะฐานล้อ 3,270 มม. ระยะ Ground Clearance อยู่ที่ 224 – 252 มม. รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,195 กก. และมีความสามารถในการลุยน้ำสูงสุด 800 มม.
ส่วนพื้นที่กระบะท้ายนั้นจะมีความยาว 1,512 มม. กว้าง 1,572 มม. สูง 540 มม. และมีพื้นที่ความจุ 1,173 ลิตร อีกทั้งในส่วนของพื้นกระบะท้าย ยังสามารถเลื่อนได้เหมือนถาดสไลด์ มาพร้อมที่เสียบชาร์จไฟ Power Outlet ขนาด 220-240V และชุดไฟส่องสว่าง
ภายในห้องโดยสารจะมากับความล้ำสมัย โดยแผงแชดบอร์ด จะติดตั้งหน้าจอดิจิทัลขนาดใหญ่ ที่เป็ฺนแบบ 3 หน้าจอรวมกันเป็นจอเดียว โดยเริ่มจากแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 5 นิ้วสำหรับควบคุมสภาพอากาศ และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
พร้อมกับตกแต่งภายในด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยผ้า PET รีไซเคิลและหนังสังเคราะห์ bio-PU
โดยภายในห้องโดยสารของ TASMAN จะตกแต่ง 2 สไตล์โดยมาในโทนสีดำทั้งหมด และอีกรุ่นจะตกแต่งด้วยเส้นสีทองที่แผงคอนโซลหน้า แผงประตู และที่บริเวณช่องวางของ
อีกทั้งยังออกแบบในส่วนของมือเปิดประตูด้านในให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น โดยจะมีลักษณะเหมือนกับคันโยก นอกจากนั้นในส่วนของระบบเครื่องเสียงยังติดตั้งเสียงระดับพรีเมียม Harman Kardon ที่มาพร้อมกับลำโพงถึง 8 ตำแหน่ง
รวมทั้งยังออกแบบในส่วนของคอนโซลกลาง เป็นแบบ Folding Console Table โดยจะเป็นแบบโต๊ะแบบพับเก็บได้ มาพร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger 2 ตำแหน่ง ที่อยู่ตรงคอนโซลกลาง
รวมทั้งยังออกแบบให้มีช่องวางของใต้เบาะที่นั่งด้านหลังโดยมีความจุมากถึง 33 ลิตร อีกทั้งเบาะหลังยังสามารถปรับเอนทำมุมได้ถึง 22-30 องศา อีกทั้งทางเกียอ้างว่าจะมีพื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่ไหล่ และพื้นที่วางขาแถวดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีให้เลือกเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2T ที่ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังจะมีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มาพร้อมที่ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ 4WD อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ในเวลา 10.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 185 กม./ ชม.
และขุมพลังเบนซิน 2.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 281 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 421 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ภายใน 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ ชม.
มีโหมดการขับขี่แบ่งเป็น 2 โหมดหลัก ที่เป็นโหมดทั่วไป 3 โหมดได้แก่ Comfort, ECO และ Sport มาพร้อมโหมดลุย Terrain Mode มี 4 โหมดได้แก่ MUD, Sand, Snow และ โหมด ROCK ที่อยู่ในรุ่น X-PRO มาพร้อมระบบล็อคเฟืองท้ายไฟฟ้า rear Electronic Locking Differential (e-LD)
นอกจากนี้กระบะใหม่จากเกาหลีใต้คันนี้ยังรองรับน้ำหนักได้มากถึง 1,017-1,195 กก. และมีประสิทธิภาพการลากจูง 3,500 กก. มาพร้อมช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบแหนบหรือลีฟสปริง
ในด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่จะมากับระบบ ADAS พร้อมกล้องรอบคัน รวมทั้งกล้อง Ground View Monitor (GVM) ที่เห็นภาพจากใต้ท้องรถ
สำหรับ KIA TASMAN จะได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงปี 2025 ที่จะถึงนี้ ส่วนการสวางตลาดนั้นนอกจากจะมีวางจำหน่ายในเกาหลีใต้บ้านเกิดแล้ว ยังมึแผนที่จะทำตลาดทั่วโลก ทั้งในออสเตรเลีย, แอฟริกา และตะวันออกกลาง
ส่วนจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราหรือไม่นั้นต้องมารอวัดใจว่าทาง KIA กล้าพอไหมที่จะโดดลงมาแข่งขันกับตลาดรถกระบะที่ใหญ่ที่สุด และมีการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่เมืองไทย