หลังจากที่ทางเอ็มจีได้เปิดวางขาย NEW MG CYBERSTER ไป และได้เปิด CYBERSTER เวอร์ชั่นรุ่นพวงมาลัยขวา ไปในบ้านเราไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
ล่าสุดทาง MG ก็ได้มีการเผยโฉมอีกร่างหนึ่งของสปอร์ตคูเป้ไฟฟ้าออกมาที่ในงาน Goodwood Festival of Speed โดยใช้ชื่อว่า MG Cyber GTS Concept หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือ Cyberster ที่เป็นเวอร์ชั่นหลังคาแข็ง
สำหรับการเปิดตัว MG Cyber GTS Concept รถต้นแบบใหม่คันนี้ถือเป็นหนึ่งในวาระฉลองครอบรอบ 100 ปี ของทางแบรนด์
ในด้านงานออกแบบของ MG Cyber GTS Concept จะใช้ตัวถังร่วมกับ Cyberster เวอร์ชันเปิดประทุนหลังคาผ้า ด้านหน้าตัวรถยกดีเทลของ Cyberster มาทั้งชุด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกันชนหน้า, ชุดไฟหน้า, ชายล่างด้านข้าง แม้แต่กันชนท้าย, ไฟท้าย และชุดล้อ
แต่ส่วนที่แตกต่างเปลี่ยนไปก็คือ เจ้า Cyber GTS Concept คันนี้จะได้รับการออกโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวแข่ง MGC GTS Sebring ซึ่งเป็นรถแข่งที่ทาง MG ที่ถูกสร้างขั้นมาเมื่อในปี 68 ดังนั้นมันจีงเหมือนเป็นการนำ Cyberster มาต่อเติมโครงหลังคา แล้วใส่หลังคาแบบแข็ง และกระจกบานหลังขนาดใหญ่เข้าไป ทำให้ตัวรถกลายเป็นรถคูเป้ฟาสท์แบ็ค ที่มีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
นอกจากนั้นในส่วนด้านท้ายยังออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับสปอยเลอร์ Duck Trail ในตัว พร้อมตีตราโลโก้ MG ไว้ที่บนฝากระโปรงหลัง ขณะที่ส่วนอื่น ๆ นั้นเหมือนกับในเวอร์ชั่นหลังคาผ้าทั้งหมด
ในด้านพละกำลังทาง เอ็มจี ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคออกมา เพียงแต่บอกว่ารถต้นแบบคันนี้จะถูกขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% และเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งก็จะเหมือนกับเวอร์ชั่นหลังคาผ้า จึงคาดเดาได้ว่าทั้งสองรุ่นอาจมีสเปกที่เหมือนกัน
โดย Roadster นั้นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีให้เลือกทั้งแบบ RWD มากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลัง 250 kW (340 แรงม้า) ในรุ่น AWD ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลัง 400 kW (544 แรงม้า) มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 77 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ไกล 501 และ 580 กม.
นอกจากนั้นรายละเอียดภายในห้องโดยสารก็ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ก็คาดเดาว่าคงจะมีรายละเอียดที่ใกล้เคียง หรือเหมือนกับสเปกหลังคาผ้า
สำหรับ MG Cyber GTS Concept คาดว่าอาจจะถูกพัฒนาให้กลายมาเป็นเวอร์ชันจำหน่ายยจริงในอนาคต เพราะดูจากรูปลักษณ์ที่แถบไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจาก Cyberster ที่มีวางขายอยู่ในปัจจุบันเลย รวมทั้งถ้าหากมีกระแสตอบรับที่ดี เราอาจจะได้เห็นเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงในเร็ววันนี้ ซึ่งทางนักข่าวในประเทศจีนคาดการณ์ว่าอาจจะเปิดตัวในปี 2025 นี้ก็เป็นไปได้