in , , ,

Merecdes-Maybach S 580 e อัครยานยนต์หรูรุ่นประะกอบไทยขุมพลัง PHEV ราคา 11.2 ล้านบาท

Merecdes-Maybach S 580 e ยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury รุ่นประกอบในประเทศ ตัวถังสีทูโทน ขุมพลัง PHEV กับราคาเริ่มที่ 11.2 ล้านบาท

Merecdes-Maybach S 580 e

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดตัวยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับ
ไฮเอนด์ Mercedes-Maybach S 580 e รุ่นประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมกับตัวถังสีทูโทน ที่มาพร้อมขุมพลังแบบ Plug-in Hybrid ที่วิ่งได้ไกลกว่า 100 กม. ตามมาตรฐาน WLTP

Merecdes-Maybach S 580 eสำหรับ Mercedes-Maybach S 580 e ยนตรกรรมระดับไฮเอนด์ลักชัวรีรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ถือว่าเป็นรถยนต์รุ่นแรกของทาง Mercedes-Maybach ที่ขึ้นไลน์ผลิตตัวถังสีทูโทนแบบ Local Production ในไทย 

Merecdes-Maybach S 580 e

Merecdes-Maybach S 580 e

ในด้านงานดีไซน์ภายนอกโดดเด่นสง่างามพร้อมสะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น เริ่มจากกระจังหน้าโครเมียมแบบ Radiator grille และตราสัญลักษณ์ Maybach อันเป็นเอกลักษณ์ ล้อมรอบด้วยกระจกแบบ laminated glass ช่วยสะท้อนความร้อน ป้องกันรังสีอินฟาเรด และเสียงสะท้อนจากภายนอก 

Merecdes-Maybach S 580 e

Merecdes-Maybach S 580 e

มาพร้อมไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist Plus ผสานการทำงานด้วยระบบปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย Active Light System ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light

Merecdes-Maybach S 580 e

Merecdes-Maybach S 580 e

ขณะที่ชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่พิเศษแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี fibre-optic ในส่วนของช่วงล่าง มีการติดตั้งล้อ MAYBACH แบบ forge wheels ขนาด 20 นิ้ว และระบบกันสะเทือนแบบถุงลมเพื่อช่วงล่างที่นุ่มนวล สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ความเร็ว และการบรรทุกสัมภาระได้อย่างอัตโนมัติ ให้ทุกการขับขี่เป็นไปอย่างสะดวกสบายและเหนือระดับในทุกสภาพถนน

Merecdes-Maybach S 580 e

ภายในห้องโดยสารแผงคอนโซลกลางแบบ black crystal-look finish พร้อมหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลาง OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มด้วยหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control

Merecdes-Maybach S 580 e

เบาะนั่งดีไซน์หรูหราหุ้มหนัง Exclusive Nappa ตกแต่งแบบ diamond design และระบบนั่งด้านหลังแบบ First-Class พร้อมฟังก์ชันการนวด ที่สามารถเปลี่ยนทุกความเหนื่อยล้าให้เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย

Merecdes-Maybach S 580 e

นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE ฟังก์ชันปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ระบบฟอกอากาศแบบ HEPA filter และระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM 2.5 เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พร้อมตกแต่งบริเวณโครงหลังคาอย่างปราณีตด้วย DINAMICA microfibre คุณภาพสูง 

Merecdes-Maybach S 580 e

ในด้านระบบความบันเทิงมากับระบบ MBUX Interior Assistant รวมถึงระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX ที่เชื่อมต่อ music streaming service ระบบแผนที่นำทาง และระบบตรวจสอบสภาพการจราจร Live Traffic Information มาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D ผสานการกับชุดไฟ Ambient lighting ที่ปรับได้มากถึง 64 เฉดสี ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึง 2 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ สี twinkle-star และสี rosé gold ที่มีเฉพาะในยนตรกรรมจาก Mercedes-Maybach เท่านั้น 

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับโปรแกรมการขับขี่แบบ “Maybach” ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความผ่อนคลายขณะเดินทางให้แก่ผู้โดยสารด้านหลังโดยเฉพาะ โดยจะเน้นการเคลื่อนที่ของระบบช่วงล่าง และควบคุมแรงสั่นสะเทือนของรถยนต์เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มสบายที่สุด 

Merecdes-Maybach S 580 e

ในขณะเดียวกันก็สามารถปรับการควบคุมคันเร่งเพื่อการออกตัวอย่างนุ่มนวล ในขณะที่โปรแกรมการขับขี่แบบ “COMFORT” ก็จะช่วยมอบสมดุลแห่งการขับขี่อันสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังมีอีกหลากหลายโหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการด้วยระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT

สำหรับเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยนั้น จัดเต็มพิกัดตามแบบฉบับรถยนต์ระดับไฮเอนด์ลักชัวรี ไม่ว่าจะเป้นระบบระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance package, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน, ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและเตือนเมื่อปล่อยมือ และระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist ฯลฯ นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบช่วยจอด Active Parking Assist with PARKTRONIC มาพร้อมกล้อง 360° 

Merecdes-Maybach S 580 e

ด้านพละกำลังจะมากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 6 สูบ พร้อมเทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 367 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม ในเวลา 5.7 วินาที ด้านความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 250 กม./ชม.

Merecdes-Maybach S 580 e

ส่วนชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบ Lithium-ion ที่มีขนาด 28.6 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลกว่า 100 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP 

Merecdes-Maybach S 580 e

รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง DC สูงสุด 60 kWh ใช้เวลา 30 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จ 2 ชม.30 นาที

Merecdes-Maybach S 580 e

สำหรับราคาจำหน่ายของ Mercedes-Maybach S 580 e ตัวถังสีทูโทน (two-tone paint – obsidian black / high-tech silver) รุ่นประกอบในประเทศทาง Mercedes-Benz ประเทศไทย เปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ 11,200,000 บาท