เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยเปิดตัว EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic ยนตกรรมไฟฟ้าซีดานคุเป้ ในตระกูล AMG รุ่นแรกในตลาดเมืองไทย เคาะราคาจำหน่ายที่ 5,950,000 บาท
โดย Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% สมรรถนะสูงจากตระกูล AMG ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก EQE โดยจะมากับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง Ultra-lightweight high-performance battery ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Mercedes-AMG และนำมาพัฒนาร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจากรถที่ใช้ในการแข่งขัน FORMULA 1® ของทีม Mercedes-AMG Petronas F1 ส่งผลทำให้ EQE 53 4MATIC+ มีพละกำลังดเหมือนกับรถแข่งในสนาม
โดยในด้านพละกำลังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanently Excited Synchronous Motors ให้กำลัง 625 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม.
มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ AMG Performance 4MATIC+ ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่งกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างหลากหลาย รวมถึงการส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังเพียงอย่างเดียวเพื่อการขับขี่ในรูปแบบ Drift ได้
ชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบลิเธียมไอออนที่ขนาด 90.6 kWh ให้แรงดันไฟสูงสุด 328 โวลต์ ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 526 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง DC สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 80% เพียง 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 22 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 4 ชม. 45 นาที
พร้อมติดตั้งระบบเบรก AMG high-performance brake system ตกแต่งคาลิเปอร์เบรกด้วยสีแดงตามแบบฉบับของ AMG โดยด้านหน้าเป็นคาลิเปอร์แบบ 6-piston ส่วนด้านหลังเป็นแบบ single-piston
อีกทั้งยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT ได้ทั้งหมด 5 รูปแบบตามความเหมาะสม โดยที่มีการส่งกำลังในระดับที่ต่างกัน เริ่มตั้งแต่โหมด Slippery, Comfort, Sport, Sport+ และ RACE START
ดีไซน์ภายนอกมากับชุดแต่ง AMG Exterior Package สีดำ High-gloss กระจังหน้าสีดำ AMG และกันชนแบบสปอร์ต ติดตั้งไฟหน้า DIGITAL LIGHT แบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่ส่องสว่างไกลกว่า 600 เมตร
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เปิด – ปิดได้ด้วยไฟฟ้า, ล้ออัลลอย AMG Y-Spoke wheel ขนาด 21 นิ้ว ระบบกันสะเทือน และช่วงล่างแบบ AMG RIDE CONTROL+ รองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่สามารถทำมุมเลี้ยวได้สูงสุดถึง 3.6 องศา
มาพร้อมระบบถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์ AMG SOUND EXPERIENCE ทำงานผ่านลำโพงรูปแบบพิเศษ พร้อมเครื่องสั่นและเครื่องกำเนิดเสียง เพื่อความเร้าใจทั้งในโหมด RACE START และระหว่าง Dynamic Curve Sections โดยสามารถปรับความดังและรูปแบบของเสียงได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ Balanced, Sport และ Powerful
ภายในห้องโดยสารจะได้รับเบาะนั่งแบบ AMG Sport Seats ที่มีลวดลายเฉพาะรุ่น AMG, พวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel หุ้มหนัง Nappa
หน้าจอแสดงผลบริเวณแผงคอนโซลกลาง MBUX Hyperscreen ขนาด 56 นิ้ว แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบไปด้วย หน้าจอ OLED ตรงกลางขนาด 17.7 นิ้ว หน้าจอฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ LED แสดงผลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว โดยสามารถแสดงผลในโหมด AMG ได้โดยเฉพาะ พร้อมจอแสดงผลแบบ Head-up Display และยังมี AMG Track Pace ให้ผู้ขับขี่สามารถวัดสมรรถนะความเร็วของรถยนต์
อีกทั้งยังติดตั้งระบบนำทาง MBUX augmented reality, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC 4 โซน, ระบบฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL และระบบชาร์จไร้สายสำหรับที่นั่งด้านหน้า, ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system และเทคโนโลยี Dolby Atmos®
สำหรับเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย มากับกล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving assistance package อาทิ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน, ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา และระบบช่วยการทรงตัวและดึงรถกลับเข้าช่องจราจร ฯลฯ
Mercedes-Benz เปิดราคาจำหน่ายของ Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ 2024 ใหม่ อยู่ที่ 5,950,000 บาท
