Lynk & Co แบรนด์รถที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Geely และ Zeekr ได้เผยโฉม Lynk & Co 900 รถ SUV รุ่นแฟลกชิพรุ่นใหม่ ที่มากับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ก่อนที่จะเริ่มเปิดราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในจีนช่วงเดือนมินาคม ที่จะถึงนี้
สำหรับ Lynk & Co 900 นับเป็นรถเอสยูวีขนาดฟูลไซส์ในกลุ่มพรีเมียม และเป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และที่สำคัฯคาดว่าจะเป็นรถที่จะมีราคาแพงที่สุดเท่าที่ ลิงค์ แอนด์ โค เคยผลิตมา
Lynk & Co 900 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม SPA หรือ Volvo Scalable Product Architecture โดยมีขนาดตัวมีความยาว 5,240 มม. กว้าง 1,999 มม. สูง 1,810 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,160 มม.
ในด้านงานออกแบบภายนอกของตัวรถจะมากับดีไซน์ที่ล้ำสมัย มาพร้อมแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า “The Next Day” ที่เน้นความสมมาตร และโครงสร้างที่มีมิติ ด้านหน้าจะมาในแบบปิดทึบ มาพร้อมชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน โดยจะมากับชุดไฟ DRL ที่มาในแบบแนวตั้งคู่บนฝากระโปรงหน้า
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งแถบไฟ LED ไว้ที่ด้านหน้าจำนวน 10,192 ดวง ที่ควบคุมความเข้มได้ถึง 32 ระดับ มีโหมดการแสดงผลหลากหลาย เช่น ไฟต้อนรับ ไฟขับขี่ และไฟจอดรถ พร้อมรองรับการตั้งค่าเอง เช่น การเขียนข้อความหรือวาดภาพ
ด้านข้างตัวรถในส่วนกระจกมองข้างออกแบบให้มีขาตั้งที่ดูแปลกตาโดยจะยื่นติดอยู่ที่ด้านข้างตัวรถพร้อมติดชื่อแบรนด์ Lynk & Co ขณะที่เส้นสายด้านข้างออกแบบให้มีความลู่ลม
มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมฟังก์ชันเปิดอัตโนมัติและป้องกันน้ำแข็ง ด้านล้ออัลลอยมาในแบบทูโทน พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงที่ด้านใน
ตัวรถจะถูกออกแบบให้ตัวหลังคาเป็นแบบลอยตคัว โดยตั้งแต่เสา A -C จะมาในเฉดสีดำ อีกทั้งยังออกแบบด้านท้ายให้มาในแบบ Fastback ที่ลาดเท เติมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคา และเสาอากาศแบบครีบฉลาม ด้านหลังติดตังชุดไฟท้าย LED ที่พาดยาวเต็มพื้นที่โดยจะมีชุดหลอดไฟ LED ที่มากถึง 2,400 ดวง ที่ควบคุมแยกแต่ละดวง รองรับการแสดงผลแบบกำหนดเอง
อีกทั้งยังติดตั้งฝาท้ายแบบเปิดได้สองชั้น มรารองรับน้ำหนักได้ 300 กก. รวมทั้งในส่วนของหลังค่มาพร้อมกับรางบรรทุกสัมภาระที่ซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 300 กก.
สำหรับงานออกแบบตัวรถของ Lynk & Co 900 ทางลิงค์ แอนด์ โค เผยว่าจะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ เพียง 0.291 Cd
ภายในห้องโดยสารของ Lynk & Co 900 จะมาในแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง (2+2+2) งานออกแบบจะเน้นความกว้างขวางนั่งสบาย โดยจะมีขนาดกว้างถึง 6.16 ตารางเมตร และมีความสูงของห้องโดยสารถึง 1.293 เมตร โดยเบาะแถว 2 เป็นแบบ Captain Seat ที่ปรับเลื่อนระยะได้สูงสุด 550 มม.
นอกจากนั้นยังได้รับการตกแต่งด้วนวัสดุคุณภาพสูง อาทิ ผ้ากำมะหยี่สังเคราะห์, หนัง Nappa, และวัสดุ PVD ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอขนาดยักษ์ถึง 30 นิ้ว ที่มีความละเอียดในระดับ 6K แยกเป็นจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ และจอระบบเอนเตอร์เทนเมนท์สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า อีกทั้งยังได้รับหน้าจอ Head-up display และจอข้อมูลขนาดเล็กทรงอัลตร้าไวด์ขนาด 12.66 นิ้วสำหรับแสดงข้อมูลสำคัญขณะขับให้ โดยทั้งหมดจะถูกควบคุมด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 จำนวน 2 ตัว รวมทั้งยังได้รับการติดตั้งจอเพดานขนาด 30 นิ้ว ความละเอียด 6K สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ด้านคอนโซลกลางถุกออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยจะมากับแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายที่มาให้ 2 ช่อง นอกจากนี้ยังมีตู้แช่ควบคุมอุณหภูมิ ที่สามารถปรับอุณหภูมิต่ำสุด -6 °C และสูงสุด 50 °C, พอร์ท USB หลายตำแหน่ง, ระบบเครื่องเสียง Harman Kardon, ช่องเก็บของอีก 42 ตำแหน่งทั่วห้องโดยสาร, พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายมีความจุ 300 ลิตร เสริมด้วยพื้นที่เก็บของใต้พื้นอีก 20 ลิตร และประตูท้ายแบบเปิดแยกส่วน บน/ล่าง
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่จะมากับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ SPA EVO รองรับการติดตั้งฮาร์ดแวร์ และระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง ADAS รวมถึงเซนเซอร์ LiDAR ไว้ที่บนหลังคาด้านหน้า และยังได้รับการติดตั้งกล้องรอบคัน
ในด้านระบบขับเคลื่อนของ Lynk & Co 900 จะมากับระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่มีให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่
- เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 710 แรงม้า
- เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 725 แรงม้า
- เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวมทั้งระบบ 845 แรงม้า มาพร้อมอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที
โดยในทุกรุ่นย่อยจะมากับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม พร้อมระบบ Continuous Damping Control (CDC) ช่วยตรวจสอบและลดการสั่นสะเทือนแบบต่อเนื่อง และฟังก์ชั่นสลับการทำงานระหว่างถุงลมแบบ Single chamber หรือ Dual chamber ตามสถานการณ์ในการขับ เสริมด้วยระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง
Lynk & Co 900 ที่จะเปิดตัวในจีนจะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ Polar Night Black, สีเทา Cloudy Gray, สีน้ำเงิน Morning Dawn Blue, สีขาว Dawn White และสีเงิน Sunlight Silver
สำหรับรายละเอียดโดยรวม และราคาจำหน่ายนของ Lynk & Co 900 จะได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาทางทีมงาน Autostation.com จะรีบนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งโดยทันที
