เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 22025 ที่ผ่านมาทาง MG แบรนด์ในเครือ SAIC ได้เปิดตัวราคาล่วงหน้าของ รถยนต์ไฟฟ้าล้วน MG4 EV ใหม่ล่าสุด ล่าสุดที่ในงาน Chengdu Auto Show 2025 ทางแบรนด์ชื่อดังจากประเทศจีน ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ MG4 EV ใหม่ออกมาแล้ว มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP และแบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตต (Semi-Solid State) มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย โดยเปิดราคาจำน่ายไว้ระหว่าง 68,800 หยวน ไปจนถึง 102,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ประมาณ 3.07 – 4.59 แสนบาท ซึ่งในรุ่น Anxin Edition ที่ใช้แบตเตอรี่แบบกึ่งโซลิดสเตต ที่มีราคา 102,800 หยวน หรือราว ๆ 4.59 แสนบาท คาดจะส่งมอบภายในปีนี้

สำหรับ MG4 ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมไฟฟ้าล้วน E3 ของ SAIC โดยถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนขนาดกะทัดรัด



ในด้านงานออกบบดีไซน์ภายนอกตัววรถนั้นตัวรถยังคงมาในรูปแบบ Hatchback 5 ประตู รูปลักษณ์ภายนอกได้รับแรงบันดาลใจจาก Cyberster รถยนต์เปิดประทุนไฟฟ้าของ MG โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์เฉียบคม ชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน มาพร้อมโลโก้เอ็มจีด้านหน้าแบบเรืองแสง ขณะที่ในส่วนกันชนหน้ามาในแบบสปอร์ต มีช่องดักอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมู


เส้นสายด้านข้างออกแบบให้มีมีเส้นที่ดูคมชัด ซุ้มล้อดีไซน์เฉียบช่วยเพิ่มความกว้างให้กับตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 – 17 นิ้ว แบบ 5 ก้าน (ขึ้นรอยู่แต่ละรุ่ย่อย) ด้านมือเปิดประตูเป็นแบบปกติ พร้อมตกแต่งกรอบกระจกบานข้าง และเสา B ของตัวรถด้วยเฉดสีดำ ส่วนพอร์ตชาร์จไฟตั้งอยู่ที่ซุ้มล้อหน้าด้านซ้ายของรถ 

ด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้ายรูปทรงลูกศร 2 ดวงเชื่อมกันด้วยแถบไฟ LED เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่มีไฟเบรกในตัว มาพร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง กันชนหลังออกแบบให้เรียบง่าย โดยีไฟทับทิมเป็นแบบแนวตั้งวางอยู่องฝั่งซ้าย – ขวาฃ


ในด้านขนาดมิติตัวรถของ MG4 EV ใหม่ จะมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า โดยมีความยาว 4,395 มม. กว้าง 1,842 มม. สุง 1,551 มม. และมีฐานล้อ 2,750 มม.


ภายในห้องโดยสารจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง จะมีให้เลือกสองโทนสีภายในที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Morandi ได้แก่ Rose Purple และ Mountain Blue พร้อมกับตกแต่งด้วยวัสดุแบบบุนุ่มรอบห้องโดยสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ MG เรียกว่า “Swan Wing” ซึ่งเป็นการผสมผสานโครงสร้างที่เรียบง่ายเข้ากับวัสดุสัมผัสนุ่ม มาพร้อมงานออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัดใหม่ หน้าจออินโฟนเทนเมนต์ที่พัฒนาร่วมกับ Oppo

โดยในส่วนของแผงแดชบอร์ดนั้นจะมากับหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสที่มี 3 ขนาด ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย ได้แก่ หน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว (ความละเอียด 720P), หน้าจอขนาด 12.8 นิ้ว (ความละเอียด 1080P) และหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว (ความละเอียด 2.5K) ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 8155 จาก Qualcomm MG4 มาพร้อมระบบ MG×Oppo Smart Mobility System ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับรถยนต์ได้อย่างราบรื่น

มาพร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ที่มาในทรงตั้งสูง แทนที่จอแสดงผลแบบรวมเดิม พร้อิมกับระบบควบคุมส่วนใหญ่จะถูกตัดออก เหลือเพียงปุ่มฟังก์ชันหลัก 5 ปุ่มที่อยู่ใต้หน้าจอส่วนกลาง อีกทั้งช่องแอร์ยังออกแบบใหม่ให้มาในแบบซ่อนที่ดูเนียมตา และกลมกลืนไปกับแผงคอนโซลหน้า เพื่อคงความสวยงามในรูปแบบมินิมอล

พร้อมกับยังมากับระบบการโต้ตอบด้วยเสียงแบบ AI, ระบบสะท้อนแอปพลิเคชัน รวมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย อีกทั้งยังมากับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่ให้กำลังชาร์จไฟ 50W มาพร้อมระบบระบายอากาศแบบแอคทีฟที่ติดตั้งอยู่ภายในคอนโซลกลาง, ฟังก์ชันกุญแจดิจิทัล นอกจากนั้นยังรองรับการอัปเดตผ่านระบบไร้สาย (OTA) ที่จะช่วยปลดล็อกฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การจอดรถระยะไกลผ่านโทรศัพท์ และระบบนำทางจากการเดินไปยังการขับขี่ที่ราบรื่น



ด้านตัวเบาะที่นั่งได้รับการออกแบบใหม่ให้เหมาะกับสรีระศาสตร์มากขึ้น โดยจะถูกหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ที่เป็นมิตรต่อผิวหนังเด้ก โดยผ่านมาตรฐาน EU Reach


โดยเบาะนั่งแต่ละที่นั่งจะความยาวของเบาะรองนั่งยาวถึง 503 มม. โดยจะมีพื้นที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสารกว้าง 409 มม. และอีกทั้งยังออกแบบพื้นที่วางเท้าของผู้ขับขี่ทำมุมเหยียบแป้นแบบแบน 46.4° ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดแรงกดที่ขาในการเดินทางไกล ขณะที่พนักพิงศรีษะนั้นจะใช้โครงสร้างแบบชิ้นเดียวเพื่อการรองรับที่มากขึ้น โดยเบาะคู่หน้าจะมาพร้อมระบบระบายอากาศ และระบบทำความร้อน ขณะที่พนักพิงศรีษะนั้นจะใช้โครงสร้างแบบชิ้นเดียวเพื่อการรองรับที่มากขึ้น

ส่วนในเบาะนั่งด้านหลังทาง MG ได้ขยายเบาะนั่งเป็น 522 มม. และสามารถปรับเอนพนักพิงได้ 27 องศา รวมทั้งยังดีไซน์ในส่วนของพื้นตัวรถ ให้มาในแบบเรียบสนิทเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาด้านหลัง เบาะยังออกแบบให้ปรับพับได้แบบ 60/40 รวมทั้งยังสามารถับได้แบบราบเรียบจนกลายเป็นเตียงคิงไซส์ ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.8 ตร.ม.



ด้านพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีความจุ 471 ลิตร และขยายพื้นที่ได้ถึง 1,362 ลิตร เมื่อพับเบาะลง นอกจากนั้นยังออกแบบชั้นวางเก็บของด้านด้านท้ายเป็นแบบ 3 ชั้น โดยจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถแบบซ่อนใต้ท้องที่มีขนาด 98 ลิตร อีกทั้งทางเอ็มจียังเผยว่า MG4 EV ใหม่จะมีมช่องเก็บของระจายตามพื้นที่ภายในมากถึง 30 ช่อง



ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับกระจกบังแดดหน้าแบบ 2 ชั้นเคลือบเงิน, กระจกบังแดด UV-IR สำหรับกระจกข้างคู่หน้า มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก พร้อมม่านบังแดดในตัว (จะมีในรุ่นท๊อป), กระจก Privacy Glass ที่คู่บานหลัง, แท่นชาร์จสามาร์ตโฟนแบบไร้สายที่ให้กำลังการชาร์จไฟ 50W, กระจกมองที่อยู่หลังม่านบังแดดหน้า มาพร้อมไฟนวลตาขนาด 10 มม. ทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า


ด้านระบบความปลอดภัยจะมากับฟีเจอร์ความปลอดภัย 14 รายการ อาทิ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เป็นต้น โดยในรุ่นท็อปสุดยกระดับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา 4 ตัว กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง ขับเคลื่อนด้วยชิป Horizon Journey J6e ที่รองรับฟังก์ชัน NOA (Navigation On Assist) ความเร็วสูง เช่น ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบช่วยเปลี่ยนเลนเมื่อไฟเลี้ยวทำงาน และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อน MG4 EV ใหม่ จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่คู่ล้อหลังให้กำลัง 120 kW / 160 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ตัวรถจะทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 160 กม./ชม.


มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ที่มีให้เลือก 2 ขนาดความจุ ได้แก่ 42.8 kWh ชาร์ตไฟให้ระยะทางวิ่งไกล 437 กม. (CLTC) และขนาด 53.9 kWh ชาร์จไฟเต็มให้ระยะทางวิ่งไกล 530 กม. รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 30% ถึง 80% ในเวลา 20 นาที

ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบ Semi-Solid State ที่คาดว่าจะมีขนาดความจุอยู่ที่ 70 kWh ชาร์จไฟให้ระยะทางวิ่งไกลถึง 537 กม. (CLTC) โดยตัวแบตเตอรี่นั้นจะเป็นของทาง QingTao Energy โดยจะใช้สารอิเล็กโทรไลต์เหลวเพียง 5% เท่านั้น ซึ่งผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด อาทิเช่นผ่านการทดสอบการเจาะทะลุ 360 องศา รวมทั้งยังสามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ถึง -7°C เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอรอน-ฟอสเฟต (LFP) ทั่วไป



สำหรับ MG4 EV ใหม่ที่เปิดวางจำหน่ายในประเทศจีน จะมีเฉดสีตังถังให้เลือก 6 สีได้แก่ สีแดง Coral Red, สีม่วง Donglai Purple, สีเขียว Donglai Purple, สีเทา Hoshino Gray, สีน้ำเงิน Island Blue และ สีขาว Moonlight White



ส่วนในบ้านเรานั้นคาดว่า MG4 EV ใหม่ คงจะเข้ามาในทำตลาดในไทยในเร็ว ๆ วันนี้
