จากภายในงาน MG DEALER CONFERENCE 2025 ทางเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ได้แถลงผลประกอบการหลังจากดำเนินธุรกิจในไทยไทยมา 10 ปี นั้นทางบริษัทได้ทำตัวเลขยอดขายรถสะสมกว่า 200,000 คัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้า และฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสู่การเติบโตในอนาคต
พร้อมกัน บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทย ยังวางแผนตั้งเป้ายกระดับแบรนด์ ทั้งผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขาย โดยตั้งเป้าขึ้นติดท็อป 3 ภายในทศวรรษที่ 2 นี้ให้ได้
โดยทาง MG ได้กำหนดทิศทาง และกลยุทธ์การตลาดที่มีผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ครบทุกเซกเมนต์ ทั้งเครื่องยนต์สันดาป ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้า

ซึ่งสำหรับในปี 2025 นี้ ก็ได้เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 รุ่น โดยเตรียมเปิดตัวภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 โดยรถ 2 รุ่นดังกล่าว นั้นคาดว่าจะเป็น MG S5 หรืออีกชื่อก็คือ MG ES5 เอสยูวีไฟฟ้าที่เปิดตัวไปแล้วในจีน
ส่วนอีกรุ่นก็คาดว่าคงจะหนีไม่พ้น MG IM6 เอสยูวีไฟฟ้าที่มาปรากฎโฉม ครั้งล่าสุดที่ในงาน Motor Expo 2024 และที่สำคัญมาในแบบเวอร์ชันพวงมาลัยขวา ซึ่งก็ค่อยยข้างแจ๋มชัดเลยว่าเตรียมผลิตออกมาขายในไทยแน่
สำหรับ IM6 หรือชื่อเดิมอย่าง IM LS6 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบเอสยูวีคูเป่ท้ายลาด โดยในรุ่นที่จะเปิดตัวในไทยนี้ จะเป็นการนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยเป็นรถของทางแบรนด์ IM Motors ที่เป็นบริษัทร่วมทุนกันะหว่าง SAIC Motor, Zhangiang Hi-Tech และ Alibaba Group และเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของทาง IM Motors ที่ต่อมาจาก IM LS7 ที่มาในรูปแบบครอสโอเวอร์ไฟฟ้า และ IM L7 ที่เป็นซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่
MG IM6 หรือ IM LS6 จะมีความโดดเด่นโดยเฉพาะในด้านงานดีไซน์ ตัวรถจะถูกออกแบบให้ดูมีความโค้งมน และพลิ้วไหว
ในส่วนด้านหน้าของรถมาพร้อมกระจังหน้าแบบปิด ชุดไฟหน้าทรงงหยดน้ำที่ ให้อารมณที่พริ้วไหวโฉบเฉี่ยว มาพร้อมไฟ Daytime Running Light รูปตัว L
ดีไซน์ด้านข้างเน้นความลู่ลม มือจับประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ โดยสามารถยืดหดได้ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 และ 21 นิ้ว (ขึ้นแต่ละรุ่นย่อย)
ส่วนด้านหลังถูกออกแบบให้มาในรูปแบบ Fastback ท้ายลาด พร้อมติดตั้งไฟท้าย LED ที่วางยาวเต็มความกว้างของรถ เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์แบบ Duck Trail ที่ฝาประตูท้าย ด้วยงานออกแบบโดยรวมส่งผลทำให้ LS6 มีค่าสัมประสิทธิ์การลากอยู่ที่ 0.237 Cd
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 4,904 มม., กว้าง 1,988 มม., สูง 1,669 มม. และมีระยะฐานล้อ 2950 มม.
ภายในห้องโดยสารจะมาพร้อมกับงานออกแบบที่ล้ำสมัย โดยจะไม่มีปุ่มสั่งงานใด ๆ ทั้งบนแผงตอนโซลหน้า และคอนโซลกลาง ในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งจอขนาดใหญ่ ที่รวมทั้งหน้าจอกลางแบบสัมผัส และแผงหน้าปัดเข้าไว้รวมกัน โดยมีขนาดยาวถึง 26.3 นิ้ว โดยจะถูกวางแบบลอยตัว มาพร้อมการประมวลผลรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 เวอร์ชันใหม่ และระบบปฏิบัติการ IM OS2.0 ที่ IM Motors พัฒนาขึ้นเอง ด้านพวงมาลัยจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชันทรงกลม โดยในส่งนปุ่มควบคุมจะเป็นแบบลูกกลิ้ง
ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหล้าที่รูปแบบสะพาน โดยด้านบนจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแนวตั้งขนาด 15.5 นิ้ว ที่จะทำหน้าที่ควบคุมและสั่งงานระบบแอร์ และระบบต่างๆ ภายในตัวรถ รวมทั้งยังมาพร้อมกับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่ให้กำลังชาร์ต 50W ถูกออกแบบให้วางในแบบแนวตั้งแบบเอียง โดยด้านข้างจะมีช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ให้อีก 2 ช่อง
ส่วนด้านล่างของคอนโซลกลางจะมีช่องวางไว้สำหรับวางของ หรือกระเป๋าสะพายขนาดเล็ก ขณะที่คันเกียร์จะอยู่ที่คอพวงมาลัย
ด้านเบาะที่นั่งของจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง ออกแบบการตัดเย็บให้เป็นแบบลวดลายเมฆ POPO ที่เพิ่มความสบายยิ่งขึ้น เพิ่มความหรูหราตามแบบฉบับรถจีนด้วยหลังคากระจกพาโนรามิก มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาะระความจุท้ายรถอยู่ที่ 665 ลิตร และจะขยายพื้นที่มากถึง 1,640 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง
นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของที่ด้านท้ายโดยมีความจุอยู่ที่ 32 ลิตร ไว้สำหรับจัดเก็บรองเท้า หรืออุปกรณ์กีฬาที่มีขนาดไม่ใหญ่โต
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะมากับช่องเสียบชาร์จ USB-C, ชุดไฟ Ambient Light ปรับได้ถึง 256 สี, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลําโพง 20 ตำแหน่ง, ประตูท้ายแบบไฟฟ้า และหลังคากระจกพาโนรามิก
ในด้านระบบขับเคลื่อนก็คาดว่าจะเป้นแบบเดียวกับที่นำมาโชว์ในงาน Motor Expo 2024 ที่จะมากับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลัง 579 kW (787 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร โดยจะสามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 3.48 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 100 kWh สามารถชาร์จแบบเร็วสูงสุด 800 V (Quick Charge) จาก 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 18 นาที และให้ระยะทางมากกว่า 600 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
อีกทั้ง NEW MG IM6 ถือเป็นโมเดลแรก และหนึ่งเดียวในคลาสที่มีระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ ทำให้การเปลี่ยนเลนมีเสถียรภาพแม้ในช่วงความเร็วสูง รวมถึงทำให้การกลับรถในที่แคบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบอัจฉริยะแสดงผลบนหน้าจอในขณะสภาพทัศนวิสัยมืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ที่จะแสดงผลบนหน้าจอขนาดใหญ่ ช่วยเสริมความปลอดภัยขณะขับขี่โดย
โดย MG IM6 ค่อนข้างที่จะแน่นอนแล้วว่าจะถูกเปิดตัว และประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ เพราะก่อนหน้านี้ทางเอ็มจี ประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลงทะเบียนแสดงความสนใจล่วงหน้า
ในด้านราคาจำหน่ายนั้นคงไม่หนีราคาที่เปิดตัวในจีนเท่าไหร่ ลุ้นราคาอยู่ที่ 1 ล้าน ต้น ๆ ส่วนจะอยู่ที่เท่าไหร่ รวมทั้งสเปคจะแตกต่างจากที่เปิดเผปยออกมาคีั้งแนกมากน้อยขนาดไหน ปลายมีนาคม นี้ได้ทราบกันอย่างแน่นอน
ซึ่งหากมีความคืบหน้า และข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไรทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง