in , ,

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition รุ่นแต่งพิเศษ อำลาเครื่องยนต์ V8 ใน E-Class

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition รุ่นแต่งพิเศษ สั่งลาขุมพลัง V8 ใน E-Class ที่ทั่วโลกมี 999 คัน ลงตลาดขายในญี่ปุ่น 50 คัน เท่านั้น

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

หลังจากที่ทาง Mercedes-Benz ได้เตรียมปลดระวางขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ใน E-Class แล้วหันไปใช้เครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ในรุ่นปัจจุบัน

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งท้ายความยิ่งใหญ่ของขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ทางเมเซอร์เดสเบนซ์ จึงได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ Mercedes-AMG E 63 S Final Edition ที่มาพร้อมการตกแต่งพิเศษเพื่อฉลองและส่งท้ายขุมพลังตัวแรงบล็อกนี้ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2021 ที่ผ่านมา โดยในรุ่นพิเศษนี้ทางค่ายดาวสามแฉกได้ผลิตออกมาเพียง 999 คันทั่วโลก  ล่าสุดได้ตัดแล้วนำเข้ามาจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นในจำนวน 50 คัน

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

แต่ที่น่าสนใจของ E63 S Final Edition ทั้ง 50 คันที่วางจำหน่ายในแดนปลาดิบนี้ จะถูกแบ่งออกเเป็น รุ่นพวงมาลัยขวา 25 คัน และรุ่นพวงมาลัยซ้าย 25 คันเท่า ๆ กัน ซึ่งทาง Mercedes ไม่ได้บอกว่าทำไมถึงจำหน่ายรุ่นพวงมาลัยซ้ายด้วย เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขับรถพวงมาลัยขวา แต่คาดว่าน่าจะต้องการให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบการสะสมมากกว่า ที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

สำหรับ Mercedes-AMG E 63 S Final Edition จะมากับตัวถังสีพิเศษสีเทาด้าน Matt Graphite Grey Magno พร้อมกับติดลายกราฟิกแบบสปอร์ตและตราโลโก้พิเศษ AMG ที่บนเสา C

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชุดแต่ง AMG Night Package โดยเป็นการนำสีดำเงามาตกแต่งรอบคัน ทั้งช่องลมกันชน, คิ้วกระจกหน้าต่าง และ กระจกมองข้าง เสริมความสง่างามด้วยล้ออัลลอย AMG Forged ขนาด 20 นิ้ว  และท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมู

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

การตกแต่งพิเศษนอกจากเสริมความพิเศษที่ตัวถังภายนอกแล้ว ภายในห้องดโยสารก็ยังได้รับการตกแต่งด้วยเช่นกัน เริ่มจากเมื่อเปิดประตูเข้าไปภายใน ก็จะถูกต้อนรัยบด้วยไฟ LED ที่ฉายโลโก้ AMG ลงบนพื้น 

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

ขณะที่ภายในจะถูกตกแต่งพิเศษโดยในส่วนเบาะที่นั่งจะได้รับเบาะ AMG Performance ทรงสปอร์ตปรับด้วยระบบไฟฟ้า ตัวเบาะหุ้มด้วยหนัง Nappa สีดำ พร้อมผ้า microfibre DINAMICA เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีเหลือง มาพร้อมพวงมาลัยเป็นแบบ AMG Performance 

นอกจากนั้นยังถูกตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งที่คอนโซลหน้า และคอนโซลกลางมาพร้อมพรมปูพื้นแบรนด์ AMG ปิดท้ายด้วยแผ่นเพลทที่ระบุชื่อ AMG FINAL EDITION และ ลำดับหมายเลขการผลิต ที่ติดอยู่ใต้ช่องแอร์ที่คอนโซลหน้า 

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

ในด้านพละกำลังของ Mercedes-AMG E 63 S Final Edition ยังคงเดิมกับมากับเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 603 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแปรผัน 4Matic+ 

Mercedes-AMG E 63 S Final Edition

สำหรับ Mercedes-AMG E63 S Final Edition ในตลาดญี่ปุ่นจะมีวางจำหน่ายเพียง 50 คันจาก 999 คันทั่วโลก พร้อมถูกเปิดราคาจำหน่ายไว้ที่  24,470,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 6.4 ล้านบาท (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้า)