in ,

Lamborghini Urus SE เอสยูวี PHEV รุ่นแรกของแบรนด์ที่มากับพละกำลังถึง 800 แรงม้า

Lamborghini Urus SE ซูเปอร์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์ พละกำลัง 800 แรงม้า วิ่งโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลถึง 60 กม.

Lamborghini Urus SE

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี เปิดตำนานบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ด้วยการเผยโฉม Lamborghini Urus SE ซูเปอร์เอสยูวีระบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของลัมโบร์กินี

Lamborghini Urus SE

โดย Urus SE มาพร้อมดีไซน์รใหม่ ที่เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ รวมทั้งยังได้รับเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ที่เหนือชั้น เสริมด้วยระบบ PHEV ที่ให้กำลังมากถึง 800 แรงม้า วิ่งโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลถึง 60 กม.  โดยสามารถลดการปล่อยไอเสียสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 80% ทำให้ Urus SE เป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่นที่สุดในรถยนต์คลาสเดียวกัน 

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

ในด้านงานดีไซน์ตัวรถ มาพร้อมกับเส้นสายใหม่สะท้อนถึงรูปทรงแบบพลศาสตร์ ที่เน้นภาพลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ต และความแข็งแกร่งบึกบึนได้อย่างโดดเด่น

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

ส่วนหน้าหรูหราด้วยการออกแบบฝากระโปรงทรงใหม่แบบ Floating Design โดยลบเส้นสายที่เป็นตัวแบ่งส่วนต่าง ๆ ทิ้งไปเพื่อเสริมความรู้สึกลื่นไหลต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเสริมด้วยองค์ประกอบใหม่ ๆ อีกมากมาย ทั้งฝากระโปรงรถแบบ Floating เพื่อมอบเส้นสายที่สะอาดตาและรูปทรงส่วนหน้าที่แข็งแกร่งบึกบึน ชุดไฟหน้าที่ใช้เทคโนโลยี Matrix LED ซึ่งเป็นดีไซน์ซิกเนเจอร์ใหม่ล่าสุดที่มีแรงบันดาลใจมาจากหางวัวกระทิงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ลัมโบร์กินี มาพร้อมชุดไฟท้ายด้วยดวงไฟรูปตัว “Y”

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

ส่วนการออกแบบดีไซน์ด้านหลัง ตกแต่งด้วยดิฟฟิวเซอร์ และสปอยเลอร์ใหม่ที่ ช่วยเพิ่มแรงกดด้านหลังขณะวิ่งด้วยความเร็วสูงเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Urus S จึงเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

พร้อมปรับช่องติดป้ายทะเบียนรถให้มีระดับต่ำลง ดีไซน์ตะแกรงหลังนำแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตของลัมโบร์กินีอย่าง Gallardo 

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

นอกจากนั้นยังออกแบบท่อระบายลมที่ส่วนล่างตัวรถ และท่อลมเข้าใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์  พร้อมออกแบบช่องทางลมให้ต่อเนื่องมากขึ้นเพื่อลดความร้อนของชิ้นส่วน และเครื่องยนต์ได้ดีกว่าเดิม ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่น Urus เดิมถึง 15% 

Lamborghini Urus SE

อีกทั้งยังเสริมความหล่อด้วยชุดล้ออัลลอยดีไซน์ Galanthus ขนาด 23 นิ้ว พร้อมรัดด้วยยาง Pirelli P Zero รุ่นใหม่ 

Lamborghini Urus SE

ภายให้องโดยสาร ได้รับการตกแต่งใหม่ โดยมาพร้อมปรัชญาการออกแบที่เรียกว่า “Feel like a pilot” เพื่อยกระดับปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักขับและระบบดิจิทัลภายใน แผงแดชบอร์ดติดตั้งดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

มาพร้อมกราฟิก Human Machine Interface เวอร์ชันใหม่ที่ใช้งานได้ง่ายดายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียมเคลือบผิวในรูปทรงตัว “Y” อันเป็นเอกลักษณ์ และยังหุ้มส่วนบานตกแต่ง แผงหน้าปัด เบาะนั่งด้วยวัสดุใหม่ นอกจากนี้ ยังออกแบบแผงปุ่มกดแบบกลไกเพื่อให้ได้สัมผัสของการกดที่สมจริง

Lamborghini Urus SE

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Lamborghini Urus SE จะมากับเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 4.0 ให้กำล้ง 456 kW หรือ 620 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 800 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 483 นิวต้นเมตร เมื่อผสานการทำงานจะมีกำลังรวมสูงสุด 800 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 950 นิวตันเมตร ระบบส่งด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

Lamborghini Urus SE

มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เวอร์ชันใหม่ล่าสุด มาพร้อมระบบ e-limited-slip differential ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 312 กม./ชม. ส่งผลทำให้ SE เป็นรถยนต์ที่ทรงพลังสูงสุดของตระกูล Urus 

Lamborghini Urus SE

มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 10 โหมดโดยสามารถควบคมุสั่งงานได้จากแผงควบคุม “Tamburo” ที่ถูกติดตั้งบริเวณกลางคอนโซล อาทิ Strada, Sport, Corsa (สำหรับท้องถนนและสนามแข่ง), Neve, Sabbia และ Terra (สำหรับพื้นผิวที่มีการยึดเกาะที่แตกต่างจากพื้นยางมะตอย) จะสามารถทำงานร่วมกับออปชันระบบ EV Drive, Hybrid, Performance และ Recharge 

Lamborghini Urus SE

ด้านชุดแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนขนาดความจุ 25.7 kWh สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 60 กม.โดยสามารถลดการปล่อยไอเสียได้มากถึง 80%เมื่อเทียบกับ Urus S

Lamborghini Urus SE

สำหรับ Lamborghini Urus SE จะมีโทนสีตัวรถให้เลือกมากมาย และออปชันการตกแต่งอีกมากกว่า 100 องค์ประกอบ โดยจมากับ 2 สีใหม่ คือ สีส้ม Arancio Egon ที่จับคู่ภายในห้องโดยสารที่เป็นสีส้ม Arancio Apodis ที่ และโทนสีขาว Bianco Sapphirus ที่ภายในห้องโดยสารจะเป็นสีน้ำตาลแดง Terra Kedros 

Lamborghini Urus SE

นอกจากนั้นออปชันการตกแต่งภายในยังมอบทางเลือกคู่สีอีกกว่า 47 แบบ และการเย็บตะเข็บตกแต่งถึง 4 สไตล์ (Q-citura stitching) พร้อมออปชันในโปรแกรมการตกแต่ง Ad Personam ที่ช่วยให้เจ้าของ Urus SE สร้างสรรค์รถยนต์ให้มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครเพียงหนึ่งเดียวในโลก

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

Lamborghini Urus SE

โดยราคาจำหน่ายของ Urus SE จะถูกประกาศออกมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะมีราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน