หากคุณคิดว่าโรดสเตอร์ 2 ที่นั่งอย่าง Cyberster ของทางเอ็มจี ดูสปอร์ตปราดเปรียวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณอาจจะต้องลองคิดใหม่อีกครั้ง เพราะล่าสุดทาง SAIC เจ้าของทางแบรนด์ MG เตรียมเรียกเสียงฮือฮาที่ภายในงาน Auto China 2024 หรืองาน Beijing Auto Show 2024 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 เม.ย. นี้ ด้วยการเปิดตัว MG EXE181 รถต้นแบบไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าสุดล้ำ
โดย MG EXE181 Concept Car EV ตัวใหม่คันนี้ จะมากับดีไซน์ที่สุดล้ำ ที่ดูเหมือนกับยานอวกาศ หรือหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไซไฟจากฮอลลีวูด ตัวรถจะเป็นแบบทีนั่งเดียว มาพร้อมงานออกแบบที่เน้นความลู่ลมโดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.181cd

งานดีไซน์ของตัวรถ MG EXE181 Concept นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถทดลองความเร็วสูง MG EX181 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1959 ตัวรถจะมาในรูปแบบแคปซูล ด้านหน้าดีไซน์ด้วยวัสดุแบบโปร่งใส ทำให้เห็นด้านในห้องโดยสาร รวมถึงเห็นไปย้งระบบกันสะเทือนช่วงล่างของตัวรถ
มาพร้อมบังโคลนหน้า-หลังขนาดใหญ่ที่ดีไซน์เด่นชัด ขณะที่ชุดล้อมากับฝาครอบล้อดีไซน์ล้ำสมัย และออกแบบส่วนท้ายที่มาพร้อมลาดเทลู่ลม เพื่อให้คล้องคลองตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่น่าประทับใจอยู่ที่ 0.181cd
ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบที่นั่งเดียว เบาะที่นั่งดีไซน์กระชับตัว ตัวเบาะจะถูกหุ้มด้วยวัสดุผ้า มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยสีเขียวแบบ 4 จุด นอกจากนั้นยังจะได้รับพวงมาลัยทรง Yoke ที่มีปุ่มสั่งงานในตัว รวมทั้งตรงกลางจะเป็นหน้าจอแบบสัมผัสเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการสั่งงาน
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของต้นแบบไฟฟ้าของทาง MG ทางผู้ผลิตเผยเพียงว่าจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แต่ไม่มีการเผยเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพละกำลังออกมา เพียงแต่บอกว่า ต้นแบบไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าคันนี้จะสามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 1.9 วินาที เท่านั้น
ส่วนตัวเลขความเร็วสูงสุดของรถต้นแบบ ยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา แต่จากภาพมีการเบรก แล้วช้ร่มชูชีพกางเพื่อช่วยในการชะลอความเร็วนั้น แสดงว่าตัวรถจะมีความเร็วที่สูงมาก ซึ่งชวนให้นึกถึง MG EX181 รุ่นก่อน โดย EX181 ในตอยนั้นได้เคยสร้างมาตรฐานไว้ในปี 1959 ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 410 กม./ชม. โดยมีนักแข่งรถอย่าง Phil Hill เป็นผู้ขับขี่
สำหรับรถต้นแบบ MG EXE181 ทางเอ็มจี เตรียมที่จะนำไปจัดแสดงโชว์ตัวที่งานใงาน Beijing Auto Show 2024 ในปลายสัปดาห์นี้ ส่วนในอนาคตจะมีแผนผลิตเป็นเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงหรือไม่นั้น หรือจะเป็นเพียงการศึกษาการออกแบบเท่านั้น ต้องติดตามกันต่อไป