หลังจากที่ทาง MG ได้นำแบรนด์ IM Motor มาทำตลาดนอกประเทศจีน พร้อมกับได้ปรับเปลี่ยนใหม่อย่าง IM LS6 เอสยูวีไฟฟ้าในสไตล์ Fastback ท้ายลาด พอถูกมาตีตราเอ็มจีก็เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่มาเป็น MG IM6 โดยนอกจากเปิดวางจำหน่ายในไทยไปแล้วก็ยังนำไปวางขายที่ตลาดประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งในกรเปิดตัวที่ดินแดนจิงโจ้นั้นทางเอ็มจี ไม่ได้เปิดขายเพียงรุ่นเดียวกับเกี่ยวก้อย IM L6 รถยนตืไฟฟ้าที่มาในรูปแบบตัวถังซีดานมาอีกหนึ่งรุ่น โดยมาในชื่อใหม่ว่า MG IM5 ซึ่งนอกจากจะเปิดขายนชชาวออสซี่แล้ว ยังเตรียมที่จะทำตลาดในบ้านเราเมืองไทยช่วงปลายปีนี้
สำหรับ MG IM5 หรือ IM L6 ซีดานไฟฟ้าตัวใหม่นี้จะมีทั้งแบบรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว (RWD) และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (AWD) มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย โดยเปิดราคาจำหน่ายดังนี้
- IM5 Premium (75 kWh RWD) ราคา 60,990 ดอลลาร์ออสเตรเลียหรือประมาณ 1.29 ล้านบาท
- IM5 Platinum (100 kWh RWD) ราคา 69,990 ดอลลาร์ออสเตรเลียหรือประมาณ 1.48 ล้านบาท
- IM5 Performance (100 kWh AWD) ราคา 80,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.71 ล้านบาท
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ตัวรถของ MG IM5 หรือ IM L6 นั้นถูกถอดแบบมาจาก IM LS6 หรือ MG IM6 เกือบทั้งชุด ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบปิด ที่มาพร้อมชุดไฟหน้าทรงงหยดน้ำที่ให้อารมณที่พริ้วไหวโฉบเฉี่ยว มาพร้อมไฟ DRL รูปตัว L มีปรับเปลี่ยนในส่วนของเส้นสายลวดลายด้านหน้าที่จะมีช่องรับลมด้านล่างเชื่อมต่อยาวกับคิ้วรูปตัว C เสริมความหรูหราสปอร์ตด้วยคิ้วโครเมียมที่ชายสเกิร์ตด้านหน้า
ขณะที่ด้านข้างตัวรถนั้น ก็จะเหมือนกับในเวอร์ชั่นเอสยูวีที่เน้นความลู่ลม โดยมือจับประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ ประตูข้างเป็นแบบไร้กรอบ ด้านชุดล้อจะมีขนาด 19 นิ้ว AERODYNAMIC WHEELS ที่รัดดด้วยยาง 245/ 45 R19 ที่คู่ล้อหน้า ส่วนล้อหลังจะมีขนาดยางอยุู่ 275/ 40 R19 นอกจากนั้นยังมีล้อขนาด 20 นิ้ว SPORTY WHEELS รัดด้วยยาง 245/ 44 R20 ที่คู่ล้อหน้า ส่วนล้อหลังจะมีขนาด 275/ 35 R20 อีกทั้งยังเติมความสปอร์ตด้วยคาลิปเปอร์สีแดงที่ด้านใน
ส่วนที่ด้านท้ายจะถูกออกแบบให้หลังคามีความลาดเท เหมือนกับรถสไตล์คูเป้ Fastback ท้ายลาด มาพร้อมประตูท้ายขนาดใหญ่เปิดออกได้กว้าง นอกจากนั้ยังติดตั้งไฟท้าย LED ที่วางยาวเต็มความกว้างของรถ เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์แบบ Duck Trail
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาวอยู่ที่ 4,931 มม., ความกว้าง 1,960 มม. ความสูง 1,474 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,950 มม.
ภายในห้องโดยสารของ IM5 ซีดานไฟฟ้า ก็จะเหมือนกับในรุ่นตัวถังเอสยูวีคูเป้ ที่มาพร้อมกับความล้ำสมัย แผงคอนโซลหน้าจะได้รับการติดตั้งหน้าจอคู่ขนาดใหญ่ ที่รวมทั้งหน้าจอกลางแบบสัมผัส และแผงหน้าปัด เข้าไว้รวมกัน โดยมีขนาดยาวถึง 26.3 นิ้ว มาพร้อมระบบปฏิบัติการ IM OS2.0 ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295P รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดียทั้ง Apple CarPlay และ Android แบบไร้สาย มาพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะ IM OS
ด้านคอนโซลกลางจะถูกดีไซน์ให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหน้าในรูปแบบคัว T ด้านบนจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแนวตั้ง ขนาด 10.5 นิ้ว จะทำหน้าที่ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในตัวรถ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่ออกแบบให้วางในแบบแนวตั้งแบบเอียงโดยให้กำลังชาร์จไฟ 50W โดยสามารถชาร์ตสมาร์ตโฟนพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง
ในส่วนเบาะที่นั่งจะเป็นแบบ POPO ที่มาพร้อมแผ่นดูดแม่เหล็กที่ด้านหลังของเบาะหน้าสามารถใช้เพื่อยึดโทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือกระจกเพื่อให้ผู้โดยสารด้านหลัง ขณะที่เบาะหลังแบบพับแยกส่วน 60/40 ช่วยให้สามารถขยายได้มากขึ้นขณะบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ ปิดท้ายความหรูหราตามแบบฉบับรถจากเมืองจีนด้วยหลังคาแบบพาโนรามาขนาดใหญ่
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพงรอบทิศทาง 20 จตำแหน่ง, ชุดไฟ Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 256 เฉดสี, กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down, กระจกมองหลังแบบ Streaming Media Rearview Mirror, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกโซนอิสระ มาพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 และ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนของ MG IM5 ในตลาดออสซี่
- รุ่น IM5 Premium 75 kWh RWD มาพร้อมสถาปัตกรรม IGBT 400V จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 217 kW / 291 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ในเวลา 6.8 วินาที ท็อปสปีดจะอยู่ที่ 220 กม./ ชม. จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 75 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 550 กม. (NEDC)
- รุ่น IM5 Platinum 100 kWh RWD มาพร้อมสถาปัตกรรม Sic 800V จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 300 kW / 402 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ในเวลา 4.9 วินาที ท็อปสปีดจะอยู่ที่ 220 กม./ ชม จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 755 กม. (NEDC)
- รุ่น IM5 Platinum 100 kWh AWD มาพร้อมสถาปัตกรรม Sic 800V ติกดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลัง 200 kW / 268 แรงม้า ส่วนมอเตอรืไฟฟ้าครู่หลังให้กำลัง 302 kW /405 แรงม้า แรงบิด 802 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ในเวลา 3.2 วินาที ท็อปสปีดจะอยู่ที่ 268 กม./ ชม จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 625 กม. (NEDC)
โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมระบบรองรับ V2L (จ่ายไฟภายนอก 6.6 kW) นอกจากนั้นยังมีโหมดขับขี่ 6 แบบได้แก่ Eco, Comfort, Sport, Snow, Custom และ Super Eco มาพร้อมระบบเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ เพิ่มเสถียรภาพ
ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ Double Wishbone และด้านหลังแบบอิสระ Multi-Link มีระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อและพร้อมช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ (Intelligent Air Suspension) สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ
MG IM5 ที่เปิดวางจำหน่ายในตลาดออสซี่จะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 5 ได้แก่ สีขาว ATHENA WHITE, สีดำ ARES BLACK, สีเบจ RAPHAEL BEIGE, สีเทา REMBRANDT GREY และสีน้ำเงิน NEVIS BLUE ส่วน
ภายในห้องโดยสารจะมี 2 เฉดสีได้แก่ สีเบจ DOVER BEIGE และสีเทา HIGHLAND GREY
MG IM5 นอกจากจะเปิดวางขายในออสเตรเลียแล้ว ยังเตรียมที่จะมาทำตลาดในไทยต่อจาก MG IM6 ซึ่งคาดว่าจะเป็นในช่วงปลายปี 2568 นี้