Leapmotor แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนได้ประกาศราคาจำหน่าย Leapmotor C10 รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบเอสยูวีแบบ 5 ที่นั่่ง ที่มีให้เลือกทั้งในรูปแบบ EV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% และ Range extender ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในการปั่นพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มให้ระยะเดินทางสูงสุดได้มากยิ่งขึ้น โดยทาง Leapmotor เคาะราคาจำหน่ายเริ่มในจีนที่ 128,800 หยวน หรือราว 6.53 แสนบาท นอกจากนั้นยังมีแผลนที่จะนำไปวางจำหน่ายนอกประเทศจีน โดยเฉพาะที่ยุโรป ในอนาคตอีกด้วย
สำหรับแบรนด์ Leapmotor ในปัจจบันขะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท ที่จะประกอบไปด้วยรถยนต์ 4 รุ่น ได้แก่ C11 ที่มาในรูปแบบ SUV, C01 ที่เป็นรถในประเภทซีดาน และ T03 ที่เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่มาในรูปแบบซิตี้คาร์ และ Leapmotor C10 นั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่รุ่นล่าสุด
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ Leapmotor C10 จะมาในรูปแบบเอสยูวีขนาดกลาง 5 ที่นั่ง เส้นสายตัวรถเน้นความเรียบหรู ดูแพง พร้อมดีไซน์ให้สอดรับกับระบบแอร์โร่ไดนามิค เพื่อให้ลดแรงต้านอากาศ ชุดไฟหน้าตามแบบสมัยนิยมที่เป็นแถบไฟ LED ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนหน้า เช่นเดียวกับด้านท้ายที่มากับแถบไฟ LED ที่วางเต็มพื้นที่ส่วนท้าย
ในส่วนหลังคารถจะออกแบบให้เป็นแบบแขวน เพื่อทำให้ตังรถนั้นดูมีความกว้าง และดูใหญ่ขึ้น มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
ด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 4,739 มม. ความกว้าง 1,900 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,825 มม.
นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 3 ที่เรียกว่า Leapmotor Pilot ที่ประกอบไปด้วยฟังก์ชัน 25 ฟังก์ชัน จากเซ็นเซอร์ทั้งหมด 30 ตัว กล้องที่ด้านหน้า ด้านท้าย รวมทั้งบริเวณซุ้มล้อรวมทั้งหมด 11 ตัว และ LiDAR รวมทั้งเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว อีกทั้งยังมากับเรดาห์คลื่อน 5 มิลลิเมตรและ NVIDIA Orin-X ชิป
สำหรับเฉดสีตัวรถของ Leapmotor C10 ที่วางจำหน่ยาในจีนจะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว, สีเทา, สีฟ้าอ่อน, สีเทาเข้ม และสีเขียวหยก
ภายในห้องโดยสารจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง มีเฉดสีให้เลือก 2 โทนสีได้แก่ สีส้ม และสีม่วง แผงแดชบอร์ดจะมาในแบบมินินอล เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความไฮเทค
โดยจะไม่มีปุ่มสั่งงานใด ๆ โดยจะติดตั้งเพียง แผงหน้าปัด LCD ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางแบบลลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบก้านคู่ท้ายตัด
ขณะที่หน้าจอส่วนกลางจะมีขนาด 14.6 ความคมชัดระดับ 2.5K มาพร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon 8295 อีกทั้งยังถูกเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Leapmotor OS 4.0 และสามารถรับรู้การโต้ตอบด้วยเสียง
คอนโซลกลางจะออกแบบใหม้มีเพียงช่องวางแก้วน้ำ และจุดแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนเท่านั้น รวมทั้งยังได้ติดตั้งชุดเครื่องเสียงที่มากับลำโพง 12 ตำแหน่ง
นอกจากนั้นทาง Leapmotor ยังเผยว่า C10 จะถูกออกแบบให้มีพื้นที่ด้านหลังที่กว้างขวาง โดยเบาะแถวสองจะมีพื้นที่ Legroom ที่กว้างมากถึง 1,050 มม. อีกทั้งเบาะคู่หน้าสามารถปรับเอนได้ถึง 180° นอกจากนั้นยังปรับให้เชื่อมต่อกับเบาะแถวหลังให้กลายเป็นโซฟา ขนาดใหญ่ที่มีความยาวเกือบ 1.8 เมตร และสามารถสร้างเตียงได้กว้างกว่า 2.7 เมตร อีกทั้งในส่วนเบาะนั่งคู่หน้ายังปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบระบายอากาศ และระบบปรับทำความร้อน
ด้านพื้นที่เก็บสัมภาะระด้านท้ายสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้ถึง 7 ใบ และสามารถขยายได้ถึง 835 ลิตรหลังจากพับเบาะหลังลงเพื่อรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้สูงสุด 15 ใบ
Leapmotor C10 ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม LEAP 3.0 (Four Leaf Clover) ซึ่งรองรับทั้งรถยนต์ EV และ EREV โดยในเวอร์ชั่น EV มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 170 kW หรือ 230 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 7.29 วินาที
ด้านชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบลิเธียมเหล็กฟอสเฟต ที่มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 52.9 kWh และ 69.9 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง จะให้ระยะทางการวิ่งอยู่ที่ 410 และ 530 กม. (CLTC)
ส่วนในเวอร์ชั่น EREV จะมากับเครื่องยนต์ H15R ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 70 kW หรือ 94 แรงม้า ที่ทำหน้าที่ในการปั่นพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ที่มีขนาดเดียวกันกับในเวอร์ชั่น EV มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตขนาด 28.4 kWh วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 210 กม. (CLTC) รวมถึงมีระยะครอบคลุมการวิ่งได้ระยะทางมากถึง 1,190 กม. (CLTC)
โดยในเวอร์ชั่น EREV ตัวรถจะมีความความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 170 กม./ชม. และให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 7.68 วินาที
ด้านการชาร์จไฟทั้งในเวอร์ชั่น BEV และ EREV จะรองรับการชาร์จ DC ที่ใช้ให้กำลังไฟจา่ก 30% ถึง 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที
ด้านราคาจำหน่าย Leapmotor C10 เวอร์ชัน EREV จะมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อยได้แก่
- 210 Comfort Edition ราคา 135,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.75 แสนบาท
- 210 Smart Edition ราคา 145,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.39 แสนบาท
- 210 Smart Driving Edition ราคา 165,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 8.25 แสนบาท
เวอร์ชัน BEV จะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย
- 410 Comfort Edition ราคา 128,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.53 แสนบาท
- 530 Comfort Edition ราคา 138,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.04 แสนบาท
- 530 รุ่นสมาร์ท ราคา 148,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.4 แสนบาท
- 530 Smart Driving Edition ราคา 168,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 8.56 แสนบาท