นอกเหนือจาก Mercedes-AMG G 63 ที่ทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้นำเข้ามาเปิดตัวในไทยแล้วก็ยังได้นำตัวโหดอย่าง Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ หนึ่งในรถสปอร์ตตัวแรงของทาง AMG มาเปิดวางจำหน่ายในไทยด้วย โดยเคาะราคาเริ่มไว้ที่ 15,900,000 บาท
สำหรับ Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ จัดเป็นยนตรกรรมเรือธงในตระกูล GT เจเนอเรชันที่ 2 ของแบรนด์ Mercedes-AMG โดยครั้งนี้กลับมาเปิดตัวในประเทศไทย ด้วยรหัสตัวถัง C192
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ถูกรังสรรค์ภายใต้แนวคิด “One Man, One Engine” มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo และติดตั้งในตำแหน่งอันเป็นเอกลักษณ์แบบ hot inside “V” ทำให้เครื่องยนต์สามารถรีดกำลังแรงม้าลงพื้นออกได้มากถึง 585 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตันเมตร
พร้อมมีการติดตั้งระบบส่งกำลัง AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sport Transmission ที่สามารถรองรับแรงบิดได้สูง ตอบสนองทุกรูปแบบการขับขี่ และเปลี่ยนเกียร์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม.ภายในเวลาเพียง 3.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 315 กม./ชม.
โดยรถสปอร์ตตัวแรงรุ่นนี้ได้ถูกปรับแต่งระบบควบคุมเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะและการตอบสนองของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการควบคุมระบบอัดอากาศให้เหมาะสมตามการขับขี่ และตกแต่งฝาครอบเครื่องยนต์ด้วยลายเซ็นของผู้ประกอบที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ของ AMG
นอกจากนั้นยังมีสมรรถนะการขับขี่ในสนามแข่งที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบทั้งระบบฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ให้สามารถทำงานร่วมกันอย่างลงตัว รวมถึงระบบ RACE START ในจังหวะออกตัวเพื่อการทำอัตราเร่งที่ดีที่สุด
ในขณะที่ระบบขับเคลื่อน AMG Performance 4MATIC+ ก็ได้ถูกปรับจูนมีให้การตอบสนองการใช้งานให้สามารถเข้าโค้งได้ปลอดภัย และรวดเร็วโดยไม่เสียการควบคุม ด้วยการกระจายกำลังที่ถูกสั่งการจากระบบต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและแม่นยำตามสถานการณ์ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถทำเวลาในสนามแข่งได้ดีที่สุด รวมถึงเบรกสมรรถนะสูงที่ออกแบบโดย Mercedes-AMG ที่มาพร้อมระบบเบรกแบบ Sports Braking System และช่องระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของเบรกเมื่อมีการใช้งานในความเร็วสูง
สามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยระบบช่วยเหลือการควบคุมการเลี้ยวล้อหลังแบบ AMG Rear-Axle Steering โดยระบบจะทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ไป ด้วยการใช้ล้อหลังเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกันกับล้อหน้า ไม่เกิน 0.7° หากต่ำกว่า 100 กม./ชม. จะเลี้ยวตรงกันข้ามกับล้อหน้า ไม่เกิน 2.5°
ส่วนช่วงล่างติดตั้งระบบ AMG RIDE CONTROL Sports Suspension รองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเพื่อความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง โดยผู้ขับขี่สามารถปรับระบบการทำงานของช่วงล่างได้มากถึง 3 ระดับ ได้แก่ Comfort, Sport และ Sport+ ระบบจะช่วยปรับบุคลิกของช่วงล่างให้เป็นไปตามโหมดที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ ผ่านหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลาง หรือปุ่มบริเวณพวงมาลัย
อีกทั้งยังเติมเต็มประสบการณ์แห่งความสปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยระบบถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์ และเทอร์โบแบบ AMG Real Performance Sound โดยระบบจะแสดงเสียงภายในห้องโดยสารบริเวณคอนโซลกลาง สามารถถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์ได้อย่างเร้าใจตามแบบฉบับของ AMG ผู้ขับขี่สามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Sporty, Discreet (BALANCED), Motorsporty และ Emotive (POWERFUL) สามารถเลือกโหมดผ่านระบบปรับรูปแบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT โดยในโหมด S และ S+ จะสามารถถ่ายทอดพลังเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในด้านงานดีไซน์ภายนอกของ Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ มีลักษณะตัวถังแบบ Wide Body ด้วยมิติความกว้างถึง 2 เมตร สะท้อนดีเอ็นเอของรถมอเตอร์สปอร์ตที่ขับขี่ได้จริง ติดตั้งกระจังหน้าแบบ AMG-specific radiator grille with V8 Exterior Styling Package และไฟหน้า DIGITAL LIGHT นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัย Driving Assistance Package ที่รวมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง และกล้องรอบคัน 360 องศา ที่จะแสดงภาพมุมมองรอบทิศทางแบบ Real-time เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้
ขณะที่งาายออกแบบภายในห้องโดยสารของ Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX7 กับหน้าจอตรงกลางขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมด้วยระบบสัมผัส และสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้า 12° ถึง 32° พร้อมหน้าจอ Driver’s display ขนาด 12.3 นิ้ว แบบ AMG-specific indicators พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel และเบาะหลังที่พับพนักพิงได้ในรถยนต์แบบ 2+2 ที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ ที่จะถูกนำเข้ามาจัดจำหน่ายในเมืองไทยจะมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีเหลือง Sun Yellow / สีดำ Obsidian Black / สีเงิน High-tech Silver / สีเทา Selenite Grey / สีน้ำเงิน Spectral Blue / สีขาว MANUFAKTUR Opalite White Bright และสีแดง MANUFAKTUR Patagonia Red Bright
โดยทาง Mercedes-Benz ประเทศไทยเปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นไว้ที่ 15,900,000 บาท