มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ประกาศปลุกกระแสตลาด C-SUV ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมเปิดตัวครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นยอดนิยมเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด New Mazda CX-5 ที่ได้รับการพัฒนาให้ครบครันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในทุกด้าน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ โดยมีให้เลือกเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร และ Skyactiv-D 2.2 ลิตร ที่สำคัญได้ปรับฐานราคาใหม่ถูกลงกว่ารุ่นที่ผ่านมา 100,000 – 250,000 บาท
New Mazda CX-5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ดังต่อไปนี้ Mazda CX-5 2.0 S Skyactiv-G 2.0 2WD, Mazda CX-5 2.0 SP Skyactiv-G 2.0 2WD และ Mazda CX-5 XDL Skyactiv-D 2.2 AWD
ราคาคาดการณ์ของ Mazda CX-5 โฉมไมเนอร์เชนจ์
เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร
- 2.0 S 2WD ราคา 1,1xx,000 บาท
- 2.0 SP 2WD ราคา 1,2xx,000 บาท
เครื่องยนต์ Skyactiv-D 2.2 ลิตร
- 2.2 XDL 4WD ราคา 1,6xx,000 บาท
ในด้านงานดีไซน์ภายนอกของ Mazda CX-5 โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ จะได้รับการปรับใหม่ให้มีความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ยิ่งขึ้น โดยตัวรถจะมากับชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ดีไซน์ใหม่ มาพร้อมระบบเปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS ขณะที่ไฟท้ายก็ได้รับการออกกแบบใหม่มาในแบบ LED Signature
นอกจากนั้นในส่วนของกระจังหน้าสี Piano Black ใหม่ มาพร้อมกันชนหน้า และกันชนหลัง ที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมชุดตกแต่งคิ้วข้างประตูใหม่ ขณะที่ด้านล้ออัลลอยจะมีให้เลือก 3 แบบ 3 รุ่น โดยมีขนาด 17 นิ้ว และ 19 นิ้ว เสริมความสปอร์ตด้วยท่อไอเสียดีไซน์ใหม่
ขณะที่ภายในยังเน้นความหรูหรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียดเสมือนงานทำมือ และให้ผิวสัมผัสอย่างประณีต โดยเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัส มาพร้อมการตกแต่งภายในใหม่ด้วยเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาล และใช้วัสดุตกแต่งภายในแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม หรือเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาลเข้ม เสริมภาพลักษณ์ความโดดเด่นไปอีกขั้น ด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
แผงแดชบอร์ดจะมากับมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อค มาพร้อมหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ควบคุมด้วย Center Commander โดยรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wireless Apple CarPlay® และรองรับ Android AutoTM* และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า (Windshield Active Driving Display)
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ, ระบบเบรกมือไฟฟ้าระบบ Auto Hold, ระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และช่อง USB สำหรับชาร์จไฟด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลังอีก 2 ช่อง
นอกจากนั้นยังเพิ่มเทคโนโลยีความสะดวกสบายให้มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น โดยในระบบเชื่อมต่อจะมากับ Apple CarPlay แบบไร้สาย รวมทั้งยังมาพร้อมกับแป้นเปลี่ยนเกียร์ Sport Paddle Shift เสริมความสะดวกสบายด้วยการเพิ่มระบบ Hand Free Power Lift Gate (ฝาท้ายเปิด – ปิดโดยไม่ต้องใช้มือ)
นอกจากนั้น้ในรุ่น รุ่น 2.0 SP ยังได้รับเพิ่มระบบ Cruising Traffic Support และอัพเกรดระบบ Mazda Radar Cruise Control เป็นแบบมี Stop & Go
ขณะที่ในรุ่น Skyactiv-D 2.2 ลิตร จะเพิ่มการตกแต่งภายนอกแบบ Exclusive Package โดยในสวนของชายล่างกันชนหน้า, ชายล่างกันชนหลัง และ จะเป็นสีเดียวกันกับตัวรถ มาพร้อมปลายท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่ รวมทั้งยังเพิ่มระบบขับขี่แบบ Off-road พร้อมสวิตช์ Mi-Drive
ในด้านระบบความปลอดภัย Mazda CX-5 ยังมาพร้อมระบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยระดับโลก i-Activsense อย่างครบครัน อาทิ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS, ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ แบบ Advance,ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R, ระบบถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และระบบแสดงภาพ 360 ̊ รอบทิศทาง เป็นต้น
Mazda CX-5 มาพร้อมขุมพลังสกายแอคทีฟ ที่มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่
- เครื่องยนต์ SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถตอบสนองต่ออัตราเร่งได้อย่างดีเยี่ยม ให้พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิกไดเร็คอินเจ็คชั่น รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 13.9 กิโลเมตร/ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- เครื่องยนต์ SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร หรือเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว ทั้งแรงและประหยัด ให้กำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD รวมถึงระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 15.9 กิโลเมตร/ลิตร ได้รับการรับรองมาตรฐานการปล่อยไอเสียระดับ Euro5 และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
New Mazda CX-5 จะมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่สีขาว สโนเฟลก ไวท์ เพิร์ล Snowflake White Pearl, สีดำ เจ็ท แบล็ค Jet Black, สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู Deep Crystal Blue, สีเทา แมชชีน เกรย์ Machine Gray, สีแดง โซล เรด คริสตัล Soul Red Crystal, สีเทา โพลี เมทัล เกรย์ Polymetal Gray (สีใหม่) และ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ Platinum Quartz (สีใหม่)
โดย Mazda CX-5 โฉมไมเนอร์เชนจ์ ดีไซน์ใหม่ จะได้รับการเปิดตัว และประกาศราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 28 พฤศจิกายน นี้ ที่ภายในงาน Motor Expo 2024
ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออมา ทางทีมงาน Autostation.com จะรีบนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง