มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยโฉม Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) รุ่นปี 2025 ที่ได้รับการพัฒนาทั้งรูปลักษณ์ที่สะท้อนความดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยชิ้นส่วนสีดำเงารอบคัน ให้ความรู้สึกทรงพลัง โดดเด่น มีสไตล์ เพิ่มระบบอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีที่ช่วยในการขับขี่ เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ให้สนุก เร้าใจ และเหนือชั้นกว่าเคย
เริ่มจากในรุ่น Mitsubishi Triton Double Cab Plus Ultra (มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส อัลตร้า) ที่มาในแบบ 4 ประตูยกสูง
ภายนอกจะตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีดำเงารอบคัน เพื่อเพิ่มความเข้ม เท่ และดุดันมากกว่าเดิม ด้วยไดนามิก ชิลด์สีดำเงา กรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา
กันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ บันไดข้างสีดำ ตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ด้านภายในห้องโดยสารของ Triton Double Cab Plus Ultra ถูกเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วตามที่กำหนด และระบบจะใช้เรดาห์ในการคำนวณเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามที่เหมาะสม และสามารถชะลอความเร็วของรถให้เองโดยอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง
นอกจากนั้นยังมาเพิ่มเติมเทคโนโลยีความปลอดภัย ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) และยังยกระดับความพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยระบบฟอกอากาศ nanoeTMX ที่ติดตั้งอยู่กับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา มีคุณสมบัติในการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ให้ความสดชื่น และลดอาการอ่อนเพลียในการเดินทาง
มาพร้อมเบาะที่นั่งหนังสังเคราะห์มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard) ให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนยังคงมากั้บเครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ที่ให้กำลัง184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ผสานช่วงล่างใหม่ และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ คล่องตัวทั้งในเมืองและขณะเดินทางไกล
ขณะที่ในรุ่นเรือธงอย่าง Mitsubishi Triton Athlete (มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท) ที่เป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) ก็เพิ่มความสะดวกสบายในห้องโดยสารขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบฟอกอากาศ nanoeTMX
ขณะที่ในส่วนรูปลักษณ์ภายนอกก็ที่สะดุดตา สปอร์ต ดุดัน ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์และไม่ซ้ำกับใคร การันตีด้วยรางวัลด้านการออกแบบระดับโลก iF Design Award 2024
อีกทั้งยังแรงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์ “ไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ ทู (Hyper Power X2)” เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบสองสเตจ (Two-Stage Turbo) ผสานขุมพลังด้วยกำลังสูงสุดที่ 204 แรงม้า โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Super Select 4WD II ที่มีชื่อเสียงของมิตซูบิชิ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่งกำลังของเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง
นอกจากในรุ่น Mitsubishi Triton Double Cab (มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ) ที่เป็นแบบ 4 ประตู ก็มาในลุคใหม่ เข้มเต็มขั้นยิ่งกว่าเดิม ด้วยไฟหน้า และไฟเดย์ไทม์ LED แบบใหม่ พร้อมเสริมความเข้ม ด้วยชิ้นส่วนตกแต่งสีดำเงา ไดนามิก ชิลด์สีดำเงา และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ
ในด้านพละกำลังยังคงมากับเครื่องยนต์ดีเซลทีให้กำลัง 150 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร
สำหรับราคาจำหน่าย Mitsubishi Triton รุ่นปี 2025 (ในทุกรุ่นย่อย)
- รุ่น Single Cab 2WD (Low Rider) 2.4 Active (Cab & Chassis) ราคา 569,000 บาท
- รุ่น Single Cab 2WD (Low Rider) 2.4 Pro ราคา 609,000 บาท
- รุ่น Single Cab 4WD 2.4 Pro 4WD ราคา 709,000 บาท
- รุ่น Single Cab 4WD 2.4 Pro 4WD AT ราคา 759,000 บาท
- รุ่น Mega Cab 2WD (Low Rider) 2.4 Active ราคา 622,000 บาท
- รุ่น Mega Cab Plus 2.4 Pro ราคา 749,000 บาท
- รุ่น Mega Cab Plus 2.4 Ultra AT ราคา 959,000 บาท
- รุ่น Double Cab 2WD (Low Rider) 2.4 Pro ราคา 722,000 บาท
- รุ่น Double Cab Plus 2.4 Prime ราคา 914,000 บาท
- รุ่น Double Cab Plus 2.4 Prime AT ราคา 959,000 บาท
- รุ่น Double Cab Plus 2.4 Ultra A ราคา 1,059,000 บาท
- รุ่น Double 4WD 2.4 Prime 4WD ราคา 1,039,000 บาท
- รุ่น Double 4WD 2.4 ATHLETE 4WD AT ราคา 1,299,000 บาท
ในทุกรุ่นย่อย สี Metallic เพิ่ม 7,000 บาท และ สี White Diamond เพิ่ม 10,000 บาท
