Mazda CX-8 2022 รถครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยม รุ่น Minorchange ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาที่ปรับเปลี่ยนใหม่ พร้อมความสะดุดตาด้วยเฉดสีใหม่ Platinum Quartz / Polymetal Grey เบาะที่นั่งมีให้เลือกทั้ง 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ขุมพลังยังมาทั้งแบบเบนซิน 2.5 ลิตร และดีเซล 2.2 เทอร์โบ พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense เคาะราคา 1.549 – 2.199 ล้านบาท
Mazda เดินหน้าบุกตลาดรถครอบครัวขนาดใหญ่ เปิดตัวแนะนำ Mazda CX-8 2022 รถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์สุดหรูแบบ 3 แถว มาพร้อมแนวคิด “THE PRECIOUS MOMENTS TOGETHER” ให้ทุกช่วงเวลามีคุณค่าร่วมกัน ปรับโฉมใหม่ให้หรูหรามากยิ่งขึ้น ใส่อุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจนล้นคัน ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้น ขยับราคาเพิ่มขึ้นแค่ 2 หมื่นบาท
Mazda CX-8 2022 รุ่น Minorchange ใหม่ จะมีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ประกอบไปด้วย 2.5 S, 2.5 SP, 2.5 SP EXCLUSIVE ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล จะมี 2 รุ่นได้แก่รุ่น XDL และ XDL EXCLUSIVE
ในด้านงานออกแบบจะถูกตกแต่งให้แตกต่างกันไปแต่ละรุ่นย่อย แต่ทั้งหมดยังยังได้รับการออกแบบในสไตล์ โคโดะ ดีไซน์ ที่ถ่ายทอดความงามที่อยู่เหนือกาลเวลา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ที่เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม บ่งบอกสไตล์พรีเมียม และรสนิยมเหนือระดับ ผสานกับเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัย
ยกระดับความหรูหราด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สี Gun Metallic ที่จะเดิมเป็นเส้นโครเมียมวางแนวนอนซ้อนกัน ส่วนกระจังใหม่จะเป็นลายตะแกรงโครเมียม ที่ดูหรูหราและพรีเมียมมากกว่าเดิม พร้อมกับตกแต่งบริเวณชายกันชนหน้าด้วยเส้นโครเมียม ด้านล้ออัลลอยเป็นดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้วในทุกรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือกทั้งห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และแบบ 6 ที่นั่ง แบบใหม่ โดยได้รับการยกระดับให้ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว และเพิ่มพื้นที่ให้กับทุกคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น
โดยในรุ่น 6 ที่นั่ง มาพร้อมกับ 2 ทางเลือก ได้แก่ ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat แยกอิสระซ้าย ขวา Captain seats with center walk-through (6-Seat) ที่สามารถเดินเชื่อมได้ถึงเบาะนั่งแถวที่สาม
และห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat ปรับไฟฟ้า Power captain seats (6-Seat) พร้อมคอนโซลกลาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละครอบครัวได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางนั่งสบายในทุกตำแหน่ง และมาพร้อมระบบระบายอากาศเบาะนั่งคู่หน้า ที่ช่วยระบายอากาศและความชื้น ทำให้เพิ่มความสบายให้กับผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง 
พร้อมกับยังได้ตกแต่งเด้วยวัสดุคุณภาพสูงแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ Warm Silver ที่มาพร้อมเบาะหนังสีดำ หรือวัสดุ Metal Wood ที่มาพร้อมเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red สะท้อนความหรูหราเหนือระดับยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังได้ยกระดับความสะดวกสบายเพื่อเติมความสุขให้กับผู้โดยสารทุกคนตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ สามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่ง ข้อความ จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth และเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลด้วย Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android AutoTM ที่เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ที่จัดวางในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และ USB สำหรับชาร์จไฟบริเวณเบาะนั่งแถวที่ 3 ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในรถรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี และหลังคาซันรูฟ (มีเฉพาะในรุ่นท็อป) และระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
ในด้านระบบความปลอดภัย ยังอัดแน่นไปด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันที่ล้ำสมัย i-Activsense รอบคัน ให้ความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถอเนกประสงค์ในระดับเดียวกันอาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง , ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน, ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ และกล้องรอบคัน 360°
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง Stop & Go ซึ่งถือว่ารถรุ่นแรกของทาง Mazda ในประเทศไทยที่มีการติดตั้งระบบนี้
อัตโนมัติ i-ACTIV AWD
ส่วนอีกขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.5 ให้พละกำลังถึง 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 13.2 กม./ลิตร
นอกจากนั้นในทกรุ่นย่อยยังมาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีภายใต้ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะในทางโค้งและในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น
Mazda CX-8 2022 นอกจากจะมี 2 สีใหม่อย่าง สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ Platinum Quartz และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ Polymetal Gray ยังมี สีแดง โซล เรด คริสตัล Soul Red Crystal, สีเทา แมชชีน เกรย์ Machine Gray, สีดำ เจ็ท แบล็ก Jet Black, สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู Deep Crystal Blue และ สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล Snowflake White Pearl
สำหรับราคาจำหน่ายของ Mazda CX-8 2022
- รุ่น 2.5 S ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) ราคา 1,549,000 บาท
- รุ่น 2.5 SP ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) ราคา 1,619,000 บาท
- รุ่น 2.5 SP EXCLUSIVE ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat แยกอิสระซ้าย-ขวา (Captain seats with center walk-through (6-Seat) ราคา 1,699,000 บาท
- รุ่น XDL ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) ราคา 1,849,000 บาท
- รุ่น XDL EXCLUSIVE ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain Seat ปรับไฟฟ้า (Power captain seats (6-Seat) ราคา 2,199,000 บาท
