หลัวจากที่เมื่อราว ๆ กลางปี 2024 ทาง Mercedes ได้ปล่อยตัวแรงอย่าง Mercedes-AMG GT 63 S E Performance ในรุ่นตัวถังคูเป้ออกมา พอมาในช่วงต้นปี 2025 ทางค่ายตราดาวจากเยอรมนีก็ได้ฤกษ์เผยโฉม Mercedes-AMG GT 63 S E Performance ในตัวถังซีดานคูเป้ท้ายลาด ตามออกมาอีกหนึ่งรุ่น
โดยในรุ่นใหม่นี้จะมีการมีการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่จากตัวเดิมเมื่อปี 2023 โดยรายละเอียดตัวรถจะเหมือนกับในรุ่นตัวถังคูเป้
ในส่วนของกระจังหน้าจะมีขนาดใหญ่ โดยที่ขอบด้านล่างจะมีแถบสีดำที่ดูหนา ราวกับว่ารถกำลังทาลิปสติกสีดำอยู่ มาพร้อมช่องรับอากาศที่ปรับขนาดให้เล็กลง
ในส่วนด้านข้างตัวรถจะได้รับการติดตั้งสัญลักษณ์ E Performace บริเวณแก้มด้านข้าง โดยวางอยู่ด้านล่างป้ายบอกสมถรรนะที่มากับเครื่องยนตฺ์ V8 BITURBO
ส่วนชุดล้อจะเป็นล้ออัลลอย AMG Multi-spoke มีให้เลือกทั้งขนาด 20 และ 21 นิ้ว และลูกค้าสามารถเลือกล้อสีดำ และแบบปัดเงา นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเบรกที่เป็นแบบคาร์บอนเซรามิกมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมคาลิปเปอร์แบบ 6 ลูกสูบที่ด้านหน้าและจานเบรกขนาด 16.5 นิ้ว ขณะที่ด้านหลังเลือกใช้คาลิปเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยวพร้อมจานเบรกขนาด 15.0 นิ้ว
ส่วนที่ด้านท้ายจะมากับชุดท่อไอเสียคู่แยกซ้าย-ขวา รวมทั้งยังมากับสปอยเลอร์ที่ยกขึ้นลงด้วยไฟฟ้า โดยจะออกแบบให้ราบไปกับด้านท้ายรถ นอกจากนั้นยังมีช่องชาร์จไฟอยู่ที่ด้านหลัง ที่อยู่ใต้ชุดไฟท้ายฝั่งขวา
ภายในห้องโดยสารจะมีการปรับปรุงเน้นความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น มาในโทนสีดำ-แดง มาพร้อมพวงมาลัย AMG Performance ที่หุ้มด้วยหนังสีแดง และหน้าจอคู่ขนาดใหญ่ที่มากับซอฟต์แวร์ MBUX เวอร์ชันล่าสุด
ในด้านพละกำลังใต้ฝากระโปรงยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซินรูปแบบ V8 4.0 ลิตร BITURBO ที่จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่วางอยู่ล้อหลังให้กำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะให้พละกำลังที่มากถึง 831 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 1,400 นิวตันเมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ไปยังล้อทั้ง 4 ด้วยระบบขับเคลื่อน AMG Performance 4MATIC+ ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 2.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 317 กม./ชม.
ด้านชุดแบตเตอรี่จะมีขนาด 6.1 kWh ซึ่งจะช่วยให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุดประมาณ 140 กม./ชม. ถึงแม้ Mercedes-Benz จะไม่ได้ระบุระยะทางด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่บริษัทได้เคลมว่าแบตเตอรี่นี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพด้านพละกำลังมากกว่าความประหยัด ให้สมกับชื่อชั้นของ AMG Performance
ในด้านราคาจำหน่ายทาง Mercedes-AMG ยังไม่ได้เปิดเผยราคาออกมาตอนนี้ แต่คาดว่าน่ามีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ราว 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ประมาณ 6.7 ล้านบาท