in , ,

MG Cyberster Red Top Edition รุ่นพิเศษหลังคาแดง แต่งสไตล์ย้อนยุค ผลิตเพียง 100 คัน

MG Cyberster Red Top Edition รุ่นพิเศษมีแค่ 100 คัน ตกแต่งสไตล์ย้อนยุค เหมือนกับรถรุ่นดังในอดีต ด้วยหลังคาผ้าสีแดง ผลิตออกมาเพียง 100 คัน กับราคาที่สูงถึง 365,800 หยวน หรือราว ๆ 1.83 ล้านบาท

MG Cyberster Red Top Edition

หลังจากที่ทาง MG ได้เปิดตัว MG Cyberster รถสปอร์ตไฟฟ้าแบบเปิดประทุน ที่ในงาน Guangzhou Auto Show 2023 เมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2023 ที่ผ่านมา โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่น เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 319,900 – 359,800 หยวน หรือประมาณ 1.6 – 1.8 ล้านบาท 

MG Cyberster Red Top Edition

ล่าสุดทาง SAIC ก็ได้เสริมทัพโดยส่งรุ่นพิเศษของ MG Cyberster ลงสู่ตลาดในเมืองจีน โดยใช้ชื่อรุ่นว่า MG Cyberster Red Top Edition และจะผลิตออกมาเพียง 100 คัน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของทางแบรนด์เอ็มจี

MG Cyberster Red Top Edition

MG Cyberster Red Top Edition

สำหรับความพิเศษของ MG Cyberster Red Top Edition นั้น จะมากับตัวถังสีเบจ มาพร้อมกับหลังคาผ้าสีแดง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นดังในอดีตอย่าง MGA, MGB และ MG Magnette 

MG Cyberster Red Top Edition

ส่วนห้องโดยสารจะถูกตกแต่งด้วยโทนสีแดงเข้ม เบาะที่นั่งถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa สีแดง แผงคอนโซลกลางถูกตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ 

MG Cyberster Red Top Edition

ขณะที่แผงแดชบอร์ดนั้นยังคใมากับแผงหน้าปัดแบบโค้งกว้าง ที่จะเป็นการรวมกันของหน้าแสดงข้อมูล และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ ถึง 3 จอด้วยกัน รวมทั้งพวงมาลัยมีแป้นเปลี่ยนเกียร์สำหรับเปลี่ยนโหมด

MG Cyberster Red Top Edition

ในด้านพละกำลังของ MG Cyberster Red Top Edition คาดว่าไม่ต่างอะไรจากรุ่นปกติ ที่จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ ให้กำลังสูงสุดรวม 544 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 77 kWh ที่ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 520 กม./ชาร์จ มาตรฐาน CLTC

MG Cyberster Red Top Edition

MG Cyberster Red Top Edition

MG Cyberster Red Top Edition

สำหรับ MG Cyberster Red Top Edition นั้นจะเป็นรุ่นผลิตที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน เพื่อให้สอดคล้องกับการเฉลิมฉลองในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีที่ MG มีอายุครบ 100 ปี ขณะที่สนนราคาค่าตัว จะแพงกว่ารุ่นท็อปสุดเล็กน้อย โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 365,800 หยวน หรือตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ  1.83 ล้านบาท ส่วนกำหนดการส่งมอบคาดว่าจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2024